×

‘LFC Heroes Club’ NFT คอลเล็กชันแรกของลิเวอร์พูลที่เหมือนจะแป้กมากกว่าปัง

05.04.2022
  • LOADING...
LFC Heroes Club

HIGHLIGHTS

  • ลิเวอร์พูลเปิดตัว NFT คอลเล็กชันแรกอย่าง ‘LFC Heroes Club’ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยภาพในคอลเล็กชันคือภาพแนวการ์ตูนในแบบดิจิทัลอาร์ตเวิร์กของผู้เล่นลิเวอร์พูลชุดใหญ่ 23 คน (มีจนถึง หลุยส์ ดิอาซ ปีกดาวเด่นตัวล่าสุด) กับผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เกน คล็อปป์
  • ความเห็นของศาสตราจารย์ไซมอน แชดวิก แห่ง Global Professor of Sport ระบุว่า “แฟนนั้นอาจจะต่อต้านการพัฒนา NFT หรืออาจจะคิดว่าสิ่งนี้มันแพงเกินราคาของมัน หรือพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจมันดี ตลาด NFT ยังต้องเดินทางอีกยาวไกล”

ตลอดระยะเวลาร่วม 10 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลภายใต้การนำของกลุ่ม FSG เป็นหนึ่งในทีมกีฬาตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในด้านของผลงานในสนาม (1 พรีเมียร์ลีก, 1 แชมเปียนส์ลีก) ในแง่ของการบริหารจัดการทีม ที่ไม่ว่าจะทำหรือตัดสินใจอะไรก็ดีไปหมด เช่นเดียวกับในเรื่องของการหารายได้ที่สามารถพอร่นระยะห่างกับคู่แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้บ้าง

 

แต่ดูเหมือนการตัดสินใจที่จะก้าวสู่โลกอนาคตอย่าง NFT ซึ่งเป็นเรื่องในกระแสที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ จะกลายเป็นหนึ่งในเรื่องที่พวกเขามีโอกาสจะล้มเหลว

โดยนับจากที่มีการประกาศเปิดตัวคอลเล็กชันแรกอย่าง ‘LFC Heroes Club’ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยภาพในคอลเล็กชันคือภาพแนวการ์ตูนในแบบดิจิทัลอาร์ตเวิร์กของผู้เล่นลิเวอร์พูลชุดใหญ่ 23 คน (มีจนถึงหลุยส์ ดิอาซ ปีกดาวเด่นตัวล่าสุด) กับผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เกน คล็อปป์

คอลเล็กชันนี้จะมีแบ่งออกเป็น 2 ชุดด้วยกันคือ ‘Legendary’ ที่จะมีจำนวนแค่ 24 ภาพ และ ‘Hero Edition’ ซึ่งจะเปิดกว้างสำหรับการสะสมมากกว่า โดยในแต่ละภาพก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็เป็นวิธีการเดียวกับงาน NFT คอลเล็กชันดังทั่วไปที่จะมีการตกแต่งภาพให้แตกต่างกันออกไป เช่น สีเสื้อ ถุงมือ ผ้าพันคอ ไปจนถึงสีหน้าท่าทางต่างๆ 

ที่สุดแล้วมีภาพทั้งหมด 171,072 ภาพ ซึ่งแต่ละภาพมีสนนราคา 55 ปอนด์ (ประมาณ 2,400 บาท) โดยเป้าหมายสูงสุดของสโมสรดังจากอังกฤษคือการทำเงินรายได้ถึง 8.5 ล้านปอนด์จากคอลเล็กชันนี้ 

แต่ความเป็นจริงคือลิเวอร์พูลขาย NFT คอลเล็กชันนี้ได้เพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด หรือน้อยกว่า 8,000 ชิ้น ซึ่งห่างไกลจากเป้าหมายหลายล้านปีแสงอย่างมาก

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ ‘LFC Heroes Club’ ไม่ประสบความสำเร็จ? แล้วตกลงลิเวอร์พูลคิดอะไรอยู่ถึงทำอะไรแบบนี้?

 

 

  1. แฟนบอลไม่อิน = จบ

 

ถึงลิเวอร์พูลจะเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีฐานแฟนฟุตบอลมากที่สุดในโลก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสโมสรจะขายทุกอย่างให้กับแฟนๆ ได้

อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับ NFT ที่เป็นของใหม่ ซึ่งไม่ใช่แฟนบอลทุกคนจะเข้าใจ และไม่ใช่คนที่เข้าใจทุกคนจะเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล

ตามความเห็นของศาสตราจารย์ไซมอน แชดวิก แห่ง Global Professor of Sport ระบุว่า “แฟนนั้นอาจจะต่อต้านการพัฒนา NFT หรืออาจจะคิดว่าสิ่งนี้มันแพงเกินราคาของมัน หรือพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจมันดี ตลาด NFT ยังต้องเดินทางอีกยาวไกล”

อีกเหตุผลคือผลงานคอลเล็กชันนี้ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอลที่ได้เห็น มีคนจำนวนมากที่ดูแล้วรู้สึกว่า ‘ไม่สวยเลย’ 

ไม่นับกับเรื่องการจ่ายเงินที่ยาก ซึ่งผู้เขียนได้รับการบอกเล่าจากแฟนบอลลิเวอร์พูลสายนักสะสมการ์ด (Trading Card) ว่าได้พยายามจะเข้าระบบ (ซึ่งลิเวอร์พูลทำร่วมกับสถาบัน Sotheby’s แห่งลอนดอน) และพบว่าการชำระเงินเป็นไปได้ยากมาก จนสุดท้ายยอมแพ้

แต่อีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดคือการที่พวกเขาไม่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มแฟนบอลตัวจริงอย่าง Spirit of Shankly (SOS) ซึ่งได้รับเชิญให้มาหารือเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ และได้ให้คอมเมนต์แบบหนักๆ ไปมากมาย ซึ่งสุดท้ายสโมสรก็เลือกจะทำ NFT คอลเล็กชันนี้อยู่ดี ทำให้ SOS ออกตัวว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้

 

  1. การลงทุนคือความเสี่ยง

 

สิ่งที่กลุ่ม SOS กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ การที่สโมสรคิดที่จะหาเงินรายได้เพิ่มด้วยการให้แฟนฟุตบอลเป็นผู้ที่เผชิญกับความเสี่ยงของสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยอย่าง NFT ซึ่งไม่อิงกับปัจจัยพื้นฐานใดๆ ทั้งสิ้น

ในวงการก็มีให้เห็น เช่น NFT ของ จอห์น เทอร์รี ที่มูลค่าเคยลดลงสูงสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ NFT คอลเล็กชันระดับสุดยอดของโลกอย่าง Bored Ape Yacht Club เองก็มีราคาที่ผันผวน

ความเสี่ยงนี้เองที่ทำให้แฟนฟุตบอลอีกเป็นจำนวนมากลังเลที่จะลงทุน เพราะถึงราคาจะไม่ได้มากมายอะไรนัก (เมื่อเทียบกับเหล่า NFT ตระกูล ‘ลิง’ ทั้งหลาย) แต่เงินจะมากหรือจะน้อยก็ไม่มีใครอยากขาดทุนกันทั้งนั้น

และเมื่อมอง ‘ศักยภาพ’ แล้ว หากมีเงินจะลงทุนจริง โดดไปเล่นตัวอื่นอาจจะดีกว่า…

 

LFC Heroes Club

 

  1. ของสะสมที่ดูแล้วไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้

 

จุดสลบต่อมาคือการที่ NFT คอลเล็กชันนี้ของลิเวอร์พูลนั้นมีจุดยืนว่า ‘เป็นของสะสม’ ไม่ใช่ ‘การลงทุน’ โดยสโมสรไม่แนะนำให้แฟนๆ ซื้อไว้เพื่อนำไปขายต่อบน OpenSea เหมือนงาน NFT อื่นๆ

“สโมสรอยากแสดงจุดยืนที่ชัดเจนกับแฟนๆ ว่า NFT นั้นคืองานศิลปะสำหรับการสะสม และไม่ควรคิดว่านี่คือการลงทุน” 

อย่างไรก็ดี ถึงสโมสรจะบอกแบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าจะหาซื้อ LFC Heroes Club ใน OpenSea ไม่ได้ เพราะความจริงแล้วก็มีคนนำไปปล่อยอยู่ เพียงแต่มีจำนวนน้อยและไม่ได้รับความนิยมมากนัก

ปัญหาคือลิเวอร์พูลนั้นมีแนวคิดในการเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สะสมในวงกว้าง มันจึงเป็นการเน้น ‘ปริมาณ’ มากกว่า ‘คุณภาพ’ ทำให้ราคาขึ้นได้ยาก และยังมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสในการ ‘ปั่น’ อย่างไรให้ขึ้นไปติดลมบน

บางทีหากลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกทีก็อาจจะช่วยให้กระแสจุดติดบ้าง หรือคนดังหันมาลงทุนกับคอลเล็กชันนี้ก็อาจจะช่วยได้บ้าง แต่ดูแล้วโอกาสจะเกิดปรากฏการณ์เหมือนการ์ดของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ บนแพลตฟอร์ม Sorare ที่มีการประมูลในราคาถึง 511,000 ปอนด์นั้นเป็นไปแทบไม่ได้

 

  1. เหมือนรักษ์โลก (แค่เหมือนนะ)

 

อีกจุดที่นำไปสู่กระแสวิจารณ์คือการที่ลิเวอร์พูลเลือกที่จะวางโครงการไว้กับ Polygon ไม่ได้ใช้ Bitcoin หรือ Ethereum ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก

 

เรื่องนี้สโมสรบอกว่าทำเพราะ ‘รักษ์โลก’ เนื่องจาก Polygon นั้นมีจุดขายในเรื่องของความยั่งยืนเป็นหลัก ในขณะที่สกุลคริปโตอื่นๆ นั้นถูกวิจารณ์ว่ามีส่วนในการสร้างมลภาวะให้กับโลกใบนี้อย่างมหาศาลจากการขุดเหมืองคริปโต

แต่ในความเป็นจริงแล้ว Polygon ก็ผูกกับ Ethereum อยู่ดี และนั่นทำให้มีกระแสโจมตี แม้ว่าทางด้าน Sotheby’s จะปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และย้ำว่า Polygon จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขมากเท่ากับ Ethereum แน่นอน

 

อย่างไรก็ดี ในมุมของฝั่งสโมสรลิเวอร์พูลเอง – ซึ่งยังมีความหวังว่า LFC Heroes Club จะจำหน่ายได้มากขึ้นหลังจากนี้ – ก็ยืนยันว่าการตัดสินใจที่จะโดดเข้าโลกของ NFT นั้นเป็นสิ่งที่สโมสรได้คิดมาอย่างดีแล้ว

เหตุผลของพวกเขาคือตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและเอเชียที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก และลิเวอร์พูลเองก็ไม่อยากพลาดโอกาสในการที่จะได้เข้าตลาดนี้ เพื่อ ‘เชื่อมโยง’ กับคนกลุ่มนี้ที่อาจจะเป็นแฟนบอลอยู่เดิม หรืออาจเป็นแฟนบอลในอนาคต

การตัดสินใจลุยครั้งนี้คือความท้าทายของพวกเขาที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ ในสิ่งที่ไม่เคยทำและไม่คุ้นเคย ซึ่งถึงยอดจำหน่ายจะมีแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ผู้บริหารของสโมสรอย่าง ดรูว์ คริสป์ ก็มองว่านี่คือความสำเร็จแล้ว

 

แต่สุดท้ายพวกเขาจะต้องเดินเดียวดายหรือไม่ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าติดตามเหมือนกัน

 

อ้างอิง:

FYI
  • เงินรายได้จากการจำหน่ายภาพในชุด Legendary ครึ่งหนึ่งจะเข้ามูลนิธิลิเวอร์พูล (LFC Foundation) ส่วนชุด Hero นั้นจะแบ่งรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์ของตัวลิมิเต็ดเอดิชัน รวมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของการรีเซลในอนาคตเข้ามูลนิธิ
  • ลิเวอร์พูลมีแผนที่จะทำ NFT คอลเล็กชันสำหรับทีมหญิงด้วยเช่นกัน
  • ความพิเศษเพิ่มเติมสำหรับคนที่ซื้อ LFC Heroes Club คือการที่จะสามารถเข้า Community Forum ที่จะมอบประสบการณ์พิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้ รวมถึงการมอบส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าของสโมสรด้วย
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising