Meta ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีรายเดียวที่ทุ่มงบมหาศาลในการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ดูเหมือนจะเป็นรายเดียวที่นักลงทุนไม่ได้ตื่นตระหนกกับข่าวนี้มากนัก
ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/24 Meta ประกาศแผนการลงทุน 3.7-4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.29-1.4 ล้านล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งไว้ 3.5-4 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 3%
การใช้จ่ายด้านทุนของ Meta ในปีนี้คิดเป็น 23% ของรายได้รวมที่ Wall Street คาดการณ์ไว้ ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Amazon, Microsoft และ Alphabet ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนระหว่าง 10-20% ของรายได้ นอกจากนี้ Meta ยังระบุว่า คาดว่าการลงทุนจะ ‘เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ’ ในปี 2025 อีกด้วย
แม้ว่า Microsoft และ Google จะมีการส่งสัญญาณในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการลงทุนด้าน AI ในรายงานผลประกอบการล่าสุด แต่ราคาหุ้นของ Meta กลับพุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจากการประกาศผลประกอบการ ขณะที่ราคาหุ้นของ Microsoft และ Alphabet ลดลง 1% และ 5% ตามลำดับ
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของ Meta คือ รายได้ที่สูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้เล็กน้อย นอกจากนี้ นักลงทุนอาจเริ่มคุ้นเคยกับแผนการลงทุนด้าน AI ขนาดใหญ่ของ Meta แล้ว เนื่องจากบริษัทประกาศแผนดังกล่าวไปแล้วในช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาสก่อน
ประวัติศาสตร์อันผันผวนของ Meta ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่านักลงทุนของบริษัทเต็มใจที่จะสนับสนุนความทะเยอทะยานที่มีราคาแพง ตราบใดที่ธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่งและสามารถควบคุมต้นทุนอื่นๆ ได้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นในขณะนี้
รายได้จากการโฆษณายังคงแข็งแกร่ง โดยเติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 3.83 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.34 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.18 แสนล้านบาท) ก็สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เช่นกัน
แม้ว่าจะมีการขาดทุนเกือบ 4.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.58 แสนล้านบาท) ในส่วนของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลโครงการ VR และ Metaverse ของบริษัท
Meta ยังคงยึดมั่นในบทเรียนจาก ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ’ จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 1,470 คนในช่วงเดือนมิถุนายน แต่ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดของบริษัทในช่วงปลายปี 2022 ถึง 19% โดยรายได้ต่อพนักงานเพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการแข่งขันที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการสร้างบริการ Generative AI ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ NVIDIA ผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำ ราคาหุ้นของ NVIDIA พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจาก Meta ประกาศผลประกอบการ
คำถามเกี่ยวกับการลงทุนจากนักวิเคราะห์เป็นประเด็นหลักในการประชุมผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัท และ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ยังคงยืนยันมุมมองเดิมของเขาที่ว่า Meta จะยังไม่ได้รับผลตอบแทนโดยตรงจากบริการ GenAI ในเร็วๆ นี้
Zuckerberg วัย 40 ปี ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน มีเวลาที่จะรอผลตอบแทนจากการลงทุนนี้ และอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผล เนื่องจากอุปทานชิปที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA ยังคงตึงตัว Zuckerberg ปรากฏตัวบนเวทีร่วมกับ Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA โดยทั้ง 2 พูดติดตลกเกี่ยวกับชิป GPU 600,000 ตัวที่ Meta ซื้อจาก NVIDIA ไปแล้ว
ในขณะที่ Huang กำลังหัวเราะร่า Zuckerberg ก็ต้องทำให้แน่ใจว่าการลงทุนด้าน AI ของบริษัทของเขาจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกในอนาคต
ภาพ: i_am_zews / Shutterstock
อ้างอิง:
