×

คารมยกปมขับ ‘หมออ๋อง’ เทียบโหวตสวนมติพรรคก้าวไกลแก้ ม.112 มองเอาแต่ใจ ชี้การเมืองต้องรวมกันเดินไปข้างหน้า

โดย THE STANDARD TEAM
04.10.2023
  • LOADING...
พูดถึง ปดิพัทธ์ และ ชัย วัชรงค์

วันนี้ (4 ตุลาคม) คารม​ พลพรกลาง​ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ ชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าจะร่วมมือกันทำงาน ซึ่งตนได้อธิบายให้ฟังว่า เคยทำงานกับพรรคไทยรักไทย จนมาเป็นพรรคเพื่อไทย​ จากพรรคอนาคตใหม่​สู่พรรคก้าวไกล​ และมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจ​ไทย​ ซึ่งการทำงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นการให้โอกาสจากผู้ใหญ่พรรคภูมิใจไทย​ ขับเคลื่อนประเด็นที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาลเป็นหลัก​ 

 

คารมยังกล่าวต่อว่า แม้จะไม่ใช่ สส. ที่พูดประเด็นการเมืองซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ได้ แต่หากเป็นประเด็นทางกฎหมายและเกี่ยวข้องกับกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยทั้ง​ 4 กระทรวง​ โฆษกฯ ​ก็จะให้โอกาสตนในการชี้แจง

 

คารม​ยังเน้นย้ำว่า ตนไม่ใช่งูเห่า​ เนื่องจากที่ไหนที่เราไม่สามารถทำงานให้ประชาชนได้​ เราจะไปอยู่ที่ใหม่​ แม้แต่เป็นการทำงานทางการเมือง​ จริงๆ แล้วตนก็อยู่ไม่กี่พรรคแม้แต่การจะย้ายมาสังกัดภูมิใจไทยก็ต้องรอหลังยุบสภาก่อน​ ตนจึงขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน แต่วันนี้เรามีความใจเด็ด มีความเป็นผู้ใหญ่ สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์พูดได้ก็จะพูด แต่ไม่เคยทิ้งอุดมการณ์เพื่อบ้านเมือง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วมคณะกรรมการกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ​ที่ ภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน​ คารม​กล่าวว่า การทำแบบนี้พรรคก้าวไกลอาจคิดว่าจะไม่ได้รัฐธรรมนูญตามที่คิดไว้​ ซึ่งการออกแบบจะไม่เหมือนกัน​ 

 

“เข้าใจวิธีคิดของพรรคก้าวไกลดี เขาคิดว่าอยากทำอะไรที่ได้ดั่งใจเขา​ เป็นไปไม่ได้หรอก​ สังคมที่มีคนหลายกลุ่มต้องรวมกัน​ การเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่จะทำกัน กับ​ที่เขาอยากจะให้เลือกตั้งมาแต่ละจังหวัด​เป็นไปไม่ได้​ เพราะพรรคการเมืองมีหลายพรรค​ ประชาชนก็มีหลายกลุ่ม​” คารมกล่าว

 

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร​ ออกจากพรรคนั้น คารมมองว่า เป็นการตีความรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์​ แต่พอคนอื่นทำก็ว่าใช้กฎหมายเพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์​ นี่จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชัด​ และจะลุกลามไป​ ตนอยากบอกว่า ครั้งที่ตนโหวตสวนมติพรรคก้าวไกล​ เรื่องมาตรา 112​ พรรคยังไม่มีมติขับออกจากพรรค​ ซึ่งขัดมติและหลักการของพรรค​ แต่ปดิพัทธ์​เป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากแต่ไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐบาล​ และมี สส. ไปเป็นรองประธาน​รัฐสภา​จึงไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้​ โดยใช้วิธีการเลี่ยงเช่นนี้​ เป็นการเดินทับรอยที่กล่าวหาและว่าคนอื่นไว้​ จึงมองว่าพรรคก้าวไกลทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง​ การเมืองต้องรวมกัน ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้​ 

 

ส่วนการที่พรรคฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมในการร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ จะทำให้เกิดการสะดุดหรือไม่นั้น​ คารม​มองว่า​ คงไม่สะดุด​ เพียงแต่ไม่สมบูรณ์​ในทุกมิติ​ การที่ฝ่ายค้านไม่ร่วมก็จะดูเหมือนทุกคนไม่เห็นพ้อง​ อาจจะเกิดความไม่ลงตัว หรือเกิดความขัดแย้ง​ในเชิงความคิดว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ​จะไปในรูปแบบไหน​ 

 

เมื่อถามว่า หากนำเข้าสู่การพิจารณาในสภา รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่นั้น​ คารม​กล่าวว่า​ เราเป็นเสียงข้างมากอยู่แล้ว​ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเขียนไว้อยู่แล้วตามมาตรา​ 256 ตนคิดว่ารัฐบาลชุดนี้มีการเดินทางการเมืองที่ดี​ ในสภาก็มีเสียงข้างมาก ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหา​ ซึ่งการที่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วมแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ต่างกัน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising