×

ก้าวไกลเปิดจุดยืนเกณฑ์ทหาร ก้าวแรกต้องปลอดภัย ก้าวต่อไปยกเลิกการเกณฑ์

โดย THE STANDARD TEAM
01.04.2024
  • LOADING...
เกณฑ์ทหาร

วันนี้ (1 เมษายน) ธนเดช เพ็งสุข สส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล และในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร แถลง Policy Watch เนื่องในวันแรกของการ เกณฑ์ทหาร 1 เมษายน 2567

 

ธนเดชกล่าวว่า หลายคนเคยคาดหวังว่าวันนี้หากก้าวไกลเป็นรัฐบาลการยกเลิกเกณฑ์ทหารจะต้องเกิดขึ้น แต่ก็น่าผิดหวังอย่างยิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันยังไม่ได้ผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทำให้ประชาชนหลายคนยังต้องเสี่ยงจับใบดำใบแดง

 

อย่างไรก็ตาม ก้าวแรกที่เราทำคือโครงการพลทหารปลอดภัยของ กมธ.การทหาร ที่ริเริ่มโดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน กมธ. โครงการนี้เกิดขึ้นจากเงื่อนไขปัจจุบันที่รัฐบาลยังไม่ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร และยังมีปัญหาตั้งแต่อดีต คือประชาชนไม่รู้สึกไว้วางใจกองทัพ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการคุ้มครองกำลังพลให้มีศักดิ์ศรีและความปลอดภัย เป็นพื้นที่ให้ครอบครัวได้อุ่นใจว่าผู้แทนราษฎรจะอยู่เคียงข้างทั้งในยามทุกข์และยามสุข

 

สำหรับความมุ่งหวังของโครงการพลทหารปลอดภัยคือ

 

  1. รับข้อร้องเรียนจากพลทหาร ญาติของพลทหาร หรือผู้พบเหตุ โดยสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง LINE OA ของ กมธ.การทหาร โดยทาง กมธ. จะเข้าช่วยเหลือแก้ไขวิกฤตทันที และในกรณีที่พบว่าพลทหารถูกทำร้าย, ถูกธำรงวินัยอย่างผิดระเบียบ, ถูกซ้อมทรมาน หรือถูกกระทำการใดๆ ที่ไม่เป็นธรรม ทาง กมธ.การทหาร จะมุ่งระงับเหตุอย่างทันท่วงทีผ่านการประสานงานโดยตรงกับกระทรวงกลาโหม หรือตัวแทนเหล่าทัพที่ประจำ กมธ.

 

  1. หากการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นและเราไม่สามารถยับยั้งได้ทันท่วงที หรือเป็นเหตุให้เกิดการจำหน่าย หรือพลทหารต้องเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรง กมธ.การทหาร จะประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือสำนักการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีกับนายทหารผู้กระทำและผู้บังคับบัญชาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อย่างตรงไปตรงมา

 

  1. กรณีพลทหารหนีทหาร กมธ.การทหาร จะนำพลทหารกลับสู่กรมกองด้วยความปลอดภัย เพื่อคืนสิทธิ์คืนศักดิ์ศรีในการใช้ชีวิต ขอให้กำลังพลที่หนีออกไปประสานงานกลับมาที่ กมธ. ได้

 

  1. จากเหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมาที่มีพลทหารกระทำอัตวินิบาตกรรมระหว่างอยู่ในค่ายทหาร พบว่าสาเหตุทั้งหมดมาจากความเครียด วิตกกังวล กมธ.การทหาร จึงมีแนวนโยบายนำจิตแพทย์เข้าพบกำลังพล เพื่อให้กระทรวงกลาโหมได้ดูเป็นเยี่ยงอย่างในการนำไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพล

 

ธนเดชกล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลเคยยื่นร่างกฎหมายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารเป็นร่างการเงิน จนถึงวันนี้นายกรัฐมนตรียังไม่เซ็นรับรอง พรรคจึงยื่นร่างกฎหมายอีกฉบับ ไม่เป็นร่างการเงิน จะนำไปสู่การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ด้วยการแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ตัดสิทธิกองทัพในการบังคับคนไปเป็นทหารในห้วงเวลาที่ไม่ใช่สถานการณ์สงคราม เพื่อให้กองทัพประกอบด้วยคนที่สมัครใจเท่านั้น เหตุผลที่เลือกใช้วิธีนี้เพราะเป็นวิธีที่มีกรอบเวลาชัดเจน สามารถกำหนดเวลาให้กองทัพปรับตัวได้ และเป็นแรงกดดันให้กองทัพต้องยกระดับตัวเอง

 

ทั้งนี้ การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารในปัจจุบันมี 2 วิธี คือ

 

  1. เลิกแบบลุ้นปีต่อปี
  2. เลิกแบบการันตีไม่มีเกณฑ์

 

จากปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยความต้องการกำลังพลประมาณ 90,000 นายต่อปี มีคนสมัครประมาณ 30,000 คน เท่ากับ 1 ปีจะมีคนอีกประมาณ 60,000 คนต้องเสี่ยงเข้าไปจับใบดำใบแดงทั้งที่ไม่ได้อยากเป็นทหาร และการมีอยู่ของการเกณฑ์ทหารไม่ได้ส่งผลดี เนื่องจากทุกคนที่ถูกเกณฑ์ล้วนมีต้นทุนต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพ ความเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน การดูแลครอบครัว

 

การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารของพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ ข้อเสนอของเราคือให้กองทัพทำตาม 2 เงื่อนไขหลัก คือลด Demand หรือยอดกำลังพล ซึ่งหากกองทัพตั้งใจแก้ปัญหา เช่น ยอดผี การจำหน่ายไปอยู่บ้านนาย น่าจะลดยอดกำลังพลเหลือประมาณ 50,000-60,000 คนได้ ควบคู่ไปกับการเพิ่ม Supply คือการเพิ่มสวัสดิการให้กับคนที่สมัครใจเป็นทหาร ทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิต การประกันรายได้ หรือการคุ้มครองความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน หากทำได้มั่นใจว่าจะมีประชาชนไม่น้อยที่สมัครใจเข้าไปเป็นกำลังพล

 

ธนเดชกล่าวสรุปว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน การแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ได้สอดคล้องกับแนวทางก่อนการเลือกตั้ง ดูเหมือนรัฐบาลจะเลือกใช้การยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบที่ 1 คือลุ้นปีต่อปี โดยรัฐบาลพยายามให้ข่าวว่าจะค่อยๆ ลดจำนวนความต้องการ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขหรือรายละเอียดที่ชัดเจนออกมาว่าปีนี้ ปีหน้า หรือในช่วงเวลา 4 ปี จำนวนความต้องการกำลังพลจะลดลงเหลือเท่าไร แบบนี้เป็นวิธีที่กองทัพทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ประชาชนต้องการ

 

“ในเมื่อร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลเข้าสภาแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลที่มีนายกฯ ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ที่เคยป่าวประกาศว่าทหารต้องมาจากความสมัครใจ ไม่ใช่การเกณฑ์ จะกล้าหาญพอที่จะเซ็นผ่านร่างนี้เพื่อบรรจุเข้าสู่สภา และนี่คือห้วงเวลาวัดใจเพื่อน สส. ด้วยว่าวันที่ท่านพูดกับพี่น้องประชาชน ท่านมีความจริงใจแค่ไหน จึงหวังว่าจะให้การสนับสนุนและเดินหน้าไปสู่การยกเลิกเกณฑ์ทหารร่วมกัน แต่หากพวกท่านไม่สนับสนุน ก็อาจหมายความว่าสิ่งที่พวกท่านพูดก่อนหน้านี้เป็นเพียงการโฆษณาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงเท่านั้น” ธนเดชกล่าว

 

ธนเดชทิ้งท้ายว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตร่างกฎหมายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารที่ก้าวไกลเสนอจะผ่านสภา และจะดีไปกว่านี้ถ้าปีหน้าประเทศไทยไม่ต้องมีการเกณฑ์ทหารอีก ขอให้รัฐบาลเร่งยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารโดยเร็วที่สุดไม่ว่าด้วยวิธีใด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising