×

สธ. แจงยอดป่วยวันนี้สูงขึ้นยังไม่น่ากังวล จับตาแนวโน้มจากยอดเฉลี่ย เผยยอดเสียชีวิตลดลงช้ากว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากการรักษาที่ต้องใช้เวลานาน

โดย THE STANDARD TEAM
09.09.2021
  • LOADING...
เฉวตสรร นามวาท

วันนี้ (9 กันยายน) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีน โดยระบุถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่แกว่งตัวสูงขึ้นมาเป็น 16,031 ราย เมื่อเทียบกับวานนี้ 14,176 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขย้ำว่ายังไม่น่ากังวล เพราะยังคงต้องจับตามองอย่างต่อเนื่อง และต้องดูค่าเฉลี่ยย้อนหลัง รวมถึงการเฝ้าระวังคลัสเตอร์ที่มีการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละพื้นที่ด้วย

 

อย่างไรก็ตามยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเพียงหนึ่งปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขจะนำมาพิจารณาในการผ่อนคลายมาตรการ หรือคงมาตรการเดิมไว้ หลังมีการปรับมาตรการในวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา 

 

ขณะที่เมื่อดูจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน กทม. และปริมณฑล ยังอยู่ในภาวะที่คงที่ ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก และส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยข้อมูลระบุว่า 

 

  • กทม. และปริมณฑล มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 6,318 ราย จากวานนี้ 5,946 ราย
  • พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 19 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4,933 ราย จากวานนี้ 3,728 ราย
  • ภาคใต้ 4 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,352 ราย จากวานนี้ 1,095 ราย 
  • จังหวัดอื่นๆ 48 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อลดลงเหลือ 2,788 ราย จากวานนี้ 2,885 ราย 

 

นพ.เฉวตสรร ระบุถึงการตรวจเชิงรุกในช่วงนี้ที่ลดลงเป็นสถานการณ์ที่สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ และเฝ้าจับตาคลัสเตอร์ที่มีการระบาดสูงอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าพื้นที่ใดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็จะมีทีมที่เข้าไปสุ่มตรวจรายพื้นที่ โดยเฉพาะจุดเฝ้าระวัง เช่น ชุมชน ตลาด โรงงานต่างๆ 

 

สำหรับประเด็นที่สื่อมวลชนสอบถามเข้ามาในวันนี้ คือประเด็นเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีน Pfizer ที่มีการรายงานว่าฉีดให้กลุ่มเป้าหมายไปแล้วประมาณ 9 แสนโดส ยังเหลืออีก 6 ล้านโดส กระทรวงสาธารณสุขมีการจัดสรรอย่างไร วัคซีนที่เหลือไปไหน และใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง ซึ่ง นพ.เฉวตสรร ยืนยันว่าวัคซีน Pfizer ไม่ได้หายไปไหน และกระทรวงสาธารณสุขมีการดูแลด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด 

 

ซึ่งในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ได้ทยอยฉีดเข็มกระตุ้นไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องเก็บไว้สำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 หรือผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยฉีดเข็มแรกไปแล้ว และรอระยะเวลาในการฉีดเข็มที่สอง โดยจะมีการทยอยจัดส่งตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้วัคซีนหมดอายุจากการจัดเก็บในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่อีกส่วนต้องกันไว้สำหรับชาวต่างชาติที่มีที่อยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ

 

ส่วนประเด็นคำถามว่าทำไมผู้ติดเชื้อลด แต่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่ลดลงตามไปด้วย นพ.เฉวตสรรชี้แจงว่า เป็นเรื่องปกติที่จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงได้ช้ากว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เนื่องจากกระบวนการในการรักษาผู้ป่วยโควิดจากการทราบผลจนถึงขั้นเสียชีวิตจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยการรายงานผู้เสียชีวิตที่รักษานานที่สุดคือ 45 วัน ดังนั้นยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้จึงมีที่มาจากจำนวนผู้ป่วยในช่วงที่มีการระบาดสูง ส่วนความเสี่ยงยังคงเป็นเรื่องเดิม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่ง นพ.เฉวตสรรย้ำเตือนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงรีบลงทะเบียนฉีดวัคซีน รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่ต้องป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้นำเชื้อกลับไปแพร่สู่ผู้สูงอายุภายในบ้าน 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising