ฝรั่งเศสประท้วงหนัก หลังวุฒิสภาเห็นชอบแผนปฏิรูปบำนาญของรัฐบาลมาครง

ชาวฝรั่งเศสหลายแสนคนรวมตัวกันชุมนุมประท้วงแผนปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ เมื่อวานนี้ (11 มีนาคม) โดยเหตุประท้วงมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากที่วุฒิสภามีมติเห็นชอบแผนปฏิรูปดังกล่าวด้วยมติ 195 ต่อ 112 เสียง

โดยแผนปฏิรูปเงินบำนาญของมาครงที่กำลังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแรงทัดทานอยู่ในขณะนี้นั้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่การจะปรับเกณฑ์อายุขั้นต่ำของผู้มีสิทธิได้รับเงินบำนาญจากเดิม 62 ปี เป็น 64 ปี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มจำนวนปีให้กับผู้ที่ต้องจ่ายเงินสมทบ เพื่อให้ได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวนอีกด้วย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าแผนปฏิรูปนี้อาจไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย

สหภาพแรงงานฝรั่งเศสคัดค้านการผลักดันแผนปฏิรูปฉบับนี้อย่างจริงจัง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลมาครงยอมก้าวถอย รวมถึงเรียกร้องให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับแผนปฏิรูปบำนาญดังกล่าว

การมีมติเห็นชอบแผนปฏิรูปจากวุฒิสภาในครั้งนี้ทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ใกล้มีผลบังคับใช้จริงมากขึ้นไปอีกขั้น โดยคณะกรรมาธิการร่วมทั้งจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาแผนปฏิรูปนี้อีกครั้ง ก่อนที่จะลงมติเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (16 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น

โดยผลการลงมติจากฟากฝั่งของสภาล่างนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด รัฐบาลมาครงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากบรรดาพันธมิตรในสภาแห่งนี้เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ถ้าหากท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลมาครงไม่ได้รับเสียงข้างมากในสภาตามที่คาดการณ์ไว้ อาจมีการใช้อำนาจตามมาตรา 49/3 ตามรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ที่ให้สิทธิผ่านร่างกฎหมายได้โดยไม่ต้องได้รับมติเห็นชอบจากสภา ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างมากในการเมืองฝรั่งเศส

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ร่วมชุมนุมประท้วงอย่างน้อย 32 คน หลังจากที่มีเหตุปะทะกันและสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่สาธารณะ โดยคาดว่าการชุมนุมประท้วงใหญ่ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ก่อนที่จะมีการลงมติครั้งสุดท้าย

ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดยสถานีโทรทัศน์ BFMTV ชี้ว่า ชาวฝรั่งเศสราว 63% เห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูปบำนาญและการเกษียณอายุ และ 54% สนับสนุนให้มีการนัดหยุดงานและปิดกั้นเส้นทางในบางพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม 78% ยังเชื่อว่ารัฐบาลมาครงจะสามารถผลักดันแผนปฏิรูปฉบับนี้จนประกาศบังคับใช้ได้สำเร็จ

ภาพ: Emmanuel Dunand / AFP

อ้างอิง: