×

COVID Zero อาจเป็นเรื่องเพ้อฝัน? บทวิเคราะห์ชี้ จีนปรับเป้าหมายสู้โควิด ภายใต้นโยบาย ‘Dynamic Clearing’ ลุยขจัดโควิดก่อนโอลิมปิกฤดูหนาวเปิดฉาก

โดย THE STANDARD TEAM
13.01.2022
  • LOADING...
COVID Zero

ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกกำลังดิ้นรนหาทางใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด จีนกลับส่งสัญญาณใช้แนวทาง ‘โควิดเป็นศูนย์’ (COVID Zero) ต่อไป ดังเห็นได้จากเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ซีอาน เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งมีประชากร 13 ล้านคน มาตรการกักกันนั้นเข้มงวดมากจนทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ชาวบ้านถึงกับต้องนำบุหรี่หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีไปแลกอาหารเพื่อประทังชีวิต ขณะที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียนจิน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากร 14 ล้านคน และตั้งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง ได้เริ่มปูพรมตรวจหาเชื้อโควิดชาวเมืองทุกคนหลังพบสายพันธุ์โอมิครอนระบาดในพื้นที่

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวกำลังจะเปิดฉากที่ปักกิ่งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ หรือในอีกเพียง 4 สัปดาห์ข้างหน้า

 

อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์โดย ชูลี่ เหริน ใน Bloomberg ชี้ว่า การลุยกวาดล้างโควิดนั้นไม่ได้มีเพียงกีฬาเป็นเดิมพันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงห่วงโซ่อุปทานของโลกที่อาจจะต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เนื่องจากประเทศจีนเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และการปิดท่าเรือเพียงหนึ่งแห่งอาจส่งผลกระทบไปทั่วทุกอุตสาหกรรม 

 

แต่ด้วยสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์นั้นแทบจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่จีนปรับเปลี่ยนคำเรียกขานนโยบายเสียใหม่

 

รัฐบาลประกาศว่า ‘COVID Zero’ ไม่ใช่เป้าหมายเชิงนโยบายของจีนอีกต่อไป แต่จีนกำลังมุ่งเป้าไปที่ ‘Dynamic Clearing’ ซึ่งต้องอาศัยรัฐบาลท้องถิ่นในการขจัดการระบาดในท้องถิ่น โดยในการแถลงข่าวเรื่องกลไกการควบคุมและป้องกันโควิดของคณะรัฐมนตรีจีน ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม เหลียงว่านเหนียน หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญโรคโควิดของรัฐบาล ได้กล่าวว่า

 

“เรายังไม่มีความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อในท้องถิ่น แต่เรามีความสามารถและความมั่นใจในการยุติการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเมื่อพบการติดเชื้อในท้องถิ่น ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่เราต้องการเน้นย้ำ มันไม่ใช่การทำให้การติดเชื้อเป็นศูนย์ แต่เป็นการกำจัดการติดเชื้อให้หมดสิ้นไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 

นอกจากนี้ปักกิ่งยังเน้นเป็นพิเศษในเรื่อง ‘ความเร็ว’ และ ‘ความแม่นยำ’ เราอาจคุ้นเคยกับความเร็วในแบบฉบับของจีนมาแล้ว นั่นก็คือการปูพรมตรวจโควิดตั้งแต่เนิ่นๆ และการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอย่างเข้มงวด เพื่อยับยั้งการระบาดในท้องถิ่นตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ความแม่นยำถือเป็นเรื่องใหม่ กล่าวคือแทนที่จะใช้วิธีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ จีนก็เปลี่ยนมาใช้วิธีล็อกดาวน์เป็นจุดๆ ไป เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเสียหาย ตัวอย่างก็คือการล็อกดาวน์ซีอาน ซึ่งเป็นการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปิดเมืองอู่ฮั่นเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน 

 

วัตถุประสงค์ของนโยบายนี้ก็คือ แม้ว่าบางเมืองจะต้องหยุดชะงักเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ แต่ส่วนที่เหลือของประเทศยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้โดยปราศจากข้อจำกัด หรืออาจกล่าวได้ว่า ชาวซีอานต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมนั่นเอง

 

เออร์แนน ชุย จาก Gavekal Dragonomics กล่าวว่า หลักฐานหนึ่งที่ยืนยันในเรื่องนี้ก็คือการเดินทาง โดยในช่วงไม่กี่วันมานี้ ขณะที่ท้องถนนในซีอานแทบจะไร้รถ แต่การจราจรในเมืองอื่นๆ ยังคงเป็นปกติ ในขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมคาดการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า การเดินทางของชาวจีนในช่วง 40 วันของเทศกาลตรุษจีนปีนี้ (ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์) อาจมากกว่าเมื่อปี 2020 ซึ่งเทศกาลตรุษจีนในปีนั้นเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับที่เริ่มพบโควิดแพร่ระบาดในประเทศ

 

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ใกล้จะเปิดฉากในอีกไม่ถึง 1 เดือน ทำให้ทางการจีนต้องพยายามควบคุมการระบาดอย่างสุดความสามารถ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าจีนมีชัยเหนือโควิด แต่เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าเมื่อโอลิมปิกฤดูหนาวสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จีนจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายโควิดหรือไม่ และอย่างไร

 

ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising