×

Let the Boy Die การกลับมาอีกครั้งของร้านคราฟต์เบียร์ไทยขวัญใจมหาชน

26.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • บาร์คราฟต์เบียร์สัญชาติไทยที่เสิร์ฟเบียร์จากเหล่าไทยไมโครบริวเวอรี
  • อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านเก่าแต่ใหญ่กว่า สามารถจุนักดื่มคราฟต์เบียร์ได้มากขึ้น
  • บรรยากาศกันเอง คนแปลกหน้าสามารถนั่งร่วมวงกันได้อย่างไม่เคอะเขิน

หลังจากหายไปถึง 1 ปีเต็ม อดีตบาร์เบียร์ขวัญใจมหาชนอย่าง Let the Boy Die ก็กลับมาอีกครั้ง และยังคงคอนเซปต์ให้เหล่าไมโครบริวเวอร์สัญชาติไทยได้เอาเบียร์ของพวกเขาออกมาอวดโฉมและรสชาติกัน หลังจากที่วุ่นวายกับการหาที่ตั้งใหม่ สุดท้ายทางร้านจึงตัดสินใจเปิดร้านใหม่ตรงข้ามบาร์เดิม เพื่อให้เหล่าสาวกไม่ต้องลำบากเที่ยวตามหา ส่วนผู้ถือหุ้นยังคงเป็น คุณเปี๊ยก-พิพัฒนพล พุ่มโพธิ์ ผู้ผลิตเบียร์ ‘Golden Coins’ ซึ่งเขาและหุ้นส่วนท่านอื่นๆ ก็ยังคงคอยให้การต้อนรับนักดื่มเบียร์รุ่นใหม่และรุ่นเก๋าเป็นอย่างดี

 

The Vibe

 

 

ทันทีที่เข้ามาถึงตัวร้านก็จะพบกับการตกแต่งที่ดูเรียบง่ายอารมณ์แบบดิบๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะไม้ยาว ที่หน้าโต๊ะถูกขัดเกลาเอาเสี้ยนออกเป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับผนังที่ทำขึ้นเพื่อให้เห็นรอยแตกและอิฐแดง พร้อมกันนี้ก็ยังเติมไฟสีส้มสร้างบรรยากาศอบอุ่น เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์น่าค้นหา ทำให้ที่นี่มีส่วนผสมระหว่างความรู้สึกเป็นส่วนตัว และเปิดต้อนรับผู้คนให้มาบรรจบกันได้อย่างลงตัว

 

 

The Drinks

 

 

นอกจาก Let the Boy Die จะเป็นสถานที่รวบรวมเบียร์ที่ถูกผลิตขึ้นจากไมโครบริวเวอร์เจ้าต่างๆ แล้ว ทางบาร์เองก็มี House Beer เป็นของตัวเองด้วย โดยเริ่มจากเบียร์ Pilsner (160 บาท) (เบียร์สีอ่อนสุด) ที่รสชาตินั้นลื่นนุ่มยิ่งนัก คล้ายๆ กับการดื่ม Lager ที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี เบียร์ชนิดนี้มีแทนนิน (Tannin) ไม่สูงมากนัก ทำให้ดื่มง่าย เพราะความฝาดลิ้นไม่ค่อยเยอะ

 

House Beer ทั้ง 4

 

ตัวที่สองคือ IPA ของ Golden Coins (180 บาท) (เบียร์เข้มขึ้นมาอีกนิด) ซึ่งใส่ผลไม้จำพวกซิตรัสเข้าไปเพิ่มรสชาติให้เฉพาะขึ้น อีกทั้งยังให้กลิ่นเปรี้ยวๆ ที่ผสมปนกับกลิ่นมอลต์คั่วปานกลางได้เป็นอย่างดี แทนนินสูงขึ้นมาหน่อย ควบคู่ไปกับรสเปรี้ยวๆ ให้การตัดรสอันน่าสนใจ ต่อมาคือ Let the Boy Die: Peach (160 บาท) (เบียร์สีรองเข้ม) กลิ่นพีชเบาๆ จะค่อยๆ ลอยมาเชิญชวนจมูกอย่างมีมารยาท เมื่อจิบจะได้รสชาติหวานๆ ของพีชและติดลิ้นอยู่นาน

 

ปิดท้ายด้วย Happy Stout จาก Golden Coins (180 บาท) (เบียร์สีเข้มสุด) คือเบียร์ดำที่ให้กลิ่นและรสชาติวานิลลา ช็อกโกแลต และเฮเซลนัตอย่างชัดเจน เพื่อช้อนรสฝาดและขมที่ได้จากการคั่วมอลต์จนไหม้ดำให้มีความหวานนุ่มมากขึ้น เหมาะกับใครที่เพิ่งจะหัดลองดื่มเบียร์ชนิดนี้

 

The Dishes

 

Mix Fries (ซ้าย) Pork Sausage (ขวา)

 

เบียร์ดีๆ จะขาดกับแกล้มดีๆ ไปไม่ได้ Mix Fries (120 บาท) ของที่นี่มีรูปร่างหน้าตาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งก้านเล็ก ก้านหนา หรือขดเป็นเกลียว จิ้มกับซอสที่เคียงมา ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 ชนิดคือ ซอสมายองเนสที่ผสมกับดิลช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสสัมผัส กับซอสอีกตัวที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย

 

หมูย่าง

 

Pork Sausage (280 บาท) ไส้กรอกชิ้นอวบที่บั้งอย่างดี เมื่อลงเขี้ยวเข้าไปจะรับรู้ได้ถึงความกรอบแน่นเนื้อที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศจนมีรสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟกับซอส 3 ชนิดและข้าวโพดหวานย่างจนหวานหอม ตามด้วย หมูย่าง (200 บาท) ซึ่งตัวเนื้อถูกหมักอย่างดี ย่างจนเนื้อในสุกแต่เมื่อหั่นจะเห็นเนื้อด้านในที่ยังมีสีแดงน่ารับประทาน รสสัมผัสนุ่มลิ้นจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วให้ได้ความเผ็ดร้อนสไตล์ไทยอีสาน

 

ซี่โครงหมู

 

ซี่โครงหมู (220 บาท) ซี่โครงแถวยาวเนื้อติดมัน ได้รับการหมักอย่างดีจนเพียงแค่เอาไปย่างไม่กี่นาทีก็ได้ซี่โครงที่เลิศรสละลายในปาก จิ้มกับซอสอะไรก็อร่อยหรือจะไม่จิ้มอะไรเลยยังได้

 

 

Open: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 17.00-11.00 น.

Address: 542 ถนนหลวง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

Budget: 160-300 บาท

Contact: 08 2675 9673

Page: www.facebook.com/ltbdbar

Map: 

 

 

FYI
  • แทนนินคือสารชนิดหนึ่งที่ให้รสชาติฝาด-ขม ซึ่งนอกจากจะพบได้ในเบียร์แล้ว ยังสามารถพบได้ในไวน์ ชา ผลไม้บางชนิด สมุนไพร ช็อกโกแลต ถั่ว และผักต่างๆ
  • ฮอปส์ เป็นส่วนผสมสำคัญของเบียร์ ส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักจะนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาที่จะให้กลิ่นวูดดี้ ในขณะที่ฮอปส์จากทางฝั่งออสเตรเลียจะให้กลิ่นที่ฟรุตตี้

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising