×

สธ.เผยผลตรวจอนุทินและผู้ใกล้ชิดลงพื้นที่สมุทรสาครเป็นลบ แต่ให้กักตัวสังเกตอาการ 14 วัน

โดย THE STANDARD TEAM
28.12.2020
  • LOADING...
สธ.เผยผลตรวจอนุทินและผู้ใกล้ชิดลงพื้นที่สมุทรสาครเป็นลบ แต่ให้กักตัวสังเกตอาการ 14 วัน

วันนี้ (28 ธันวาคม) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 กรณีจังหวัดสมุทรสาครและกระบี่ โดย นพ.โอภาส กล่าวว่า ผลการตรวจของยืนยันของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของ วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พบสารพันธุกรรมโควิด-19 ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว โดยมีอาการเจ็บคอ ต้องขอให้กำลังใจท่านที่ติดเชื้อจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักในการควบคุมโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ 

 

สำหรับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของคณะผู้บริหารที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำกับการทำงานในพื้นที่ และการตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นำโดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผลตรวจเป็นลบ ส่วนผู้บริหารท่านอื่นซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข, รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, เลขาธิการองค์การอาหารและยา, อธิบดีทุกกรมที่ลงพื้นที่ และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ผลตรวจยืนยันเป็นลบทุกคน 

 

ทั้งนี้ผู้บริหารทุกคนได้แยกตัวเอง ไม่ทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มาก ปฏิบัติภารกิจเท่าที่จำเป็น โดยเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ เดินทางโดยรถส่วนบุคคล โดยจะตรวจซ้ำครั้งที่ 2 ใน 3-5 วัน และตรวจเป็นระยะจนครบ 14 วัน ซึ่งมาตรการจะเข้มกว่าคนทั่วไป เพื่อเป็นตัวอย่าง มั่นใจ ห่วงใย ไม่ให้แพร่กระจายไปสู่คนอื่น 

 

สำหรับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ขอให้สังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่คลุกคลีกับคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่หากไม่สบายใจสามารถมารับการตรวจหาเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูรหลังจากนี้อีก 5 วัน 

 

“เหตุการณ์ครั้งนี้สอนเราว่าเรามีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ เนื่องจากระยะหลังส่วนใหญ่พบว่าผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ อยู่ร่วมในชุมชน และแพร่กระจายเชื้อได้ และขอชื่นชมผู้ว่าฯ ที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก รวมทั้งความร่วมมือในการทำมาตรการกักตัว เว้นระยะห่าง เช่นที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิบัติทันทีที่ทราบว่ามีความเสี่ยง ทำให้คนอื่นๆ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ถ้าทุกคนร่วมมือกัน” นพ.โอภาสกล่าว

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising