ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาผันผวนอย่างหนัก โดยระหว่างวันดัชนี Dow Jones ปรับตัวลดลงกว่า 500 จุด ก่อนจะรีบาวด์มาปิดตลาดที่ระดับ 36,068.87 จุด ลดลง 162.79 จุด หรือ -0.45%
ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,670.29 จุด ลดลง 6.74 จุด หรือ -0.14% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,942.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด หรือ +0.05%
ไซรัส มิวาวัลลา (Cyrus Mewawalla) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเฉพาะทางแห่ง Global Data บริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและบริการที่ปรึกษาชั้นนำในสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านรายการของสถานีโทรทัศน์ CNBC เกี่ยวกับทิศทางแนวโน้มของตลาดหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในปีนี้ที่ยังคงมีแนวโน้มเติบได้เป็นอย่างดี และแทบจะไม่ได้รับผลกระทบทางลบใดๆ จากปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มิวาวัลลาอธิบายว่า เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้หุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ขยับปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบรรดาบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าในการพัฒนา Metaverse, Web 3.0, Cryptocurrency และระบบ Quantum Computing ที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีเป็นพิเศษ และนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในแวดวงดังกล่าวข้างต้น มิวาวัลลากล่าวว่า เตรียมรับทรัพย์จากการลงทุนนี้ได้เลย ไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคจะมีประเด็นให้ต้องวิตก อย่างเงินเฟ้ออยู่บ้างก็ตาม
ความเห็นครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงเวลาที่บรรดาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกำลังปรับตัวลดลง โดยดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลงแล้วกว่า 1% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมิวาวัลลาระบุว่า มีสาเหตุหลักมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะมีขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ ในมุมมองของมิวาวัลลา บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างทุ่มงบหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญ ซึ่งจะพลิกเปลี่ยนวิถีชีวิตและแนวทางการทำงานของผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าลงทุนใน Metaverse ของ Facebook การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ VR ของ Google และ Microsoft หรือการเตรียมออกสกุลเงินดิจิทัลของบริษัท Meta ขณะที่มีรายงานว่า หลายบริษัทเดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชันในเชิงพาณิชย์สำหรับ Quantum Computer และการพัฒนา Web 3.0 ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยกให้เป็นเวอร์ชันอัปเดตฉบับปรับปรุงล่าสุดของโลกในยุคอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางหุ้นเทคโนโลยีที่ขยายตัวเติบโตได้ดี มิวาวัลลายังได้ส่งคำเตือนถึงนักลงทุนว่าอย่าคาดหวังกับการเติบโตของหุ้นบริษัท Apple ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ในปีที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ดีจนพุ่งทะยานกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาดที่กว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
มิวาวัลลาอธิบายว่า ในแง่ของการบริหารงานและรายได้ของบริษัทยังคงดีอยู่ แต่อัตราการเติบโตของ Apple อาจจะไม่ได้หวือหวาเท่ากับปี 2021 โดยให้เหตุผลหลักว่าเป็นเพราะจนถึงขณะนี้ Apple ยังไม่มีนวัตกรรมใหม่ใดๆ เปิดตัวออกสู่ท้องตลาด กระนั้น โดยรวมหุ้นของ Apple ก็ยังน่าลงทุนเมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการบริหารจัดการของ ทิม คุก และยอดขายไอโฟนที่ยังคงอยู่ในระดับดี
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองในแวดวงเทคโนโลยีในปีนี้ก็คือ การเข้าซื้อและควบรวมกิจการที่มิวาวัลลาชี้ว่าน่าจะมีข่าวควบรวมที่น่าสนใจให้เห็นมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลในหลายประเทศมีการพิจารณาปรับกฎระเบียบการควบรวมกิจการ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของบริษัทด้านเทคโนโลยีเหล่านี้
อ้างอิง: