×

ธัญวัจน์ ชี้ กระแส ‘มิลลิ’ ทำให้เห็นว่า ‘Soft Power’ ไม่ใช่การยัดเยียดความเป็นไทยแบบแช่แข็ง แนะรัฐควรส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย

โดย THE STANDARD TEAM
17.04.2022
  • LOADING...
MILLI Soft Power

วันนี้ (17 เมษายน) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีที่ มิลลิ หรือ มินนี่-ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินแรปเปอร์หญิงมากความสามารถ ได้ขึ้นแสดงเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ที่สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า มิลลิได้นำเสนอมุมมองการเล่าเรื่องและตีแผ่ประเทศไทยของศิลปินผ่านท่วงทำนองจังหวะที่สนุกนาน ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักเพียงข้ามคืน และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย ทั้งการนำข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นมากินบนเวที และเนื้อเพลงที่เสียดสีการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟที่ไม่มีการพัฒนาใช้มา 120 ปี ราคาของเสาไฟกินรี หรือการตะโกนบอกกับชาวโลกว่า “เราไม่ได้ขี่ช้าง” จากความเข้าใจผิดของชาวต่างชาติว่าคนไทยขี่ช้าง

 

ธัญวัจน์กล่าวต่อไปว่า วันนี้คนไทยที่มีความสามารถมากมายไม่แพ้คนชาติไหน เดินออกไปเฉิดฉายสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยที่รัฐไม่ได้มีนโยบายใดๆ ในการสนับสนุนเลย ถือเป็นการเสียโอกาสในสิ่งที่รัฐบาลรู้ว่าต้องส่งเสริม แต่ไม่ลงมือทำ

 

และจะพบว่า วงการเพลงไทยในช่วงยุค 80 และ 90 เป็นช่วงเวลาที่ ‘T-Pop’ โดดเด่นอย่างมาก ทั่วเอเชียต่างจับตา เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกาหลีใต้เองเริ่มก่อร่างสร้าง ‘K-Pop’ แต่หลังจากปี 2000 ประเทศเกาหลีใต้ได้สร้างเครือข่ายทางวัฒนธรรมทั่วทวีปเอเชีย และสร้าง Soft Power จนวันนี้ก้าวสู่ระดับโลก

 

“หากประเทศไทยต้องการสร้าง Soft Power สู่ชาวโลกจริงๆ ก็คงต้องปรับมุมคิดเสียใหม่ การสร้าง Soft Power แบบเทพเจ้าและหยุดนิ่งแช่แข็งไม่น่าจะใช้ได้กับยุคนี้ ยุคที่โลกเรากำลังมีการเคลื่อนที่ทางวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” ธัญวัจน์กล่าว

 

นอกจากนี้ ธัญวัจน์ยังมองว่า รัฐจะต้องสนับสนุนศิลปินตั้งแต่เด็ก เปิดโอกาสไม่เฉพาะแต่ศิลปะดั้งเดิมของไทย แต่ต้องสนับสนุนศิลปะสากล ศิลปะร่วมสมัยด้วย รัฐต้องร่วมจับมือกับภาคเอกชนในการสร้างเครือข่ายทางวัฒนธรรมเพื่อขยายงานออกไป หรือความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างงาน และที่สำคัญต้องนำเสนอเนื้อหาประเภท ‘Something in Common’ หรือสิ่งที่ตรงกับความรู้สึกผู้คน จะเป็นกุญแจสำคัญของความนิยม และความสำเร็จในการส่งเสริม Soft Power ของเมืองไทย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising