ความร่ำรวยของ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ได้หายไปทันที 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ Meta Platforms Inc. รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ทำให้ความมั่งคั่งของเขาได้ลดลงรวมมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือมากถึง 3.8 ล้านล้านบาทในเวลาเพียง 13 เดือน
ซักเคอร์เบิร์กซึ่งถือหุ้นมากกว่า 350 ล้านหุ้นใน Meta เคยเป็น 1 ใน 3 ของทำเนียบมหาเศรษฐีร่วมกับ เจฟฟ์ เบโซส์ และ บิล เกตส์ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในอันดับที่ 23 ด้วยทรัพย์สิน 3.81 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามดัชนี Bloomberg Billionaires Index
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Metaverse เป็นเหตุ! ความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หายไปแล้ว 2.26 ล้านล้านบาท กลายเป็นคนที่รวยลดลงมากที่สุดในกลุ่มมหาเศรษฐีของโลก
- ผู้นำที่เลวร้าย! ผู้เชี่ยวชาญฮาร์วาร์ดวิเคราะห์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คือต้นเหตุที่ทำให้ Facebook หลงทาง
- ยังไหวแน่นะ Facebook! ‘มาร์ก’ ยืนยันเดินหน้าปั้น Metaverse แม้ขาดทุนแล้ว 7 แสนล้านบาท ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ลดต้นทุน และราคาหุ้นต่ำสุดตั้งแต่ปี 2016
ตัวเลขดังกล่าวพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยมีความร่ำรวยสูงสุดที่ 1.42 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2021 ในขณะที่วันประกาศรีแบรนด์ Facebook ซักเคอร์เบิร์กมีความมั่งคั่งอยู่ที่ 1.18 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นของ Meta ร่วงลง 24.5% ในวันที่ 27 ตุลาคม หลังจากนักลงทุนผิดหวังในผลประกอบการ ในขณะที่ซักเคอร์เบิร์กยังยันเดินหน้าลงทุนใน Metaverse รวมถึงการลงทุนปัญญาประดิษฐ์ที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงสำคัญในเครือข่ายสังคมออนไลน์
ถึงหุ้นของบริษัทแม่อย่าง Meta Platforms Inc. สูญเสียมาร์เก็ตแคปไปแล้ว 6.76 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 25.6 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้หลุดตำแหน่ง 20 บริษัทที่ใหญ่สุดของโลก แต่ซักเคอร์เบิร์กมั่นใจว่าการเดิมพันที่ใหญ่ที่สุดของ Meta ในด้านต่างๆ เช่น วิดีโอแบบสั้น การส่งข้อความทางธุรกิจ และ Metaverse กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง
แม้ซักเคอร์เบิร์กไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าผลตอบแทนจะมากเพียงใดจากการทุ่มเงินที่อาจเป็นเหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่เขาก็ได้กล่าวว่า “ฉันเข้าใจดีว่าหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับการลงทุนครั้งนี้ แต่ฉันซาบซึ้งในความอดทน (ของนักลงทุน) และฉันคิดว่าผู้ที่อดทนและลงทุนกับเราจะได้รับรางวัล”
ยักษ์โซเซียลกำลังต่อสู้กับทั้งการใช้จ่ายของนักการตลาดที่หดตัว เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple Inc. ที่ทำให้โฆษณาโซเชียลมีเดียทั้งหมดมีประสิทธิภาพน้อยลง
ถึง Meta ได้ลดต้นทุนด้วยการชะลอการจ้างงาน มุ่งเน้นที่การรักษาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้อง และให้ความสำคัญกับ Metaverse แต่ Meta ประเมินว่าค่าใช้จ่ายในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.6 หมื่นดอลลาร์ – 1.01 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนต่างเป็นห่วงและต้องการใช้ควบคุมต้นทุนให้มากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา Meta ได้เปลี่ยนประสบการณ์ของ Facebook และ Instagram เพื่อแสดงเนื้อหาที่เลือกใช้อัลกอริทึมมากขึ้น และโพสต์จากคนที่ผู้ใช้ติดตามน้อยลง นอกจากนี้ยังจัดลำดับความสำคัญของวิดีโอแบบสั้นที่เรียกว่า Reels เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งอย่างแอปพลิเคชัน TikTok
จากการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 พบว่า ผู้คนใช้เวลามากขึ้น 4% บนแพลตฟอร์มของ Meta ทุกวัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีผู้ใช้งาน 2.93 พันล้านคนต่อวัน เมื่อรวมกับแอปอื่นๆ เช่น Messenger และ WhatsApp ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีมีผู้ใช้งาน 3.71 พันล้านคนต่อวันด้วยกัน
ด้าน Instagram มีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน และกล่าวว่าผู้คนเหล่านี้ใช้เวลาดู Reels มากขึ้น และนักการตลาดก็ใช้จ่ายเพื่อโฆษณาที่นั่นในอัตราโดยนัย 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ช่วยดึงความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ สะท้อนจากหุ้นที่ร่วงลงอย่างรุนแรง แม้ว่าครั้งหนึ่งซักเคอร์เบิร์กจะขอให้นักลงทุนอดทนรอมาก่อน เมื่อตอบคำถามในปี 2015 ว่า เมื่อไรที่ WhatsApp, Instagram และ Messenger จะทำเงินได้ ซึ่งความแตกต่างสำคัญก็คือแอปเหล่านั้นมีผู้ใช้หลายร้อยล้านคนอยู่แล้ว
“Meta จำเป็นต้องพลิกธุรกิจ” นักวิเคราะห์จาก Insider Intelligence กล่าว “ครั้งหนึ่ง Facebook Inc. เคยเป็นบริษัทที่เข้ามาปฏิวัติเปลี่ยนวิธีการสื่อสารของผู้คนและวิธีที่นักการตลาดโต้ตอบกับผู้บริโภค แต่วันนี้พวกเขาไม่ใช่ผู้บุกเบิกนวัตกรรมใหม่อีกต่อไป”
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-27/mark-zuckerberg-net-worth-meta-ceo-s-fortune-tumbles-more-than-100-billion
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-26/meta-s-zuckerberg-asks-for-patience-as-costs-spook-investors
- https://www.businessinsider.com/mark-zuckerberg-net-worth-meta-facebook-rebrand-metaverse-earnings-2022-10