KEY SUCCESS: The Precision Maker

94% คือสถิติที่ โทนี โครส ส่งบอลได้สำเร็จในลาลีกา สเปน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จากสถิติของ Opta โดยเขาผ่านบอลทั้งหมด 22,088 ครั้ง และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้เขาผ่านบอลสำเร็จด้วยสถิติเฉลี่ยที่ 91.7% ผ่านการลงเล่นทั้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแอร์เบ ไลป์ซิก

โครสเตรียมลงเล่นเกมสุดท้ายให้กับเรอัล มาดริดในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศที่จะพบกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และเตรียมที่จะลงแข่งทัวร์นาเมนต์สุดท้ายกับทีมชาติเยอรมนี ชาติเจ้าภาพของการแข่งขันศึกยูโร 2024

ตลอดการค้าแข้งของเขากับเรอัล มาดริด เขาได้รับการยกย่องมากมายจากผู้คนในวงการฟุตบอลในด้านของสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยความนิ่ง การส่งบอลที่แม่นยำ แถมยังถูกที่ถูกเวลา

แม้ว่าครั้งหนึ่งในปี 2021 เขาจะเคยถูก อูลี เฮอเนสส์ ประธานกิตติมศักดิ์ของสโมสรบาเยิร์น มิวนิกมองว่า “สไตล์ของโครสจะไม่มีที่ยืนในฟุตบอลยุคปัจจุบัน”

แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำสบประมาทของ อูลี เฮอเนสส์ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสไตล์การเล่นของโครส

เพราะหลังจากนั้นเขาได้แชมป์ลาลีกาอีก 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และเข้าชิงฯ ในปีนี้ รวมถึงถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมนีอีกครั้งในศึกยูโร 2024

ซึ่ง อูลี เฮอเนสส์ ยังยอมกลับลำมาชมโครสในวัย 34 ปี ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีในการดึงตัวคนที่มีประสบการณ์และความสำเร็จมาสู่ทีมชาติเยอรมนี

สไตล์ของโครสครั้งหนึ่ง ฮวน โรมัน ริเกลเม ตำนานทีมชาติอาร์เจนตินา เคยกล่าวยกย่องเขาว่า ถ้าจะมีนักฟุตบอลคนไหนที่ใกล้เคียงกับการถูกเปรียบเทียบว่าเป็น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แห่งวงการฟุตบอลมากที่สุด คนคนนั้นก็คือ โทนี โครส

“เขาสามารถออกไปเล่น และกลับบ้านไปโดยไม่ต้องอาบน้ำได้ เขาดูไม่เหนื่อย เหงื่อไม่ออก ไม่มีตรงไหนที่สกปรกเลย”

โครสคือนักฟุตบอลคนที่เหมือนมีพื้นที่สนามเป็นของตัวเอง เป็นนาฬิกาที่หมุนด้วยความเร็วที่แตกต่างจากคนอื่น และสามารถควบคุมเกมได้ทั่วทั้งสนาม แต่นอกจากทักษะและความสามารถ เขายังมีทัศนคติที่สงบนิ่งและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

“นักเตะของเราผ่านสถานการณ์เกมใหญ่มากันหมด ดังนั้นเรารู้ว่าจะหาความสงบได้อย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเรารู้ว่าเราสามารถเอาชนะทุกคนได้” โครสกล่าวก่อนเข้าชิงฯ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อปี 2018 ซึ่งพวกเขาเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ในปีนั้น

“แม้ว่าเราจะตามหลัง เราสามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้ เรามีประสบการณ์ในทุกสถานการณ์ เราจึงไม่เคยรู้สึกกังวล”

มาจนถึงรอบชิงฯ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2022 เกมถูกดีเลย์ออกไป และเมื่ออันเชล็อตติเดินเข้ามาแจ้งข่าวในห้องแต่งตัว โทนี โครส ก็ตอบว่า

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราก็ชนะอยู่ดี”

ทางฝั่งอันเชล็อตติก็กล่าวยกย่องโครสว่า “เขาเป็นคนที่พิเศษมาก

“เขาอยู่ถูกที่ถูกเวลา เขาไม่เคยส่งบอลไปผิดที่ สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เขาเป็นกองกลางที่ต้องการบอลตลอด ไม่กลัวที่จะรับแรงกดดัน”

ฮอร์เก วัลดาโน อดีตนักฟุตบอลของเรอัล มาดริด เคยกล่าวถึงสไตล์การเล่นของโครสว่า

“เงียบสงบเสียจนบางคนมองไม่เห็น สิ่งที่ทำให้คนดูมีความสุขคือความฉลาดในการควบคุมเกม ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องใช้พละกำลัง แต่หลังทุกเกมจบลง เขาจะเป็นนักเตะที่สัมผัสบอลมากที่สุด และคุณก็จะสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่เราไม่เห็นเขาเลย และไม่รู้ว่าจะยกย่องการเล่นของเขาอย่างไรดี”

แต่ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจที่แม่นยำและเด็ดขาดในสนาม โครสยังเลือกที่จะยุติเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาในรูปแบบที่เขาเล่นฟุตบอล นั่นคือช่วงเวลาที่เขาเป็นคนควบคุมเอง

“หลายคนบอกผมว่าผมยังเล่นได้อีกหลายปี แต่ผมไม่อยากให้ไปถึงจุดที่ผู้คนบอกว่าทำไมเขาถึงยังเล่นอยู่อีก? ดังนั้นผมจึงเลือกโมเมนต์ที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือตอนนี้

“นี่เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุด และโมเมนต์ที่เหมาะสมในการจากลา ไม่กี่ปีหลังจากนี้เมื่อคุณพูดถึง โทนี โครส ผมอยากจะให้คุณจดจำผมในตอนนี้ ผมอยากจะมาอยู่ในระดับที่ผมอยู่ในตอนนี้ตลอดมา”

หนึ่งในภาพยนตร์กีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง Any Given Sunday ปี 1999 เกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอล เคยกล่าวถึงความสำคัญของจังหวะและเวลาที่เหมาะสมในชีวิตและกีฬา ผ่านการแสดงของ อัล ปาชิโน ไว้ว่า

“เมื่อคุณเติบโตขึ้น คุณจะเริ่มเข้าใจว่าชีวิตคือเกมที่ถูกตัดสินเพียงแค่ความต่างเพียงไม่กี่นิ้ว

“เช่นเดียวกับอเมริกันฟุตบอล เพราะไม่ว่าจะในอเมริกันฟุตบอลหรือชีวิต ช่องว่างสำหรับความผิดพลาดมีน้อยมาก ผมหมายถึงว่าถ้าคุณก้าวช้าเกินไปหรือเร็วเกินไป ถ้าคุณช้าไปเพียงวินาทีเดียวคุณก็อาจจะไปไม่ถึงบอล หรือเร็วไปบอลก็อาจจะมาไม่ถึงคุณ

“ทุกระยะที่สำคัญอยู่รอบตัวเรา ทุกเกม ทุกนาที ทุกวินาที รอบตัวเรา และในทีมนี้เราสู้เพื่อพื้นที่ทุกนิ้ว เราต่อสู้แบบบ้าคลั่งเพื่อระยะเพียงหนึ่งนิ้ว เพราะเมื่อเราเอาระยะทั้งหมดมาบวกกัน มันจะเป็นสิ่งที่ตัดสินความแตกต่างระหว่างชัยชนะหรือความพ่ายแพ้”

และดูเหมือนว่าฟุตบอลกำลังจะต้องบอกลาหนึ่งในคนที่สามารถควบคุมจังหวะ ทั้งในสนามฟุตบอลและจังหวะชีวิตได้ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์

The Precision Maker (คนสร้างความแม่นยำ) ทั้งจังหวะ การออกบอล และจังหวะการบอกลา

ในจังหวะและเวลาที่เขาเป็นคนเลือกเอง ในจุดที่สมบูรณ์แบบที่สุด นั่นคือจุดสูงสุดของอาชีพ

อ้างอิง: