ทิศทางดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่า อาจเคลื่อนไหวในกรอบ 1,720-1,750 จุด หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการค่าเงิน ขณะที่ตลาดจับตารัฐบาลไทยที่เตรียมเข็นมาตรการทางเศรษฐกิจ และรอสัญญาณธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ย
ประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุดคือ มาตรการชะลอการแข็งค่าเงินบาทโดย ธปท. ที่ออกมาตั้งแต่วันศุกร์ (12 ก.ค.) โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KTBST ประเมินว่า มีผลให้การเข้ามาเก็งค่าเงินลดลง เงินบาทจะอ่อนค่าลง ตลาดหุ้นจะผันผวน 2-3 วัน แต่คาดว่า Flow ของนักลงทุนต่างประเทศยังอยู่ในตลาดหุ้น แต่จะไปลดในตลาดพันธบัตรมากกว่า ดังนั้นจึงมีผลลบต่อตลาดหุ้นไม่มาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทด้วย หากอ่อนค่าทะลุ 31.10 บาทลงไปจากปัจจุบันที่ 30.93 บาท/ดอลล่าร์ จะเร่งให้มีการขายหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินได้
ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสยืนเหนือ 1,720 จุด ได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ รัฐบาลจะเข็นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค อาทิ ลดภาษีเงินได้ ประกอบกับโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนนี้ยังคงมีสูง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็น่าจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 25 กรกฎาคม ส่งผลให้ Flow ยังคงไหลเข้าตลาด EM อย่างต่อเนื่อง
ส่วนตัวแปรอื่นๆ นอกจากผลของมาตรการ ธปท. แล้ว จะเป็นความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจีนซื้อสินค้าสหรัฐฯ ลดลง (1.3% ในเดือน มิถุนายน) และประเด็นเกี่ยวกับหุ้นโรงไฟฟ้า หลังกระทรวงพลังงานถูกขอให้มีการแก้ไข PDP2018
ในภาพรวม เนื่องจากตลาดมีตัวแปรลบเข้ามาคือ มาตรการค่าเงิน จะทำให้แรงซื้อหุ้นอาจชะลอลง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และนโยบายดอกเบี้ยต่ำที่พร้อมใช้ทั่วโลก จะหนุนดัชนีฯ ให้ขึ้นต่อไปได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- บริษัทหลักทรัพย์ KTBST