หลังการปรากฏกรณีบุคลากรของพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์เกี่ยวกับประเด็นคุกคามและความรุนแรงทางเพศในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่พรรคก้าวไกลได้ดำเนินการสอบสวนและมีมาตรการลงโทษมาแล้วอย่างน้อย 2 กรณี จากทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในหน้าสื่อขณะนี้ 4 กรณี
สังคมตั้งคำถามถึงการกระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากภาพลักษณ์ของพรรคนั้นถูกนำเสนอเป็นพรรคที่มีความก้าวหน้า มีนโยบายเรื่องสิทธิทางเพศ และค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องการตรวจสอบ อีกทั้งยังมีมาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมค่อนข้างสูง เช่น กรณี สส. เมาแล้วขับ ได้แสดงความรับผิดชอบทั้งการถูกดำเนินคดีและการลาออกจาก สส.
THE STANDARD ชวนย้อนมองพรรคก้าวไกลต่อปมปัญหาเรื่องเพศ รวมถึงกระบวนการสอบสวน การป้องกัน และมุมมองของสังคมที่รอคอยบทสรุป
4 กรณีความผิดทางเพศของบุคลากรในพรรคก้าวไกล
1. สิริน สงวนสิน: สส. กทม. พรรคก้าวไกล
- กรณีทำร้ายร่างกายแฟนสาว ถูกลงโทษไม่ให้มีตำแหน่งในพรรค ไม่ให้เป็นประธานกรรมาธิการ และหากกระทำผิดซ้ำจะถูกขับออกจากพรรค
2. เกรียงไกร จันกกผึ้ง: อดีตผู้สมัคร สส. ชัยภูมิ พรรคก้าวไกล
- กรณีล่วงละเมิดทางเพศ พรรคได้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
3. วุฒิพงศ์ ทองเหลา: สส. ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล
- กรณีมีการปรากฏข้อความแชตคุกคามทางเพศ อยู่ในระหว่างการสอบข้อเท็จจริงของพรรค ก่อนเสนอให้กรรมการบริหารตัดสินลงโทษภายในเดือนตุลาคม
4. สส. ก้าวไกล ฝั่งธนบุรี
- กรณีการล่วงละเมิดทางเพศ ได้รับการให้ข้อมูลจากผู้เสียหายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
“ไม่ต้องหนี ยอมรับผิด ขอโทษ” สารจากอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงข้อความการชี้แจงกรณีความคืบหน้าการสอบสวนคุกคามทางเพศของ พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล
“เห็นใจพริษฐ์ รองโฆษก และ สส.หญิงอีกหลายคน ที่ต้องมารับหน้าที่แบกพรรคแบบนี้ ผมขอให้กำลังใจ สส. ก้าวไกล หลายๆ คนที่ออกมาต่อสู้เรื่องนี้และพยายามผลักดันให้พรรคสร้างระบบทั้งป้องกันและแก้ไขอย่างยั่งยืน
“สำหรับบุคคลที่ถูกกล่าวหา หากตระหนักว่าตนเองทำผิดจริงอย่างที่ถูกกล่าวหา ควรออกมาขอโทษผู้เสียหาย, ประชาชน, เพื่อน สส. และพรรคก้าวไกล มิใช่ปล่อยให้พรรคและคนอื่นๆ ต้องมาชี้แจงไม่รู้จักจบจักสิ้น
“แสดงความรับผิดชอบ ไม่ต้องหนี ยอมรับผิด ขอโทษ พร้อมเข้าสู่กระบวนการ การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อปกป้องตนเอง ไม่ใช่เพื่อปกป้องพรรคก้าวไกล แต่นี่คือมาตรฐานความรับผิดชอบ กล้าเผชิญหน้า และพร้อมจะปรับปรุงแก้ไข เพื่อสร้างมาตรฐานให้พรรคก้าวไกลและสังคมไทย เพื่อร่วมกันยุติความรุนแรงทางเพศและการคุกคามทางเพศ”
ก้าวไกลพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่ซ้ำกันในอนาคต
ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับปมปัญหาการคุกคามทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดจากบุคลากรของพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงถึงแนวทางการป้องกันเหตุดังกล่าวในอนาคตไว้ดังนี้
- ทางพรรคจะปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการวินัยพรรค โดยผ่านการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการให้มีสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่ไม่ได้เป็น สส. ของพรรคและไม่ใช่เพศชายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงเพิ่มกลไกตรวจสอบไม่ให้จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบโดยบุคลากรภายในพรรค
- ทางพรรคจะทบทวนและพิจารณาปรับปรุงกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความจำเป็นในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
- ทางพรรคจะเพิ่มความเข้มข้นของการอบรมบุคลากรของพรรคในเรื่องการเคารพความเสมอภาคทางเพศและสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย โดยจะขยายทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนมากขึ้น เพิ่มความถี่และรูปแบบของการอบรม และเพิ่มความละเอียดของเนื้อหาและหลักสูตรที่จำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจที่ผ่านคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญภายนอก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองบุคลากร โดยให้คำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวมากขึ้นและไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการทำงาน
นอกจากนี้ยังได้ตั้ง เบญจา แสงจันทร์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานคณะทำงานพิเศษเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลทั้งในพรรคและคนนอกพรรคที่มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ มาทำงานร่วมกัน
“เพื่อยกระดับความเข้าใจเกี่ยวกับการรับมือและการป้องกันปัญหาการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ให้ทุกองคาพยพของพรรคมีความเข้าใจที่เท่าเทียมกัน สอดคล้องกับคุณค่าหลัก (Core Value) ของพรรคที่ยึดถือในเรื่องความเสมอภาคทางเพศ ต่อต้านการคุกคามและยุติความรุนแรงทางเพศ เพื่อให้สอดคล้องกับพลวัตของสังคม”
นักวิชาการมองว่า เรื่องเพศ คน และพรรค เป็นคนละเรื่องกัน แต่นักการเมืองย่อมถูกคาดหวังจากประชาชน
ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ในหัวข้อ ‘ชำแหละก้าวไกลคุกคามทางเพศ นักการเมืองต้องมาตรฐานสูง อย่าคิดเป็นเรื่องเล็ก’ ตอนหนึ่งระบุว่า ปัญหาเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศนั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทุกครั้งที่มีเรื่องปัญหาทางเพศ มักจะถูกปัดให้เป็นประเด็นที่ผู้หญิงต้องออกมาจัดการ ออกมาแสดงจุดยืน ซึ่งจะตามมาด้วยการถูกลดความสำคัญออกจากสังคม อย่างไรก็ตาม ต้องยืนยันก่อนว่าเรื่องนี้อย่าไปจำกัดวงว่าเป็นเรื่องของผู้หญิงเท่านั้น
“คนที่เป็นนักเลือกตั้ง เนื่องจากคุณเสนอตัวมาเป็นผู้แทนของประชาชน พูดแทนประชาชน เพราะฉะนั้นจะถูกคาดหวังหลายประการ ซึ่งคนที่เป็นประชาชนของคุณก็คิดไม่ได้เหมือนเดิม อาจมีความคาดหวังความประพฤติของคุณตามกรอบเชิงศีลธรรมที่ต้องเข้มงวดกว่ามนุษย์ทั่วไป คือถ้าคุณเหมือนกับคนอื่นใช้ไม่ได้ ก็เป็นประเด็นโต้เถียงกันมานานว่าคนที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของประชาชนในสถาบันด้านนิติบัญญัติต้องมีอะไรที่เหนือกว่าหรือตัดสินเข้มงวดกว่าคนอื่นมากน้อยแค่ไหน”
ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ยังระบุด้วยว่า บางครั้งหลายคนที่เราอาจมองว่าเขามีแนวคิดก้าวหน้า (Progressive) ในบางเรื่อง เช่น เรื่องการเมือง เรื่องสังคม ความเหลื่อมล้ำ หรือประเด็นอื่นๆ แต่ในเรื่องเพศเขาอาจไม่มีความก้าวหน้านั้นก็ได้ ดังนั้นส่วนตัวก็เห็นใจพรรคก้าวไกล เพราะแต่ละบุคคลอาจมีความคิดก้าวหน้าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคม แต่อาจมีแนวคิดอนุรักษ์ในเรื่องเพศหรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ
ผู้ดำเนินรายการได้ระบุเพิ่มเติมว่า พรรคก้าวไกลไม่ค่อยมีประเด็นเรื่องการทุจริต คอร์รัปชัน มีแต่เรื่องเมาแล้วขับและเรื่องการคุกคามทางเพศ
“อยากจะชวนพรรคก้าวไกลจัดการกับประเด็นนี้ ตัวเองทำให้ตัวเองลำบาก เป็นเรื่องภายใน ลองหาวิธีจัดการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี ไหนๆ ก็ก้าวหน้าแล้ว ก็ลองคลี่วางให้ประชาชนได้ร่วมคิดมากกว่านี้”
สว. เชื่อ ก้าวไกลจัดการตัวเองได้ พม. พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย
“เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น ลำพังประชาชนคนธรรมดาเรื่องคุกคามทางเพศก็มากไปแล้ว ถือเป็นเรื่องจริยธรรมร้ายแรง เป็นการไม่ให้เกียรติและไม่ให้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทางราชการถือเป็นโทษร้ายแรง” สว. วันชัย สอนศิริ เริ่มต้นกล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อเขาถูกสื่อมวลชนสอบถาม
“เชื่อว่าความเป็นก้าวไกลคงไม่ทำอะไรที่ชักช้า และคงทำอะไรที่สามารถจัดการตัวเองได้ โดยเห็นมาหลายเรื่อง หลายประเด็นที่เกิดขึ้น พรรคก้าวไกลสามารถจัดการได้ทันที”
สว. วันชัย ยังระบุด้วยว่า หากรอคณะกรรมการจริยธรรมของสภา ไม่แน่ใจว่าเมื่อหมดสมัยไปแล้วจะได้เห็นผลมติหรือไม่
ขณะที่ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเยียวยาจิตใจผู้เสียหายกรณีถูก สส. พรรคก้าวไกล คุกคามทางเพศว่า ในแต่ละเคสที่โดนกระทำนั้น หากมีการติดต่อเข้ามา ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ยินดีเข้าไปให้คำปรึกษา โดยไม่ตัดสินว่าใครเป็นผู้กระทำ ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
บทสรุปที่สังคม (ยัง) รอคอย
“ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย” ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. พรรคก้าวไกล กล่าวในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเต็มที่และนำเอาทุกความห่วงใยมาเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุง ป้องกัน ไม่ให้มีบุคลากรของพรรคกระทำแบบนี้อีก และแก้ปัญหา รวมทั้งยกระดับสังคมไปด้วยกัน
ขณะที่มุมมองจากสื่อมวลชนอย่าง ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือหมาแก่ ยังกล่าวตอนหนึ่งในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า บุคลากรระดับนำของก้าวไกลหรือแม้แต่ผู้ถูกกล่าวหาต่างหลบออกไปจากหน้าสื่อ มีเพียงแค่พริษฐ์ในฐานะโฆษกพรรค ที่ออกมารับหน้าเหมือนที่อาจารย์ปิยบุตรโพสต์
“ผมเติมอีกนิด ขออนุญาตนะอาจารย์ (ปิยบุตร) แม้กระทั่ง สส. ที่ถูกกล่าวหา ถ้ามั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด เรื่องที่ถูกกล่าวหามันไม่จริง ควรออกมาแสดงตัว บอกกับสังคมว่าผมไม่ผิด สื่อสารกับสังคมไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“หลบอยู่หลังม่าน หลบอยู่หลังฉาก คิดว่าจะพ้นเหรอ หลบอยู่หลังไอติมมันไม่พ้นหรอก หนักกว่าเดิมด้วย”
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือมุมมองของสังคมพร้อมสายตาที่จ้องมองกระบวนการภายในของพรรค ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่เคร่งครัดเรื่องการตรวจสอบ โดยเฉพาะในฐานะฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าบุคลากรของพรรคระดับแกนนำ น้อยครั้งที่จะให้สัมภาษณ์และกล่าวถึงประเด็นนี้ ซึ่งขัดกับแนวทางก่อนหน้านี้ของพรรคเช่นเดียวกันที่มักจะพูดตอกย้ำในประเด็นต่างๆ
เมื่อต้องถูกตั้งคำถามและต้องตรวจสอบ ผู้คนจึงรอคอยผลของคำตอบและบทลงโทษหากมีการกระทำผิดโดยเร็ว
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร