เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research มองบวกต่อโครงสร้างการถือหุ้นใหม่สำหรับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น และทำ Synergy ภายในกลุ่มได้ง่ายขึ้น คณะกรรมการของ GULF และ INTUCH จึงมีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมควบบริษัทเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นใหม่ ซึ่งจะดำเนินการเสร็จใน 2Q68 โดยประกอบด้วยธุรกรรมดังต่อไปนี้
- การปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ GULF และ INTUCH (47.37% ถือโดย GULF และ 24.99% ถือโดย Singtel) ด้วยวิธีควบบริษัทเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ซึ่งจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- GULF, INTUCH และ Singtel จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (VTO) เพื่อซื้อหุ้น 36.25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ ADVANC ที่ราคาหุ้นละ 216.3 บาท
- GULF, Gulf Edge (GE), INTUCH และ สารัชถ์ รัตนาวะดี จะทำ VTO เพื่อซื้อหุ้น 58.86% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ THCOM ที่ราคาหุ้นละ 11.0 บาท
ซึ่งมองว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะส่งผลดีต่อทั้ง GULF และ INTUCH โครงสร้างใหม่นี้จะทำให้ NewCo มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการได้ ADVANC มาถือหุ้นโดยตรง (ก่อนหน้านี้ถือผ่าน INTUCH)
ขณะที่คาดว่าจะสามารถทำ Synergy ภายในกลุ่มได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้งบดุลของ NewCo จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของ GULF อยู่ที่ 1.7 เท่า ณ สิ้น 1Q27 แต่หลังจากเป็น NewCo แล้ว จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงเหลือ 0.9 เท่า เนื่องจาก INTUCH เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาเงินทุนและลงทุนตามแผนขยายธุรกิจ โดยเฉพาะกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนใหม่จำนวนมากในประเทศไทย จากโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 จำนวน 3.6GW และพลังงานหมุนเวียนใหม่ในแผน PDP 2024 จำนวน 35GW
สำหรับผลประกอบการ GULF InnovestX Research คาดว่า กำไรปกติจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 2Q67 และจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอีก 2,700MW สู่ 15,120MW ในปี 2567 ผ่านโครงการหลายโครงการ
- โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ GPD หน่วยที่ 3 (กำลังการผลิต 662.5MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคม 2567) และ GPD หน่วยที่ 4 (กำลังการผลิต 662.5MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2567)
- โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ที่โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) หน่วยที่ 1 (กำลังการผลิต 770MW เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคม 2567)
- การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน และโครงการโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 605MW ในปี 2567
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ถึงส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson (มาร์จิ้นสูงขึ้นจากราคาก๊าซที่สูงขึ้น) หลังจากผลการดำเนินงานฟื้นตัว รวมถึง INTUCH, THCOM และ Gulf-Binance
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น GULF ปรับขึ้น 15.38% สู่ระดับ 45.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.79% สู่ระดับ 1,319.79 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ราคาหุ้น GULF ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1%YTD เทียบกับ SET ที่ลดลง 3.7%YTD จาก Sentiment ที่ดีขึ้นต่อการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ และโอกาสที่จะมีการปรับค่าไฟฟ้า (Ft) สำหรับงวดสุดท้ายของปีนี้ (กันยายน-ธันวาคม) เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังคาดว่ากำไรปกติจะยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้น GULF เนื่องจากคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 28% ในปี 2567 และ 25% ในปี 2568
ปัจจุบัน Valuation น่าสนใจที่ -1.5 SD ของ PE Mean กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ GULF โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 63 บาทต่อหุ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 1. ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการใหม่ต่ำกว่าคาด แต่ประวัติผลงานที่ดีเยี่ยมของ GULF ในการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จตามกำหนด และเป็นไปตามงบประมาณที่วางไว้จะช่วยลดความเสี่ยงนี้
2. ยอดขายไฟฟ้าและไอน้ำของโครงการโรงไฟฟ้า SPP ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและต้นทุนเชื้อเพลิงสูง และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล