เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) รายงานกำไรสุทธิ 239 ล้านบาทใน 1Q66 หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการกลับรายการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน กำไรปกติอยู่ที่ 224 ล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 315 ล้านบาทใน 1Q65 แต่ลดลงเล็กน้อย 2%QoQ ส่วนกำไรที่เติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก RevPar และ EBITDA Margin ที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ มีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
รายการที่สำคัญใน 1Q66: หากไม่รวมกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ต HOP INN (ที่มีสัดส่วน ~20% ของรายได้) รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ใน 1Q66 เพิ่มขึ้นมาก YoY และเพิ่มขึ้น 5%QoQ โดยได้แรงหนุนจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่เพิ่มขึ้น 2%QoQ และอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นที่ 84% (จาก 82% ใน 4Q65) RevPar ใน 1Q66 ของ ERW สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 6%
ด้านค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 135 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21%YoY และ 11%QoQ) เพราะต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสู่ 3.84% ใน 1Q66 (จาก 3.12% ในปี 2565) ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ที่ 1.7 เท่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ต่ำกว่า 1.8 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และ Debt Covenant ที่ 2.5 เท่า
สำหรับประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ERW เปิดเผยว่า อัตราการเข้าพักเดือนเมษายน (ไม่รวมกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ต HOP INN) แข็งแกร่งที่ ~80% ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด (75% ใน 2Q62) และ ARR ลดลงเล็กน้อยจาก 1Q66 โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยฤดูกาล
ส่วนปี 2566 ERW ยังคงเป้าอัตราการเข้าพักไว้ที่ 75-80% (จาก 58% ในปี 2565) และตั้งเป้า ARR เติบโตมากกว่า 20% ซึ่งจะส่งผลทำให้ RevPar เติบโตมากกว่า 40% ในปี 2566
การขยายโรงแรมจะยังคงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงแรมบัดเจ็ต HOP INN โดยในปี 2566 บริษัทวางแผนพัฒนา HOP INN ในประเทศไทยจำนวน 15 แห่ง ซึ่งจะเปิดดำเนินงานในปี 2567-2568 และอยู่ระหว่างการพัฒนาโรงแรมในประเทศฟิลิปปินส์อีก 3 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินงานได้ในปี 2567
นอกจากนี้ ERW ก็กำลังสำรวจโอกาสในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (17 พฤษภาคม) ณ เวลา 12.30 น. ราคาหุ้น ERW ปรับลดลง 8.85%DoD อยู่ที่ 4.12 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 1.13%DoD อยู่ที่ระดับ 1,522.39 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
ข้อมูลเดือนเมษายนบ่งชี้ถึงช่วงโลว์ซีซันที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่า ERW จะรายงานกำไรใน 2Q66 ดีขึ้นจากขาดทุนใน 2Q65 แต่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล สำหรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 502 ล้านบาท สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 3% โดยอิงกับ RevPar ที่เติบโต 45%YoY ในปี 2566 หรือสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 4%
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 5.50 บาทต่อหุ้น อ้างอิง EV / EBITDA ที่ 13 เท่า โดยใช้ EBITDA ปี 2567 แล้วคิดลดกลับมายังสิ้นปี 2566
ส่วนราคาหุ้น ERW ที่ปรับตัวลงกว่า 7% วันนี้ ซึ่งยังไม่เห็นประเด็นลบที่มากระทบปัจจัยพื้นฐานอย่างเป็นนัยสำคัญ โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงน่าจะเกิดจากที่ผลประกอบการใน 2Q66 ที่คาดว่าจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่มองว่าจะเป็นโลว์ซีซันที่แข็งแกร่ง และคาดว่า ERW จะมีกำไร (ดีกว่าในอดีตที่จะมีผลขาดทุนในช่วงโลว์ซีซัน)
ณ ราคาตลาดปัจจุบันที่ 4.2 บาทต่อหุ้น สะท้อนระดับ EV / EBITDA ปี 2566 ที่ 13 เท่า ซึ่งเป็นระดับเท่าค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งมองว่าราคาที่ปรับตัวลงมานั้นสะท้อนความกังวลเรื่องงบที่จะอ่อนแอไปแล้ว เพราะหากเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต ในภาวะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เป็นบวก ซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงการดำเนินงานและผลประกอบการของ ERW แล้ว หุ้นจะมีการซื้อ-ขายที่ระดับ EV / EBITDA ที่ 16 เท่า (+1SD)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทางและต้นทุนที่สูงขึ้น โดยจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้อข้องใจ ทำไม หุ้น MASTER ถึงกล้าเคาะราคา IPO ต่อหน่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- หุ้นสตาร์มันนี่ เข้าเทรดใน SET วันแรก ‘บวกแรง’ เปิดตลาดวิ่ง 16.65% จากราคา IPO
- หุ้น MOSHI พุ่งแรง! เข้าเทรดใน SET วันแรกด้วยราคาเปิดที่ 35 บาท เพิ่มขึ้น 67% จากราคา IPO