เพลงป๊อปเกาหลีหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า K-Pop มีอิทธิพลแผ่ขยายไกลกว่าชาร์ตเพลงไปจนถึงวอลล์สตรีท
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ K-Pop ทั่วโลกกระตุ้นให้หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้พุ่งขึ้นสูงถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.87 แสนล้านบาท ทำให้ K-Pop กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีพลวัตและประสบความสำเร็จมากที่สุดของเกาหลีใต้ในตลาดตราสารทุน
ในเกาหลีใต้บริษัท K-Pop ที่ใหญ่ที่สุด 4 แห่ง ได้แก่ HYBE Co., SM Entertainment Co., YG Entertainment Inc. และ JYP Entertainment Corp. ได้เห็นราคาหุ้นของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% ในปีนี้เพียงปีเดียว ในขณะที่ดัชนี KOSPI ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ (เช่นเดียวกับ S&P 500 ในสหรัฐอเมริกา) เติบโตขึ้นเพียงครึ่งหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กระแส K-Pop แรงไม่แผ่ว! ดันชาวยุโรปแห่เรียน ‘ภาษาเกาหลี’ มากขึ้น ด้านสถาบันการศึกษาเร่งเปิดหลักสูตรรองรับความต้องการตลาด
- NewJeans ขึ้นแท่นศิลปิน K-Pop ที่มียอดสตรีมมิงใน Spotify ถึง 1 พันล้านครั้งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
- Lisa BLACKPINK ขึ้นแท่นศิลปิน K-Pop ที่ครองสถิติ Guinness World Record มากที่สุดในโลก
บริษัท K-Pop ทั้ง 4 นี้ไม่เพียงแต่แซงหน้าตลาดในประเทศเท่านั้น พวกเขายังเอาชนะค่ายเพลงระดับนานาชาติรายใหญ่อย่างบริษัท Universal Music Group N.V. และ Warner Music Group Corp. ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นผู้ทรงอำนาจในอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก อีกด้วย
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้ถูกมองข้าม โดยนักลงทุนต่างชาติและกองทุนระดับโลกมองเห็นศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนสูง และกำลังลงทุนอย่างมากในหุ้นเหล่านี้
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้หุ้น K-Pop พุ่งสูงขึ้นคือ ความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นของวงป๊อปเกาหลีใต้อย่าง BTS และ BLACKPINK ชื่อเสียงและอิทธิพลระดับโลกของพวกเขาได้จุดประกายความสนใจของนักลงทุนในตราสารทุน ซึ่งนำไปสู่การซื้อ-ขายที่เพิ่มขึ้น
เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มนี้ สถาบันการเงิน เช่น Goldman Sachs ได้เพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นเหล่านี้ ทำให้วันนี้ K-Pop ยืนเคียงข้างหุ้นที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยเป็นหนึ่งในการลงทุนที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด
เมื่อพิจารณาจากบริษัท K-Pop แต่ละแห่ง หุ้นของ YG Entertainment พุ่งขึ้นมากกว่า 100% ในปีนี้ และแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในสัปดาห์นี้ ส่วน JYP Entertainment เพิ่มขึ้น 88% ในขณะที่ SM Entertainment มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 33%
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีอีกมากมายสำหรับวงการ K-Pop ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะ Netflix บริษัทสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ระดับโลก ประกาศว่าจะลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์กับคอนเทนต์เกาหลีในช่วง 4 ปีข้างหน้า
การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่นำเนื้อหาภาษาเกาหลีไปสู่ผู้ชมทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมที่สำคัญอีกด้วย หลังจากการประกาศนี้ โบรกเกอร์ท้องถิ่นหลายแห่งได้อัปเกรดคำแนะนำของพวกเขาสำหรับ HYBE, YG Entertainment และ SM Entertainment หลังจากที่บริษัทเหล่านี้รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม การเดินเรือไม่ได้ราบรื่นทั้งหมด ท่ามกลางความตื่นเต้นของวงการ K-Pop สัญญาณความเครียดบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ทั้ง HYBE และ SM Entertainment ต่างประสบกับการสูญเสีย หลังจากมีการประกาศว่าสมาชิกหนึ่งในวงดนตรียอดนิยมของพวกเขาพยายามที่จะยุติสัญญาพิเศษ
นอกจากนี้การประเมินมูลค่าของบริษัท K-Pop ก็แพงขึ้น เช่น อัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้าของ HYBE ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักที่ใช้ตัดสินว่าหุ้นมีราคาสูงหรือต่ำเกินไป เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม
แม้จะมีอุปสรรคเหล่านี้ แต่แฟนตัวยงและนักลงทุนยังคงมีความหวัง พวกเขาเฝ้ารอการกลับมาของคอนเสิร์ตสดอย่างใจจดใจจ่อ และเปิดกว้างมากขึ้นต่อความบันเทิงจากต่างประเทศในตลาด อาทิ จีน ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรม K-Pop และกระตุ้นหุ้นเหล่านี้ต่อไป
นักวิเคราะห์จาก Sanford C. Bernstein Limited ให้เหตุผลเพิ่มเติมในแง่ดี โดยพวกเขาคาดการณ์ว่า K-Pop จะรักษาวิถีการเติบโตที่มั่นคงด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่ 12% ในช่วงปี 2022-2028
การเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนจากสถานะที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมในตลาดโลก และกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่มีประสิทธิภาพของ K-Pop ซึ่งหากการเติบโตนี้เป็นจริงตามที่คาดไว้ จะให้ผลตอบแทนระยะยาวที่สำคัญสำหรับนักลงทุน และนำไปสู่การครอบงำโลกของ K-Pop
ภาพ: Emma McIntyre / Getty Images for Coachella
อ้างอิง: