×

GLOBAL – ตั้งเป้ายอดขายปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2565

24.03.2022
  • LOADING...
GLOBAL

เกิดอะไรขึ้น:

บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เปิดเผยเป้าหมายธุรกิจปี 2565 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก YoY ที่เกิดจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่มีอัตราเติบโตเป็นบวกและการขยายสาขาในประเทศที่เร่งตัวมากขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในระดับทรงตัว

 

GLOBAL ตั้งเป้าเร่งขยายสาขาในประเทศด้วยการเปิดสาขาใหม่ 7 สาขา (เทียบกับ 4 สาขาในปี 2564) โดยเน้นที่จังหวัดใหม่และอำเภอใหญ่ในจังหวัดที่บริษัทมีสาขาอยู่แล้ว (อิงกับผลงานที่ดีของบริษัทจากการขยายสาขาในพื้นที่เหล่านี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และแตกต่างจากคู่แข่งที่เน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองใหญ่ๆ)

 

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ GLOBAL คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวจากระดับ 25.2% ในปี 2564 ทั้งนี้ในด้านบวก บริษัทจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นจากการมีซัพพลายเออร์รายใหม่เพิ่มเข้ามา โดยตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand ที่ให้มาร์จิ้นสูงต่อยอดขายรวมเพิ่มขึ้นเป็น 23% ในปีนี้ จาก 21-22% ในปี 2564 ในด้านลบ อัตรากำไรขั้นต้นจากสินค้ากลุ่มเหล็กมีแนวโน้มอ่อนตัวลง YoY เนื่องจากราคาเหล็กค่อนข้างทรงตัว YoY ในปี 2565TD (เพิ่มขึ้น 4%YoY จากราคาเฉลี่ยในปี 2564) เทียบกับที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2564 (เพิ่มขึ้น 44%YoY)

 

นอกจากนี้ GLOBAL ยังวางแผนเร่งขยายสาขาในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรจากร้านค้าในต่างประเทศเป็น 10% ของกำไรทั้งหมดภายใน 3-4 ปีข้างหน้า จากตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำในปี 2564 โดยเกิดจากการขยายสาขาในประเทศที่บริษัทมีสาขาอยู่แล้ว (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพิ่มมากขึ้น และการลงทุนในประเทศใหม่ๆ (รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีจากอินโดนีเซียในปี 2565 และฟิลิปปินส์ในปี 2566) 

 

สำหรับบริษัทย่อย ในปี 2566 บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาในกัมพูชา (จาก 1 สาขา ณ สิ้นปี 2564) และสาขาแรกในฟิลิปปินส์ สำหรับบริษัทร่วม ในปี 2565 บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาในลาว (จาก 6 สาขา ณ สิ้นปี 2564) 2 สาขาในเมียนมา (จาก 8 สาขา ณ สิ้นปี 2564) และ 3-4 สาขาในอินโดนีเซีย (จาก 10 สาขา ณ สิ้นปี 2564) สำหรับการผนึกกำลังทางธุรกิจ บริษัทอยู่ระหว่างการพูดคุยกับบริษัทร่วมเพื่อจัดทำแผนการจัดซื้อร่วมกันในอนาคต

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น GLOBAL ปรับเพิ่มขึ้น 10.29%MoM สู่ระดับ 22.30 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.09%MoM สู่ระดับ 1,680.89 จุด

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS ประเมินยอดขายสาขาเดิม (SSS) ใน 1Q65TD เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลางถึงสูง YoY (เทียบกับ 13%YoY ใน 1Q64 และ 15%YoY ใน 4Q64) โดยส่วนหนึ่งเกิดจากรายได้เกษตรกรที่แข็งแกร่ง (เพิ่มขึ้น 8%YoY ในเดือนมกราคม) และราคาเหล็กที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้ SSS เติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก ~3% โดยใช้ราคาเหล็กเส้นเป็นตัวชี้นำ (เพิ่มขึ้น 17%YoY แต่ทรงตัว QoQ อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มเหล็กคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายรวม) 

 

นอกจากนี้ยอดขายของ GLOBAL ยังได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างใหม่ (แผ่นยิปซัม และคอนกรีตมวลเบา) ที่เพิ่มเข้ามาจากซัพพลายเออร์รายใหม่ด้วย ซึ่งบริษัทประเมินว่ายอดขายจากโครงการช้อปดีมีคืน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565 มีสัดส่วนน้อยมาก

 

ทั้งนี้ SCBS คาดว่ากำไร 1Q65 จะเติบโตต่อเนื่อง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY จาก SSS ที่เติบโตมากเกินพอชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มลดลง เพราะราคาเหล็กค่อนข้างทรงตัว QoQ เทียบกับราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้น QoQ ใน 1Q64 เนื่องจาก SSS และมาร์จิ้นทำฐานสูงในปี 2564 เพราะราคาเหล็กสูง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในรายได้เกษตรกรและราคาเหล็ก

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS คาดว่าในปี 2565 กำไรจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง (เพิ่มขึ้น 6%YoY) และในอัตราที่ต่ำกว่าปี 2564 (เพิ่มขึ้น 73%YoY) เนื่องจาก SSS และมาร์จิ้นทำฐานสูงในปี 2564 เพราะราคาเหล็กสูง ส่วนปีนี้ราคาเหล็กจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY ขณะที่ SSS จากผลิตภัณฑ์อื่นมีอัตราเติบโตเป็นบวก ช่วยสนับสนุนผลประกอบการ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การเปลี่ยนแปลงในรายได้เกษตรกรและราคาเหล็ก

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising