ตั้งแต่ Apple ไปจนถึง Nike แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกต่างถอยห่าง ‘รัสเซีย’ สะท้อนภาพความโดดเดี่ยวที่กำลังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำมาซึ่งการประณามจากทั่วโลก ข้อจำกัดทางการค้า และบทลงโทษทางการเงิน ขณะนี้ประเทศที่มีประชากร 145 ล้านคน กำลังถูกแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกถอยห่าง จากประกาศยุติการจำหน่ายสินค้าและยุติการให้บริการ สะท้อนภาพความโดดเดี่ยวที่กำลังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

Apple ยุติจำหน่ายสินค้าชั่วคราว ปิดกั้น Apple Pay ในรัสเซีย

Apple กล่าวในแถลงการณ์ว่า ‘กังวลอย่างยิ่ง’ เกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย และเพื่อเป็นการตอบโต้จึงได้ ‘หยุดการขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดชั่วคราว’ ตลอดจนจำกัดการเข้าถึงบริการดิจิทัล เช่น Apple Pay ในรัสเซีย

นอกจากนี้แอปพลิเคชันสื่อของรัฐของรัสเซีย ทั้ง RT News และ Sputnik News จะไม่สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store นอกรัสเซียอีกต่อไป ขณะเดียวกันแอปธนาคารบนมือถือในภาษารัสเซีย เช่น แอปของธนาคาร VTB ของรัสเซีย อาจไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ของ Apple

ความเคลื่อนไหวของ Apple นับว่าน่าสนใจ เพราะเกิดขึ้นหลังจากการขยายตัวครั้งล่าสุดในรัสเซีย โดย Apple ได้จดทะเบียนสำนักงานธุรกิจที่นั่นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และลงประกาศตำแหน่งงานประมาณครึ่งโหลในมอสโก แต่การรุกรานของประธานาธิบดีรัสเซีย ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ในยูเครน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรวดเร็ว

“เรากำลังสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรม ให้ความช่วยเหลือแก่วิกฤตผู้ลี้ภัย และทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสนับสนุนทีมของเราในภูมิภาคนี้”

การตัดสินใจของ Apple เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนที่เพิ่มมากขึ้นในการต่อต้านรัสเซีย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและประชาธิปไตยบางคนกล่าวว่า นั่นอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ชาวรัสเซียที่อยากประท้วงเครมลินและพึ่งพาเครื่องมือของตะวันตกในการหาข้อมูล

Google ร่วมวงด้วย

Google ก็เป็นยักษ์ด้านเทคโนโลยีอีกรายที่เข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยได้จำกัดบริษัทข่าวที่ได้รับทุนจากรัฐบาลรัสเซียจากเครื่องมือโฆษณาและคุณลักษณะบางอย่างบน YouTube

“เรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดการคว่ำบาตร และเรายังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง” Google กล่าว

รายงานจาก BBC ระบุว่า Google Pay ถูกจำกัดในรัสเซียสำหรับผู้ที่ใช้ธนาคารที่ถูกคว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม Google ไม่ได้บล็อก Google Pay ในรัสเซีย

Google ยังกล่าวอีกว่า “บริการส่วนใหญ่ของเรา (เช่น Search, Maps และ YouTube) ยังคงให้บริการในรัสเซียในปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและมุมมองทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง”

บริษัทต่างๆ ได้ตัดขาดรัสเซีย

ทางด้าน Facebook และ Twitter ได้เริ่มปราบปรามเนื้อหาที่สื่อรัสเซียแชร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ของยุโรปให้ดำเนินการต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อที่สนับสนุนรัสเซีย

สตูดิโอฮอลลีวูด เช่น Walt Disney Co. และ WarnerMedia ประกาศหยุดการฉายภาพยนตร์ใหม่ในรัสเซีย ซึ่งรวมถึง ‘The Batman’ ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ในสุดสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปี

ในช่วงเวลาเดียวกัน Nike บริษัทกีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ก็หยุดการขายในรัสเซียเช่นกัน แม้ว่าจะกล่าวโทษว่าเป็นผลจากการขนส่งก็ตาม โดยการอัปเดตเว็บไซต์ของ Nike แสดงให้เห็นว่าการซื้อทางออนไลน์และในแอปไม่พร้อมใช้งานในรัสเซีย เนื่องจาก Nike กล่าวว่า ‘ไม่สามารถรับประกันการส่งมอบสินค้าไปยังรัสเซียได้’

บริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ Maersk ของเดนมาร์ก และ MSC ซึ่งตั้งอยู่ในเจนีวา ก็ระงับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปและกลับจากรัสเซีย ด้านสหราชอาณาจักรยังได้สั่งห้ามเรือจากรัสเซีย นี่เองทำให้รัสเซียซึ่งเป็นผู้จัดหาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นลำดับที่ 6 ของโลก จะถูกตัดขาดจากส่วนสำคัญของการค้าทางเรือ

HP Inc. ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จะหยุดส่งออกไปยังรัสเซีย ด้าน Ford Motor ก็เข้าร่วมด้วยเช่นเดียวกัน

สายการบินงดบินผ่านน่านฟ้ารัสเซีย

ในขณะเดียวกัน United Airlines ได้ประกาศจะหยุดบินเหนือน่านฟ้ารัสเซียสำหรับเที่ยวบินที่ไปยังอินเดีย ทำให้เป็นสายการบินผู้โดยสารรายใหญ่แห่งสุดท้ายของสหรัฐฯ ที่จะถอนตัวออกจากน่านฟ้า

American Airlines และ Delta Air กล่าวแล้วว่าพวกเขาหยุดบินเหนือน่าฟ้ารัสเซีย เปลี่ยนเส้นทางที่เชื่อมเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ ไปยังจุดหมายปลายทาง เช่น โตเกียว และอินชอน เกาหลีใต้

ส่วน Boeing ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ ได้ออกมาระงับชิ้นส่วน การบำรุงรักษา และการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับสายการบินรัสเซีย เช่นเดียวกับการดำเนินงานหลักในกรุงมอสโก ภายหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

Bloomberg ชี้ว่า นอกเหนือจากความกังวลเกี่ยวกับการรุกรานแล้ว การดำเนินงานในรัสเซียได้กลายเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับบริษัทต่างชาติ ด้วยมาตรการคว่ำบาตรที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าเงินรูเบิลลดลง และการห้ามธุรกรรมของสหรัฐฯ กับธนาคารกลางรัสเซีย การตัดสินใจถอนตัวออกจากประเทศกลายเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า

ภาคการเงินกำลังระส่ำ

ภาคการเงินของรัสเซียก็อยู่ในภาวะระส่ำระสายไม่แพ้กัน เพราะยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินและบัตรเครดิต Visa และ Mastercard ได้ปิดกั้นสถาบันการเงินของรัสเซียจากเครือข่ายของตัวเอง

โดยทั้ง Visa และ Mastercard ก็ให้คำมั่นว่าจะให้เงิน 2 ล้านดอลลาร์แก่กองทุนบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมสำหรับยูเครน

สัปดาห์ที่แล้วสหรัฐฯ ได้กำหนดให้บุคคลและสถาบันการเงินของรัสเซียจำนวนหนึ่งอยู่ในรายการคว่ำบาตร ทำให้บริษัทและผู้คนในสหรัฐฯ ไม่สามารถทำธุรกิจกับบุคคลหรือนิติบุคคลใดๆ ที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวได้ วอชิงตันยังคว่ำบาตรธนาคารกลางของรัสเซียอีกด้วย

ขณะที่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงกันว่า ชาติพันธมิตรตะวันตก ได้แก่ คณะกรรมาธิการยุโรป (EU), ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สหราชอาณาจักร, แคนาดา และสหรัฐฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ว่าจะดำเนินการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันว่าธนาคารรัสเซียจะถูกตัดออกจากระบบการเงินสากล และจะส่งผลให้ไม่สามารถทำธุรกรรมในระดับโลกได้

การคว่ำบาตรในวงกว้างทำให้มูลค่ารูเบิลรัสเซียดิ่งลง พลเมืองในรัสเซียต่างรอคิวยาวเพื่อถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม

ด้วยเหตุนี้ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อาจกลายเป็นวิธีสำหรับรัสเซียในการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรและนำเงินออกจากประเทศ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยหน่วยงานเดียวเช่นธนาคารกลาง

Binance ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่าจะปิดบัญชีของคนรัสเซียเฉพาะชื่อที่โดนคว่ำบาตร และจะไม่แบนบัญชีของผู้ใช้งานทั้งประเทศในรัสเซียโดยไร้เหตุผล

เนื่องจากทาง Binance มองว่า คริปโตเป็นเครื่องมือสำหรับให้อิสรภาพทางการเงินของผู้คนทั่วโลก และการแบนผู้ใช้งานคริปโตโดยไร้เหตุผลนั้นขัดแย้งกับจุดประสงค์ในการเกิดขึ้นมาของคริปโต

ทั้งหมดนี้เป็นเพียง ‘ส่วนหนึ่ง’ ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างๆ ที่ได้ออกมาตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และทำให้ภาพความโดดเดี่ยวกำลังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะไปหยุดอยู่ที่ตรงไหนนั้น ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ในตอนนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Horacio Villalobos#Corbis/Corbis via Getty Images

อ้างอิง: