จิตใจที่ฟุ้งซ่าน ว่อกแว่ก เหมือนลิงที่กระโดดไปมาบนกิ่งไม้ เป็นสภาวะที่หลายคนต้องเผชิญในยุคที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าและความเร่งรีบ การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า มนุษย์ใช้เวลากว่า 47% ของวันไปกับการครุ่นคิดเรื่องต่างๆ โดยไม่จำเป็น ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงานและความสุขในชีวิต
สมองของเรามีแนวโน้มที่จะวนเวียนอยู่กับความคิดแบบอัตโนมัติ (Automatic Thoughts) โดยเฉพาะในช่วงที่เครียดหรือวิตกกังวล นักประสาทวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เมื่อจิตใจเราฟุ้งซ่าน สมองส่วน Default Mode Network จะทำงานอย่างแข็งขัน ทำให้เราจมอยู่กับความคิดที่ไม่เป็นประโยชน์ แต่มีวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถฝึกฝนเพื่อควบคุม ‘Monkey Mind’ ได้นะ
วิธีควบคุม Monkey Mind
เริ่มจากการสร้างความตระหนักรู้ในปัจจุบันขณะ การหายใจอย่างมีสติเพียง 2-3 นาทีในแต่ละชั่วโมง สามารถช่วยให้สมองกลับมาจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำได้ดีขึ้น งานวิจัยจาก UCLA แสดงให้เห็นว่า การฝึกสติแม้เพียงวันละ 10 นาที สามารถลดการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความคิดฟุ้งซ่านได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทำ Single-Tasking
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็มีส่วนสำคัญ เช่น การจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ ลดการเช็กโซเชียลมีเดียให้เหลือเพียง 2-3 ครั้งต่อวัน หรือการทำ Single-Tasking คือโฟกัสกับงานทีละอย่างแทนการทำหลายอย่างพร้อมกัน การศึกษาพบว่า การสลับไปมาระหว่างงานหลายๆ อย่างสามารถลดประสิทธิภาพการทำงานลงถึง 40%
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายสม่ำเสมอก็เป็นอีกกุญแจสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองที่ช่วยลดความวิตกกังวลและเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ แม้แต่การเดินสั้นๆ 10 นาทีในที่โล่ง หรือการยืดเหยียดร่างกายระหว่างวัน ก็สามารถช่วยให้จิตใจสงบลงได้
ฝึกปล่อยวางความคิดที่ไม่จำเป็น
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการมีความคิดฟุ้งซ่านเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เราไม่จำเป็นต้องพยายามกำจัดความคิดเหล่านั้นให้หมดไป แต่ควรฝึกที่จะสังเกตและปล่อยวางความคิดที่ไม่จำเป็น เหมือนการมองเมฆที่ลอยผ่านไปบนท้องฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดหรือตามไปกับมัน การฝึกฝนเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราจัดการกับ Monkey Mind ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น