เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยเป้าหมายปี 2565 ที่งานประชุมนักวิเคราะห์ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสำหรับธุรกิจร้านอาหาร (86% ของรายได้รวมในปี 2564) ให้ยอดขายสาขาเดิม (SSS) เติบโต 20% ในปี 2565 โดยได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นสอดรับกับการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และน่าจะเห็นการเติบโตก้าวกระโดดอย่างแข็งแกร่งใน 2Q-3Q65 จากฐานต่ำ
ZEN คาดการณ์รายได้จากธุรกิจอาหารค้าปลีก (เช่น การจำหน่ายน้ำปลาร้า) ที่ 250 ล้านบาท ในปี 2565 (เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจาก 101 ล้านบาท ในปี 2564 หรือ 5% ของรายได้รวม) หลังจากบริษัทขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่โมเดิร์นเทรดและร้านค้าท้องถิ่น โดยใช้ตัวแทนการจัดจำหน่ายรายใหญ่ คือ Durbell ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายรายใหญ่ในประเทศไทย และเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจของ TCP Group (กระทิงแดง)
สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ (ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจแฟรนไชส์คิดเป็น 3% ของรายได้รวมในปี 2564) ZEN มุ่งเน้นที่การสร้างรายได้มากกว่าจำนวนสาขาแฟรนไชส์ใหม่ เนื่องจากบริษัทได้เปิดตัวร้านเขียงรูปแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลง และเก็บค่าแรกเข้าลดลง (เช่น เก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียวจำนวน 100,000 บาท เทียบกับ 600,000 บาท สำหรับสัญญา 6 ปี) เพื่อให้ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้ารายได้จากค่าแรกเข้าที่ 50 ล้านบาท ในปี 2565 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจาก 19 ล้านบาท ในปี 2564
ส่วนการขยายธุรกิจในแนวตั้งเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ZEN ได้เข้าซื้อหุ้น 51% ในบริษัท King Marine Foods Co., Ltd คิดเป็นมูลค่ารวม 72 ล้านบาท บริษัทแห่งนี้เป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์แช่แข็งซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล และเป็นหนึ่งในผู้จัดหาปลาแซลมอนแช่แข็งให้แก่ ZEN ลูกค้าหลักของบริษัทคือ ZEN (30% ของรายได้) โมเดิร์นเทรด และร้านอาหารญี่ปุ่น สำหรับปี 2564 บริษัทแห่งนี้มีรายได้ 176 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิ 13% ZEN คาดว่าการเข้าลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีแหล่งวัตถุดิบที่มั่นคงพร้อมกับความได้เปรียบด้านต้นทุน และหนุนให้รายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ด้านการปรับราคาเมนูเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น ZEN ได้ปรับราคาบุฟเฟต์พรีเมียมที่ ZEN Restaurant (~30% ของรายได้รวม) เพิ่มขึ้นเป็น 1,199+ บาท (หรือ 20% จาก 999+ บาท) ในเดือนธันวาคม 2564 และปรับราคาบุฟเฟต์ปกติเพิ่มขึ้นเป็น 799+ บาท (หรือ 14% จาก 699+ บาท) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพื่อชดเชยต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมาแล้ว ~15% ในปีนี้ ZEN ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้น โดยใช้กลยุทธ์การปรับราคาและควบคุมต้นทุนผ่านการใช้ผู้จัดหาวัตถุดิบและอาหารที่หลากหลาย และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น ZEN ไม่เปลี่ยนแปลง MoM อยู่ที่ระดับ 11.70 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 1.58%MoM อยู่ที่ระดับ 1,684.60 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นใน 1Q65 ทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจาก SSS จะเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดรับกับการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการเพิ่มราคาเมนูอาหารเพื่อชดเชยต้นทุนอาหารที่สูงขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจร้านอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่ประกอบด้วยธุรกิจอาหารค้าปลีกและธุรกิจแฟรนไชส์
นอกจากนี้ SCBS ได้ปรับประมาณการผลประกอบการปกติของ ZEN เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2565 และ 13% ในปี 2566 เพื่อสะท้อนรายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจอาหารค้าปลีกและ King Marine Foods
สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาในปี 2565 คือต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการร้านอาหารรวมถึง ZEN กำลังรับมือกับต้นทุนอาหารที่สูงขึ้นด้วยการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคทั้งทางตรง (ปรับราคาเมนูเพิ่มขึ้น) และทางอ้อม (จัดโปรโมชันน้อยลง ปรับชุดอาหารใหม่) ส่วนความกังวล คือ ความอ่อนไหวต่อราคาของผู้บริโภคท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม ฐานลูกค้าของ ZEN ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงที่มีความอ่อนไหวต่อราคาน้อย ซึ่งน่าจะเปิดโอกาสให้ ZEN ปรับราคาขายเพิ่มขึ้น
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
