กลายเป็นวลีฮิตในโลกโซเชียลไปแบบงงๆ สำหรับวลี “ฉันเป็นประธานบริษัท” จากแอ็กเคานต์ใน TikTok ของ ‘พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง’ จากซีรีส์ สายลับ รปภ. คลิปขนาดสั้น 3 ตอนจบ ทั้งที่คลิปนี้ถูกปล่อยมาได้พักใหญ่ และไม่ปรากฏประโยคดังกล่าวในคลิปเลย แต่คนดูก็เข้าใจได้ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่าย สรุปได้ภายใน 2 บรรทัด คือ ‘เจ้าของบริษัทปลอมตัวเป็นยาม แล้วได้พบการใช้อำนาจกดขี่จากพนักงานระดับกลางและสูง ก่อนทุกคนจะหน้าหงาย เมื่อยามคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นประธานบริษัท” เนื้อหามีเท่านี้ แต่ทำไมวลีนี้ถึงฮิต เราลองมาวิเคราะห์กัน
@ploychidjun ไม่ว่าคุณจะมีเส้นสายมาจากไหน กฎก็คือกฎ ต้องให้ความร่วมมือจริงมั้ยคะ? #polychidjun #สายลับ #รปภ #สุดปัง #ทำตัวเป็นใหญ่ #fyp ♬ Time Back – 杨多
พลอย ชิดจันทร์ เริ่มหันมาทำคลิปละครคุณธรรมสร้างจากแรงบันดาลใจ ที่เธอได้เห็นคลิปแนวนี้จากโซเชียลมีเดียของจีน และปล่อยคลิปแรกออกไปในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก จากนั้นก็ทำคลิปละครคุณธรรมเรื่อยมาด้วยโปรดักชันง่ายๆ ใช้นักแสดงเป็นคนใกล้ตัว และบทไม่ซับซ้อน ประเภททำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีกลิ่นอายของละครไทย โดยพลอยเข้าไปสวมบทบาทต่างๆ ในเรื่อง จนกระทั่งช่วงหลัง เรื่องราวการปลอมตัวเป็นประธานบริษัทดูจะฮิตกว่าเรื่องอื่นๆ พลอยจึงสวมบทประธานบริษัทอยู่บ่อยๆ
จริงๆ แล้วส่วนหนึ่งก็มีกลุ่มคนที่ชอบดูละครคุณธรรมจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นรายการฟ้ามีตาก็คงไม่ยืนหนึ่งละครสั้นคุณธรรมมาอย่างยาวนานถึง 14 ปี การที่พลอยทำคลิปวิดีโอประเภทนี้ก็ไม่ต่างจากร่างอวตารของ ดวงดาว จารุจินดา ในโลก TikTok ก็คงไม่ผิด
รายการฟ้ามีตา
อีกส่วนคือ เราเองถูกหล่อหลอมมาด้วยเรื่องบาปบุญคุณโทษ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ผ่านละครไทยมาโดยตลอด คนดูต้องการบทสรุปที่สาสมสะใจสำหรับคนชั่ว ที่เห็นชัดๆ ก็คือจุดจบของนางร้ายในละครเรื่องต่างๆ มักจะสะท้อนผลกรรมชัดเจน เช่น ใช้หน้าตาเป็นอาวุธข่มเหงคนอื่นนักใช่ไหม ตอนจบก็เสียโฉมไปซะเลย! คิดวางแผนซับซ้อนเก๊งเก่ง ตอนจบก็เป็นบ้าไปซะ! สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามองโลกแค่สีขาวกับดำ จนไม่มีพื้นที่สีเทาๆ ไว้รองรับเหตุผลของตัวละครเท่าไร กลายเป็น ‘จุดด้อย’ ของละครไทยเรื่อยมา
และเพราะ ‘จุดด้อย’ นี่แหละ ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ละครคุณธรรมของพลอยฮิต ทั้งการให้ตัวละครชั่วให้สุดและพบจุดจบที่สะใจ มาผนวกเข้ากับองค์ประกอบที่ดู ‘ละคร ละค้อนไทย’ ทั้งบทสนทนาไม่เข้าปาก การแสดงแข็งๆ รวมถึงซีนซิกเนเจอร์อย่างการสาดน้ำใส่นางเอกที่มีให้เห็นดาษดื่น เรียกว่าครบทุกส่วนผสมที่น่านำมา ‘ล้อเลียน’ เป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่ออยู่ใน TikTok ที่เน้นคลิปสนุกสนาน ยิ่งทำให้มันกลายเป็นไวรัลได้ง่ายๆ ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่เพราะคุณงามความดี แต่เพราะมันมีมุมตลกขบขันให้เสียดสีต่างหาก อีกทั้งประโยค “จริงๆ แล้ว ฉันเป็นประธานบริษัท” ก็มีความเฉิ่มเชย ทำให้เรานึกย้อนไปถึงประโยคที่ได้ยินบ่อยๆ ในบทละครและภาพยนตร์ไทยอย่าง “ผมเป็นตำรวจปลอมตัวมา” เหมือนจะเซอร์ไพรส์แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ซึ่งเมื่อคลิปกลายเป็นไวรัล ประโยคนี้ก็จุดติดให้คนเอาไปล้อเลียนเป็นมีมต่างๆ อย่างที่เราได้เห็นกัน
ซีรีส์ สายลับ รปภ.
อีกส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากสภาพสังคมและการเมืองของไทย เพราะเราต่างสัมผัสได้ถึงความเหลื่อมล้ำ และมีความรู้สึกเป็นรองหรือ อันเดอร์ด๊อก อยู่ลึกๆ การที่ได้ดูตัวละครที่ (เหมือนจะ) อันเดอร์ด๊อก แล้วได้เผยสถานะที่สูงส่งกว่าในช่วงท้ายมันได้ความสะใจ ในขณะที่เรื่อง ‘ยาม’ กลายเป็น ‘ประธานบริษัท’ ก็เป็นสิ่งที่ได้เห็นในแวดวงการเมืองปัจจุบัน ทำให้ประโยค “จริงๆ แล้ว ฉันเป็นประธานบริษัท” เหมือนเป็นการระบายความคับข้องใจถึงใครคนหนึ่ง ที่แม้แต่ให้เป็นประธานกฐินผ้าป่า เรายังไม่อยากให้ได้เป็นเลย
ทั้งหมดทั้งมวลคือเหตุผลให้ประโยคง่ายๆ กลายเป็นวลีฮิตที่สะท้อนมุมมองต่อละครแบบไทยๆ และความคับข้องใจต่อสังคมในปัจจุบัน ที่คนไทยพร้อมจะตลกกลบเกลื่อน แม้เสียงหัวเราะนั้นจะมาจากความขันขื่นก็ตาม
อ้างอิง:
