×

ชาติตะวันตกจัดหนักรุมคว่ำบาตรรัสเซีย ตั้งเป้าโค่นเศรษฐกิจแดนหมีขาว กดดัน GDP ส่อวูบหนัก 6%

02.03.2022
  • LOADING...
ชาติตะวันตกจัดหนักรุมคว่ำบาตรรัสเซีย ตั้งเป้าโค่นเศรษฐกิจแดนหมีขาว กดดัน GDP ส่อวูบหนัก 6%

มาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลรัสเซียระลอกล่าสุดของเหล่าพันธมิตรชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ถือเป็น ‘ลูกซัลโว’ ที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าจะเป็นหมัดเด็ดที่สามารถฝ่าปราการป้องกันทางการเงินที่แข็งแกร่งของรัสเซีย และทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของรัสเซียถดถอยลงอย่างรุนแรง

 

โดยทางสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานอ้างอิงนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงความเห็นว่า ระดับของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของรัสเซียในเวลานี้ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขของมาตรการที่มีอยู่ มีความเป็นไปได้สูงว่ารัสเซียจะต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ที่ทำให้ธนาคารรายใหญ่ในรัสเซียเสี่ยงพังทลาย

 

ทั้งนี้ บรรดาพันธมิตรชาติตะวันตกได้ให้นิยามความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ว่า เป็นสงครามเศรษฐกิจที่มีขึ้นเพื่อลงโทษประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่จุดชนวนสงคราม และตอกย้ำว่า ปูตินเป็นผู้ที่นำพารัสเซียไปสู่ความโดดเดี่ยวบนเวทีโลก เป็นรัฐบาลที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร

 

ขณะเดียวกัน ก็นับเป็นครั้งแรกที่นานาชาติพร้อมใจงดทำธุรกรรมกับทางธนาคารรายใหญ่หลักๆ ของรัสเซีย รวมถึงการถอนธนาคารรัสเซียออกจากระบบ SWIFT ควบคู่ไปกับการอายัดทรัพย์สินของบุคคลสำคัญหรือมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย

 

โอลิเวอร์ อัลเลน นักเศรษฐศาสตร์ตลาดของ Capital Economics กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งล่าสุดของพันธมิตรชาติตะวันตกถือเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับนักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาด เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีการเดินหน้ากดดันรัสเซียด้วยมาตรการที่เห็นผลในทันทีอย่างการพยายามตัดรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก

 

ทั้งนี้ ทางด้าน Oxford Economics ประเมินว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะทำให้ GDP ปี 2022 ของรัสเซียหายไปมากถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ รายหนึ่งระบุว่า เป้าหมายมาตรการคว่ำบาตรค่อนข้างมีความชัดเจนอยู่แล้ว กล่าวคือ หากรัสเซียเดินหน้าบุกยูเครน รัสเซียก็ต้องเตรียมใจยอมรับกับการถดถอยหรือภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจ

 

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียต้องเผชิญกับสารพัดมาตรการคว่ำบาตร จนแทบจะเรียกได้ว่าชินชา แถมประสบการณ์ที่ผ่านมายังทำให้รัสเซียมีแนวทางป้องกันรับมือมาตรการคว่ำบาตร แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การคว่ำบาตรในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน เพราะพุ่งเป้าไปที่ระบบการเงินการธนาคารของรัสเซียโดยตรง ท่ามกลางบริบทแวดล้อมและสภาพสังคมที่เพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตการระบาดครั้งใหญ่

 

ดังนั้นในเวลานี้หลายฝ่ายต่างจับตามองท่าทีของรัฐบาลรัสเซีย โดยเฉพาะทางธนาคารกลางรัสเซีย ว่าจะมีการตอบสนองอย่างไรต่อไป หลังจากที่ต้องออกมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขนานใหญ่มาอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสกัดไม่ให้ค่าเงินรูเบิลดิ่งหนัก โดยรวมถึงการหาระบบการเงินที่จะยังคงทำให้การค้าขายส่งออกของรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ตลอดจนหาแนวทางรับมือในกรณีที่ชาติตะวันตกยอมแบกรับราคาพลังงานแพงด้วยการแบนน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising