สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Microsoft ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่าสิ่งที่ต้องเร่งตระหนักเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากที่สุดคือ การที่ “ทั้งสังคม” ต้องร่วมมือกันเพื่อ “เพิ่มโอกาสในการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดอันตรายจากเทคโนโลยีให้เหลือน้อยที่สุด
นาเดลลากล่าวว่า มนุษย์ต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI นี้อย่างแน่นอน และเป็นหน้าที่ของผู้ใช้งานที่ต้องลดผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ โดยความท้าทายก็คือการที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยี AI
ความเห็นของซีอีโอ Microsoft สอดคล้องกับความวิตกกังวลที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้นำทางความคิด และนักพัฒนา ต่างก็สงสัยว่าจะกำกับดูแลควบคุมเทคโนโลยี Generative AI อย่างไร หลังจากที่เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการแพร่หลายสู่สาธารณะอย่างรวดเร็ว เมื่อ OpenAI สตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาเปิดตัวแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดย OpenAI ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft ในการพัฒนาประสิทธิภาพของ ChatGPT
ขณะเดียวกัน ด้วยศักยภาพของ AI ได้จุดประกายการแข่งขันด้าน AI อย่างร้อนแรงระหว่างบรรดาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ชั้นนำ ซึ่งรวมถึง Google และ Microsoft แต่การพัฒนาอย่างรวดเร็วได้จุดประกายความกังวลในหมู่ฝ่ายนิติบัญญัติและผู้นำในอุตสาหกรรมกว่า 27,000 คน ที่มาร่วมกันลงนามในจดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือนมีนาคม ที่เรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการ AI หยุดการพัฒนาชั่วคราว โดยหนึ่งในนั้นรวมถึง อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla
นาเดลลากล่าวว่าการพัฒนา AI กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผู้คนยังคงเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเป็นการออกแบบที่คนเป็นผู้กำหนดและเลือกแล้ว
นอกจากนี้ ท่ามกลางความกังวลและกระแสต่อต้าน AI ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาส่วนหนึ่งรวมถึงนาเดลลาก็มองว่า เทคโนโลยี AI จะเป็นตัวพลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยนาเดลลาได้เปรียบเทียบการเปิดตัว ChatGPT กับการที่ Apple เปิดตัวสมาร์ทโฟน ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับวงการโทรศัพท์มือถือโลก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft ยังได้แสดงความเห็นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกแน่นอน
นาเดลลายอมรับว่า ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น จะมี ‘การแทนที่’ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในตลาดงาน กระนั้นโดยส่วนตัวนาเดลลาเชื่อว่า AI จะสามารถสร้างงานใหม่ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นาเดลลาได้ยกตัวอย่างถึงอาชีพนักพัฒนา (Developper) ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดงาน และ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่และเข้าถึงความรู้ใหม่ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้การเรียนรู้ง่ายขึ้น ซึ่งการเข้าถึงความรู้ที่ง่ายขึ้นจะส่งผลต่อการศึกษาด้วย เพราะในที่สุดแล้วเด็กๆ ก็สามารถเข้าถึง ‘ติวเตอร์ AI’ ที่สามารถแยกย่อยข้อมูลและขจัด ‘ความกลัวในการเรียนรู้’
นาเดลลาย้ำว่า ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และแยกแยะยังคงเป็นทักษะจำเป็นที่มนุษย์ทุกคนต้องมี ซึ่งทักษะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากการพลิกแพลงรู้จักใช้ประโยชน์จากเครื่องมือใหม่ๆ ก่อนยกวลีในตำนานของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple ที่ระบุว่า “คอมพิวเตอร์เป็นเหมือนจักรยานสำหรับจิตใจ” (Computers are like a bicycle for the mind) แต่ตอนนี้ประโยคดังกล่าวต้องเป็นเวอร์ชันอัปเดตว่า ขณะนี้ มนุษย์มีเครื่องจักรไอน้ำสำหรับจิตใจ (A steam engine for the mind)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การศึกษาครั้งแรกเกี่ยวกับ AI บนการทำงานจริง สะท้อนว่าช่วยให้พนักงานทำงานดีขึ้น 14%
- เจฟฟรีย์ ฮินตัน เจ้าของฉายา ‘เจ้าพ่อแห่ง AI’ ออกโรงเตือน เทคโนโลยี AI ยังอันตราย แนะพัฒนาด้วยความระมัดระวัง
- Samsung สั่งห้ามพนักงานใช้ ChatGPT และเครื่องมือ AI ทั้งหมด หลังมีคนทำข้อมูลรั่วไหล หากฝ่าฝืนมีโทษไล่ออกทันที
อ้างอิง: