ทุกคนย่อมมีอาชีพในฝัน และสำหรับอดีตเฮดเชฟร้านไฟน์ไดนิ่งที่ชื่อ เชฟยีสต์-นกุล กวินรัตน์ ความฝันที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคือ ‘อยากเปิดร้านหมูปิ้ง’ ต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติการล่าฝันจริงๆ ผลลัพธ์กลับกลายเป็นร้านอาหารจานเดียวง่ายๆ ที่มีชื่อง่ายๆ สอดคล้องกับวัตถุดิบหลักที่ใช้ว่า ‘คอหมูพระราม 5’
“ใครมาร้านนี้ก็มักจะสั่งคอหมูย่างเป็นอย่างแรก อาจจะด้วยชื่อร้าน แต่จริงๆ แล้วคอหมูย่างเป็นเมนูที่ผมไม่อยากแนะนำให้สั่งเลย อยากให้ลองสั่งเมนูอื่นมากกว่า อยากให้ลูกค้าได้เห็นความหลากหลายของเมนูว่าเนื้อหมูสามารถนำมาทำเป็นเมนูใหม่ๆ ได้เยอะมาก” เชฟยีสต์กล่าวเปิดร้าน ‘คอหมูพระราม 5’ ร้านน้องใหม่วัย 4 เดือนเศษที่ไม่ได้เป็นที่เล่าลือเฉพาะย่านวงเวียนพระราม 5 แต่ยังชื่อมีเสียงดังไกลในโลกโซเชียลว่าเมนูหมูๆ ของที่นี่อร่อย แถมน้ำพริกฟรีก็ดีงามมาก ที่สำคัญคือราคาสบายใจ กินได้แม้ยามสิ้นเดือน
“อย่างที่บอกว่าเคยอยากทำร้านหมูปิ้ง พอดีจังหวะที่ผมลาออกจากร้านเก่าก็เลยเริ่มขับรถหาพื้นที่ทำร้านจริงจัง ก็มาเจอตรงนี้ที่ใกล้กับวงเวียนพระราม 5 และบ้านผม แต่ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่เกินจะทำร้านหมูปิ้ง ก็เลยขยายมาเป็นร้านอาหารน่าจะเหมาะกว่า เป็นการต่อยอดจากอาหารที่ผมคุ้นเคยและถนัดคืออาหารไทย-จีน”
เชฟยีสต์-นกุล กวินรัตน์
ความถนัดด้านอาหารไทยนั้นการันตีจากตำแหน่งอดีตเฮดเชฟผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยใน The Never Ending Summer และ The Summer House Project ส่วนอาหารจีนมาจากพื้นฐานครัวของที่บ้าน เช่นเดียวกับการเลือกหมูให้เป็นวัตถุดิบหลัก เหตุก็ด้วยที่ครัวบ้านเชฟปรุงเมนูหมูเป็นหลัก ไม่นิยมไก่ ส่วนอาหารทะเลก็มีบ้างเป็นครั้งคราว ประกอบกับความตั้งใจที่จะควบคุมคุณภาพของอาหารให้ได้ดีที่สุดในทุกจาน คอหมูพระราม 5 จึงมีเมนูอาหารจานเดี่ยวจากหมูเสิร์ฟเป็นข้าวราดประมาณ 6-10 เมนูเท่านั้น แบ่งเป็นเมนูหลัก 6 เมนู และเมนูตามใจฉัน (เปลี่ยนไปเรื่อย เบื่อก็เลิก) อีก 3 เมนู
“ที่นี่เราไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้หมูส่วนไหนมาทำอะไร เพราะเมนูเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และฟาร์มหมูที่เราเลือกใช้ก็ไม่ได้ทำหมูไว้พร้อมขายรอลูกค้าทุกวัน ผมไม่สามารถสั่งร้อยกิโลกรัมวันนี้แล้วได้เลย แต่ต้องมีออร์เดอร์ไปก่อน เขาถึงจะทำหมูส่งมาให้ในวันถัดไป ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่เราจะได้ของสดจริงๆ ซึ่งเรื่องคุณภาพความสดเป็นสิ่งที่ผมเน้นมาก ไม่จำเป็นต้องมีเป็นสิบเป็นร้อยเมนู แต่ทุกเมนูต้องใช้ของสดใหม่และมีคุณภาพ”
น้ำพริกกว่า 9 ชนิดให้เลือกกินพร้อมผักสด
ด้วยความที่มีเมนูไม่มาก เชฟจึงเพิ่มสีสันความสนุกด้วยการทำน้ำพริกมาเพิ่มอีกวันละ 9 ชนิดวางในรถเข็นกลางร้านให้ลูกค้าได้ตักเอง กินฟรีคู่กับผักพื้นบ้านเหมือนที่เราเคยเห็นในร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ส่วนเมนูแนะนำประจำซีซันนี้เริ่มจาก ข้าวหมูย่างพริกแกงหอมเสฉวน (70 บาท) ที่ได้ไอเดียมาจากไก่กอและ เพียงแต่เปลี่ยนเป็นหมูแล้วนำมาพอกด้วยกะทิ พริกแกง และเผ็ดร้อนด้วยพริกเสฉวนเบาๆ กินกับอาจาดตัดรสได้กลมกล่อมมาก
ข้าวหมูย่างพริกแกงหอมเสฉวน
ข้าวแกงกะหรี่ระแวง
แกงกะหรี่ระแวง (60 บาท) เป็นอีกเมนูราดข้าวที่เราชอบ ให้อารมณ์กินข้าวแกงกะหรี่สูตรจีนที่เยาวราชเสิร์ฟคู่กุนเชียงย่างที่ทางร้านทำเอง ส่วน หมูแดงเต้าหู้ยี้ (70 บาท) มีไอเดียมาจากหมูแดงฮ่องกงรสออกหวาน ตัดรสด้วยขิงดองสไลด์บางเฉียบ เป็นคู่ที่เข้ารสกันได้ดีมาก เช่นเดียวกับ แกงรัญจวนเวียงจันทน์ (70 บาท) ที่เชฟเปลี่ยนจากแกงรัญจวนไทยๆ ที่นำน้ำพริกกะปิไปทำน้ำพริกแกงเป็นการใช้น้ำพริกปลาร้า ซึ่งทำให้แกงรัญจวนมีรสชาติจัดจ้านขึ้น แถมใช้เนื้อหมูส่วนที่ติดกับตับ ซึ่งนิ่มแต่ยังมีเท็กซ์เจอร์ให้เคี้ยวสนุก ที่สำคัญคือให้เครื่องตะไคร้หอมแดงเต็มที่แบบไม่หวงของ
ข้าวหมูแดงเต้าหู้ยี้
แกงรัญจวนเวียงจันทน์
อีกเมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่งคือน้ำแข็งไสไทยๆ ที่ดีงามด้วยการที่เชฟยีสต์เดินมาเสิร์ฟเองถึงโต๊ะ โดยเชฟจะนำสี่สหาย อันได้แก่ ไข่กบ (เม็ดแมงลัก), นกปล่อย (ลอดช่อง), บัวลอย (ข้าวตอก) และไอ้ตื้อ (ข้าวเหนียวดำ) ใส่ปิ่นโตเถาสีเหลืองมาจัดแจงตักเสิร์ฟทีละอย่างลงในถ้วย พร้อมเสียงนุ่มๆ คอยอธิบายว่าแต่ละชื่อที่กล่าวมานั้นคืออะไร จบด้วยการยกกาใส่น้ำกะทิราดลงไป ซึ่งด้วยความที่ใช้เฉพาะกะทิล้วนๆ เคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บ หอมหวานใบเตยแทรกเข้ามา แถมข้าวตอกก็อบควันเทียนอีกด้วย ทำให้น้ำแข็งไสไทยๆ ในราคาเพียง 45 บาทดูอลังการงานสร้างขึ้นมา
ก่อนกินต้องราดน้ำกะทิลงไปก่อน
สี่สหายน้ำแข็งไสไทย
ความใส่ใจของเชฟยีสต์นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องอาหาร แค่ข้าวที่เชฟเลือกใช้ในร้านก็ต้องเป็นข้าวหอมมะลิจากยโสธรที่คัดมาแล้วว่ามีความเหนียวหนึบ เหมาะกับการนำมาเสิร์ฟแบบข้าวราดแกง เรียกได้ว่าเป็นร้านที่เปลี่ยนภาพของร้านอาหารจานเดียวที่หลายคนคิดว่าง่ายๆ เร็วๆ ให้กลายเป็นร้านที่เต็มไปด้วยรายละเอียด คุ้มกับการมากินซ้ำจริงๆ
คอหมูพระราม 5
Open: วันเสาร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-21.30 น.
Address: โครงการสวนดอกลำเจียก ถนนราชพฤกษ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
Budget: อาหารจานเดียว 60-70 บาท กับข้าว 70-150 บาท
Contact: 0 9251 6535
Page: www.facebook.com/kawmoorama5
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์