×

Ma-Ke Inu อิซากายะในตรอกจิ๋วที่อบอุ่นราวกับร้านอาหารเที่ยงคืนในซีรีส์ดัง

02.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • คำว่า Ma-ke Inu (มา-เกะ อินุ) แปลตรงตัวว่า ‘หมาขี้แพ้’ ซึ่งเจ้าของร้านทั้ง 8 ก็ยอมรับตรงๆ ว่าเหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะทั้ง 8 คนล้วนมีความขี้แพ้ซ่อนอยู่ และอยากให้ร้านแห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมของคนขี้แพ้ที่ต้องการมาปลดเปลื้องความพ่ายแพ้ออกจากตัว
  • อาหารจานเด่นมีแนะนำหลายเมนู เช่น ข้าวหน้าเนื้อ, ยำเนื้อญี่ปุ่น, ทามาโกะยากิ, คาคุนิ และยากิโทริ เชฟ ชอยส์

แฟนคลับซีรีส์ญี่ปุ่น ภัตตาคารเที่ยงคืน คงคุ้นเคยกับภาพร้านอาหารเล็กในตรอกแคบท่ามกลางความวุ่นวายของย่านชินจุกุในกรุงโตเกียวที่เริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนเป็นต้นไป ร้านขนาดไม่กี่เสื่อทาทามิ เสิร์ฟเพียงเมนูเดียว ถ้าอยากกินอะไรก็ต้องร้องขอ และมีที่นั่งราว 10 ที่ล้อมรอบเคาน์เตอร์ 3 ด้าน บรรยากาศเรียบง่าย ทว่าอบอุ่นด้วยความใส่ใจของมาสเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเจ้าของร้านและเชฟภายในคนเดียว

 

เราเชื่อว่าหลายคนที่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้ย่อมอยากได้ร้านแฮงเอาต์แบบนี้ไว้ปักหมุด สถานที่ที่เราสามารถนั่งดื่มได้อย่างสบายใจ ผ่อนปรนจิตใจ อาหารอร่อย และราคาสมเหตุสมผล ปลดล็อกปัญหาและความพ่ายแพ้ในตัวเองออกไปได้ ถ้าคุณกำลังมองหาร้านแบบนี้อยู่จริงๆ แนะนำให้มุ่งไปที่ Ma-Ke Inu อิซากายะในตรอกเล็ก ปากซอยลาดพร้าว 4 ที่เรียบง่ายและอบอุ่นราวกับร้านอาหารเที่ยงคืนในซีรีส์ดัง

 

บรรยากาศชั้น 1 เล็กๆ ง่ายๆ ครัวเปิด และที่นั่งแบบเคาน์เตอร์

 

The Vibe

คำว่า Ma-ke (負け) Inu (犬) อ่านว่า มา-เกะ อินุ แปลตรงตัวว่า ‘หมาขี้แพ้’ ซึ่งเจ้าของร้านทั้ง 8 ก็ยอมรับมาตรงๆ ว่าเหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะทั้ง 8 คนล้วนมีความขี้แพ้ซ่อนอยู่ และอยากให้ร้านแห่งนี้หลายเป็นแหล่งรวมของคนขี้แพ้ที่ต้องการมาปลดเปลื้องความพ่ายแพ้ออกจากตัว

 

ตัวร้านตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว 4 มีขนาดเพียง 1 คูหาเล็กๆ หน้ากว้างประมาณ 2 เมตร ด้านล่างแบ่งพื้นที่เป็นครัวเปิดและที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ประมาณ 10 ที่ ผนังกำแพงประดับภาพวาดกลิ่นอายญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพ ‘คลื่นยักษ์นอกฝั่งคานากาว่า’ ของคาสึชิกะ โฮะกุไซ (Katsushika Hokusai) ด้านบนมีโต๊ะเป็นสัดส่วน เหมาะสำหรับนักชิมแบบหมู่คณะ หรือคนที่อยากได้พื้นที่นั่งคุยในบรรยากาศสบายๆ

 

ของเล่นและของสะสมแบบเด็กผู้ชาย

ลองมองดีๆ จะเจอของที่ไม่คาดว่าจะเจอสักอย่างสองอย่าง

 

ของประดับตกแต่งที่เราเห็นว่าโคตรจับฉ่าย เพราะมีทุกอย่างตั้งแต่โปสเตอร์หนัง แฟนฉัน, ตัวการ์ตูนจำลองจากเรื่อง One Piece, เกม FR101 ไปจนถึงจักรยานคันโปรด และภาพพร้อมลายเซ็นเฌอปรางแบบก๊อบปี้แล้วอัดใส่กรอบ ทั้งหมดล้วนเป็นของชอบ ของเล่น ของสะสม ของเหล่าเจ้าของทั้ง 8 ที่มั่นหมายเอาของรักของหวงที่ตนชอบใส่ลงไปเพื่อให้ร้านมีบรรยากาศคล้าย ‘บ้านเพื่อน’ มากที่สุด สถานที่ที่ทุกคนคุ้นเคย สถานที่ที่ทุกคนกล้าที่จะปล่อยวางปัญหาและความลูสเซอร์ออกจากตัว

 

ครัวแบบเปิด และภาพวาดที่ได้แรงบันดาลใจ

จากผลงานของคาสึชิกะ โฮะกุไซ

 

The Dishes

“สวัสดีค่ะ มาสเตอร์ วันนี้ฉันอยากกินอุด้งหมูจังเลย”

“มาสเตอร์ ส่วนของฉันอยากกินข้าวหน้าเนื้อค่ะ”

“มาสเตอร์ ขอสาเกและผักดองที่หนึ่ง”

 

แม้เราไม่สามารถสั่งอะไรก็ได้ตามใจอยากเฉกเช่นร้านอาหารในซีรีส์เรื่องดัง ทว่าเมนูอาหารที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่ถูกปาก ถูกใจ และมีให้เลือกมากถึง 30 เมนู ผิดจากชื่อร้านลิบลับ

 

ข้าวหน้าเนื้อ

 

จานแรกที่เราแนะนำเป็นเมนู ‘ดงบุริ’ หรือข้าวหน้าต่างๆ ซึ่งที่ร้านก็มีให้เลือกอยู่หลายหน้า แต่ที่ถูกอกถูกใจเรามากยกให้ ข้าวหน้าเนื้อ (220 บาท) เนื้อวากิวคัดพิเศษ นำไปผัดกับหอมใหญ่และซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เสร็จแล้วเสิร์ฟบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ที่มีเคล็ดลับพิเศษด้วยการผสมน้ำส้มลงไปเล็กน้อยเพื่อเสริมรสชาติ ไข่แดงดิบ ผักดอง และซุปไว้กินคู่กัน รสชาติเค็มอมหวานเล็กๆ กำลังดี ใครที่ไม่ชอบกินเนื้อก็สามารถเปลี่ยนจากเนื้อวัวเป็นเนื้อไก่ได้กับเมนู ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ (150 บาท) ไก่ส่วนสะโพกนำมาย่างบนเตาหน้าเดียวเพื่อให้หนังไก่กรอบน่ากิน ทว่าเนื้อด้านในยังคงฉ่ำซอส

 

(บน) ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ, (ล่าง) ยำเนื้อญี่ปุ่น

 

ส่วนของกินเล่นที่เอาไว้แกล้มน้ำเมาหรือบทสนทนาชวนหัว ลองสั่ง ยำเนื้อญี่ปุ่น (180 บาท) เนื้อวากิวส่วนเดียวกับข้าวหน้าเนื้อนำมาสะดุ้งไฟแบบกึ่งสุกกึ่งดิบแล้วคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องยำสไตล์ไทย ผสมซอสโชยุและวาซาบิลงไปด้วย รสเปรี้ยวนำเผ็ด หอมกลิ่นโชยุนิดๆ มีรสเผ็ดซ่าของวาซาบิกระจายอยู่ทั่วปาก

 

ทามาโกะยากิ

 

คนรักไข่ม้วนขอแนะนำ ทามาโกะยากิ (100 บาท) ไข่ม้วนย่างสไตล์ดั้งเดิมที่ทางร้านนำมาปรับสูตรและรสชาติให้มีความก้ำกึ่งระหว่างไข่ม้วนย่างและไข่หวานที่กินกับซูชิ รสชาติเค็มอมหวานกำลังดี จะกินเล่นก็ได้ กินกับข้าวก็เพลิน

 

ส่วนอีกหนึ่งจานเด็ดที่เรากล้าพูดเลยว่าใครกินก็อร่อยคือ คาคุนิ (150 บาท) หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊วที่ใช้เวลาทำนานกว่าค่อนวัน หมูสามชั้นเนื้อแน่นนำมาย่างด้วยไฟอ่อนจนสุกเกรียม จากนั้นนำไปเคี่ยวกับซุปดาชิจนเข้าเนื้อ ใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง จึงเติมโชยุ เคี่ยวต่อจนเข้าที่ แล้วนำคาคุนิที่ได้ไปรมควันไม้เพื่อกลิ่นหอมยวนใจ สัมผัสแรกที่ได้คือความนุ่มหยุ่น เคี้ยวง่าย เปื่อยยุ่ยแบบไม่เละ รสชาติเค็มกลมกล่อม หอมกลิ่นไม้จางๆ กินทีแทบไม่ต้องเคี้ยว อร่อยมัดใจ

 

(บน) คาคุนิ, (ล่าง) ยากิโทริ เชฟ ชอยส์

 

เอ่ยมาขนาดนี้ ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสั่งอะไร เราแนะนำให้เริ่มต้นที่ ยากิโทริ เชฟ ชอยส์ (240 บาท) เมนูใหม่ล่าสุดของร้านหมาขี้แพ้ที่นำของย่าง 4 ชนิดเสิร์ฟในจานเดียว โดยเชฟจะเป็นผู้เลือกและจัดสรรให้ ขึ้นอยู่วัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นไก่ เนื้อ ลิ้นวัว เครื่องใน และผัก

 

บรรยากาศภายในร้าน

 

The Drink

ได้ชื่อว่าเป็นอิซากายะ แน่นอนว่าเครื่องดื่มต้องไม่น้อยหน้า ทว่าเจ้าของร้านทั้ง 8 บอกว่านอกจากเบียร์สด เหล้าญี่ปุ่น และสาเกจากเมืองคุมาโมโตะ ทางร้านกำลังคัดสรรเครื่องดื่มอย่างเต็มกำลัง โดยเหล้าบ๊วยจะเริ่มเสิร์ฟในช่วงปลายเดือนมีนาคม ส่วนชนิดอื่นๆ จะตามมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งเมนูอาจมีลดและเพิ่มตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและเทศกาลด้วยว่าช่วงนั้นมีอะไรอร่อยและน่าลิ้มลอง

 

Ma-Ke Inu

Open: เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เวลา 17.00-24.00 น.

Address: 150/2 ซอยลาดพร้าว 4 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

Budget: 100-500 บาทต่อคน

Contact: 08 0210 442

Page: www.facebook.com/Makeinubkk

Map: 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising