×

K-CHANGE กองทุนที่เปลี่ยนการลงทุนเป็นการลงมือ ‘สร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลกอย่างยั่งยืน’ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
08.05.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • KBank Private Banking คัดเลือกกองทุน K-CHANGE ซึ่งเป็นกองทุนรูปแบบคำนึงผลกระทบ (Impact Investing) ครั้งแรกในประเทศไทย มีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP)
  • กองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคม และช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ การศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคม
  • Impact Investing หรือการลงทุนเน้นผลลัพธ์ทางสังคม เฉพาะเจาะจงในองค์กรที่มุ่งแก้ปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และต้องเป็นการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกพร้อมสร้างผลกำไรควบคู่กัน

เราสามารถทำกำไรสูงสุดพร้อมกับรับผิดชอบต่อสังคมได้หรือไม่? นี่ไม่ใช่คำถามที่ชี้ชวนให้คุณคิด แต่มันถูกทำให้เป็นจริงมาสักระยะแล้วในวงการธุรกิจของยุโรป การดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างผลกำไรควบคู่ไปด้วย อาทิ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla หรือการปล่อยสินเชื่อขนาดเล็กให้กับผู้ด้อยโอกาสของ Bank Rakyat ธนาคารขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ประกอบกับพฤติกรรมการใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมสามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานได้สูงและยั่งยืนกว่าธุรกิจที่เมินเฉยสิ่งเหล่านี้

 

KBank Private Banking จึงแนะนำกองทุนใหม่ให้กับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคาร ‘กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน’ (K-CHANGE) มีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ การศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคม หวังปลุกกระแสเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืนด้วยการลงทุน

 

 

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Managing Director – Private Banking Business Head, Private Bangking Group ธนาคารกสิกรไทย บอกกับ THE STANDARD ว่า K-CHANGE จะเป็นอีกก้าวสำคัญของนักลงทุนที่เห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในบริษัทที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน “วันนี้นอกจากคุณเป็นคนดีแล้ว คุณยังทำดีเพิ่มขึ้นหรือเปล่า คุณเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า” เพื่อให้เห็นภาพการลงทุนที่ส่งผลกระทบเชิงบวกได้ชัดเจนขึ้น คงต้องมองย้อนกลับไปที่แนวคิดของ KBank Private Banking ในการคัดเลือกกองทุน K-CHANGE

 

K-CHANGE กองทุนที่จะเปลี่ยนการลงทุนเท่ากับการลงมือทำ ด้วยกองทุนประเภท Impact Investing

“กองทุนประเภท Impact Investing มันถูกพัฒนามานานแล้ว ทางฝั่งยุโรปประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ฝั่งบ้านเราจะได้ยิน ESG (Environmental, Social and Governance) ก็เป็นส่วนหนึ่งของ SRI (Socially Responsible Investment) สมัยก่อนมันวัดผลด้วยการทำ Scoring ว่าบริษัทไหนดีไม่ดี เราก็เลือกลงทุนกับบริษัทนั้นๆ ตาม Scoring ถ้าไปดูรายชื่อบริษัทที่ดีตาม Scoring ก็จะเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่เขามีเงินไปทำ CSR หรือ Governance มันก็เป็นอีกแบบหนึ่งของการลงทุน

 

“ในขณะที่กองทุนประเภท Impact Investing มันเปลี่ยนมุมมองใหม่ หนีจากการ Scoring ไปโฟกัสว่าเราจะทำอะไรให้มันดีขึ้นได้อย่างไร คอนเซปต์มันต่างเลยนะ อย่างหนึ่งคือ Passive คุณเป็นอย่างไร ผมลงไม่ลง กับอีกแบบหนึ่งคือ ผมกำลัง take action ให้มันดีขึ้น วันนี้เราเองก็เห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในบ้านเรา เช่น วันพุธเลิกใช้ถุงพลาสติก บางร้านไม่เสิร์ฟหลอด บ้านเราเพิ่งเริ่ม แต่ในต่างประเทศเริ่มมานานแล้ว

 

 

“KBank Private Banking มาเจอ Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) ตั้งแต่สมัยตั้งกองใหม่ปี 2017 ซึ่งจะต่างกับ Impact Investing ทั่วโลกโดยสิ้นเชิงในแง่ที่ว่า กองนี้เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ การศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคม ปกติ Impact Investing กองอื่นจะไปลงในบริษัทที่ช่วยเหลือสังคมแนวทำบุญ จิตอาสา เช่น ช่วยเด็กยากจนให้มีน้ำดื่มในแอฟริกา แต่ก็จะต้องทำผลกำไรด้วย ในขณะที่กอง Baillie Gifford ไปลงทุนในบริษัทที่อยู่ในตลาดอยู่แล้ว”

 

Impact Investing การลงทุนที่เน้นผลกระทบเชิงบวก ให้ทั้งกำไรและโลกใบใหม่ที่น่าอยู่กว่าเดิม

 

“เราเข้าไปศึกษาบริษัทเหล่านั้นให้ชัดเจนว่าเขาทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นอย่างไร เท่าไร โดยการวัดออกมาให้เป็นผล โปรดักต์ของเขาทำให้โลกดีขึ้นหรือไม่ สองคือเขามีแนวทางในการทำธุรกิจเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้นใช่ไหม และสามคือระบบบริหารของเขาเป็นสิ่งที่เอื้อทำให้โลกนี้ดีขึ้นใช่ไหม

“ยกตัวอย่าง Tesla บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แน่นอนว่าโปรดักต์ของเขาช่วยโลก ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ทำให้เกิด PM2.5 และยังใช้พลังงานสะอาด (Clean Energy) ความตั้งใจชัดเจน เป็นบริษัทที่เปิดวิธีการทำงานของแบตเตอรี่ให้ทุกคนดู ใครอยากก็อบก็ได้ เพราะเขาอยากให้โลกนี้มันดีขึ้น สุดท้ายมันทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นไหมอีก 3-5 ปี ข้างหน้า คำตอบคือใช่ นี่คือสิ่งที่ Baillie Gifford มองหา

 

“Illumina ผู้ผลิตอุปกรณ์ถอดรหัสพันธุกรรม หรือ DNA รายใหญ่ เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว การตรวจยีน 1 ครั้งค่าใช้จ่ายสามหมื่นล้านบาทต่อคน วันนี้การตรวจยีน 1 ครั้งในอเมริกา ค่าใช้จ่ายประมาณสามหมื่นบาทต่อคน ค่าใช้จ่ายถูกลง คำถามคือ เราจะใช้อะไรได้บ้าง เด็กที่ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่งมี Subtype หลายแบบ การให้ยาที่ไม่ตรงกับชนิดของโรคมันไม่ตอบสนอง ทำไมจะต้องให้คนไข้เป็นหนูทดลอง อีกหน่อยเราจะไปสู่โลกของการใช้ Personalized medicine ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นี่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก อีก 5-10 ปีทุกโรงพยาบาลควรจะมีเครื่องตรวจยีน บริษัทลักษณะนี้กำลังเปลี่ยนทุกอย่างไปในเชิงบวก



“บริษัท Chr. Hansen กำลังพัฒนาให้ Probiotic แข็งแกร่งขึ้น ดีขึ้น สามารถยืดระยะเวลาอาหารได้ยาวขึ้น อาหารเหลือทิ้งในโลกก็จะลดลง นอกจากนั้นยังทำเรื่องสีผสมอาหารที่มาจากธรรมชาติ และยังทำวิจัยเรื่องการใช้แบคทีเรียช่วยให้รากไม้แข็งแกร่งขึ้น ปรัชญาของบริษัทเหล่านี้คือ สุดท้ายแล้วเขาจะเป็นคนที่ทำอาหารให้โลกโดยการใช้แหล่งผลิตจากธรรมชาติ

 

“หรืออย่าง Bank Rakyat เป็นธนาคารขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ทุกวันนี้เขาใช้แอปฯ ในการทำธุรกรรมทั้งหมดผ่านมือถือ สามารถปล่อยกู้ผ่านมือถือ สิ่งเหล่านี้คือการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้เข้าถึงระบบทางการเงิน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้

 

 

“ยังมีอีกหลายบริษัทที่มีปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนที่อยู่ในกอง Baillie Gifford ถ้าใครลงทุนในตลาดบ้านเราจะมีกองที่ Baillie Gifford บริหารอีกกอง Ultimate Global Growth หรือ UGG เพอร์ฟอร์มดีมาก กอง UGG เป็นกองที่ Baillie Gifford บอกว่าสิ่งที่หาคือรีเทิร์นสูงสุด ในขณะที่กอง Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) ก็มุ่งหารีเทิร์นไปพร้อมๆ กับการมีส่วนร่วมทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกกับสังคมและโลก สิ่งที่ Baillie Gifford ทำคือ ทุกอย่างการมุ่งเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของ UN Sustainable Development Goals องค์การสหประชาชาติ ซึ่งมุ่งเน้นพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 17 ด้าน

 

“ปีเตอร์ ดรักเกอร์ นักคิดที่บุกเบิกแนวคิดด้านการบริหารจัดการขององค์กรธุรกิจสมัยใหม่เคยกล่าวไว้ว่า “อะไรที่คุณไม่สามารถที่จะวัดได้ คุณก็ไม่สามารถพิสูจน์มันได้หรือจัดการมันได้” แต่วันนี้สิ่งที่ Impact Investing ทำคือ การวัดให้ชัดเจนว่านอกจากเป้าของกำไรที่เห็นชัดเจนว่าจะได้กลับมาเท่าไร ยังมีเป้าหมายที่จะทำให้โลกดีขึ้น และคุณต้องวัดผลของมันได้ว่ามันดีขึ้นจริงไหม ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่าไร ทำให้เด็กเข้าถึงการศึกษาได้เท่าไร ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมเป็นอย่างไร”

 

วิสัยทัศน์ของ K-CHANGE ในวันนี้เล็งเห็นว่า บริษัทที่อยู่ในกองทุน Baillie Gifford ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่มีปรัชญาชัดเจน ไม่ได้ทำไปเพื่อประชาสัมพันธ์ แต่เราทำไปเพราะเราคิดว่าสุดท้ายแล้วมันเป็น Long Term Trend ที่เราเห็นอยู่ นี่เป็นเทรนด์ใหญ่ของโลกที่ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง อย่างแรกคือ Aging Society, Chinese Consumer, Sustainability และ Impact Investment & ESG Development ประเทศไทยเองก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราทุกคนต้องเริ่มจากตัวเองก่อน เป็นพาร์ตหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง

 

 

K-CHANGE พอร์ตที่จะสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งระยะยาวให้กับกลุ่มลูกค้า HN


“จริงๆ แล้วกอง K-CHANGE เป็นกองเปิดให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม เพราะเราต้องการเกาะกระแส Mage Trend เรามองไปถึงประโยชน์ที่คนรุ่นหลังจะได้รับ ในระยะยาวมันทำเพื่อคนรุ่นหลัง KBank Private Banking มุ่งเน้น 3 เรื่องคือ เก็บรักษาสินทรัพย์และความมั่นคงให้คงอยู่ สร้างการเติบโตให้กับสินทรัพย์ และส่งต่อความมั่งคั่งสู่ทายาทผู้มีความพร้อม กอง K-CHANGE คือพาร์ตของการส่งต่อ วันนี้ KBank Private Banking คือการลงทุนเพื่อให้ได้ผลกำไร และเราใส่วัตถุประสงค์ที่มีค่าเท่ากันคือ ทั้งผลกำไรและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ลูกค้ากลุ่ม HN ก็น่าจะเห็นว่านี่เป็นเทรนด์ที่ชัด และถ้าไปดูเพอร์ฟอร์แมนซ์ของกอง Baillie Gifford ไม่น้อยหน้าใครเลย”

 

“เชื่อว่าจะมีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่สนใจเพราะเพอร์ฟอร์แมนซ์ดี ถ้าเทียบกับ UGG ซึ่งอยู่ในตลาด 25% Overlap กัน ในขณะที่นักลงทุนอีกส่วนที่เลือกลงทุนเข้าใจวัตถุประสงค์ของกองนี้ แน่นอนว่าเพอร์ฟอร์แมนซ์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนหันมามองว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ในทางกลับกัน คนที่มาลงทุนที่เน้นผลลัพธ์ทางสังคม สุดท้ายมันเป็นคุณค่าที่สำคัญมาก วันนี้บริษัทที่ไม่บริหารอย่างพอเพียง สุดท้ายบริษัทพวกนี้ก็จะเจ็บตัวในระยะยาว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม K-CHANGE เน้นสองเรื่องคือ หาบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และบริษัทที่สร้างผลกำไร เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน Mage Trend เพราะมองว่ามันดีต่อสังคม ผลกำไรก็ดี

 

“KBank Private Banking เราทำ 3 พอร์ตคือ การบริหารจัดการสภาพคล่อง คนส่วนใหญ่ก็จะอยู่ช่วงนี้ เพราะยังไม่มีเงินเก็บเพียงพอที่จะทำพอร์ตสอง แต่ HN กลุ่มลูกค้าของกสิกร เขามีเกินพอร์ตแรกมาเยอะแล้ว เขาจะอยู่ที่พอร์ตสองที่เรามองว่าจะให้เขาอยู่ในกลุ่มรีเทิร์น ชนะฝาก ชนะเฟ้อ ผมก็จะไม่แนะนำให้อยู่ในพอร์ตสอง ควรจะอยู่ในพอร์ต 3 เหมือนกับเก็บรถ เก็บนาฬิกา เก็บที่ดิน จริงๆ แล้วพวกนี้เป็น Long Term เป็นแพสชัน และมันจะได้ผลกำไรในระยะยาว เก็บข้ามช็อตได้ คิดถึงลูกถึงหลานที่เราจะลงทุนเพื่อเขา”

 

กองทุน K-CHANGE เหมาะกับใคร


“ผู้ที่เห็นความสำคัญของปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม และต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น รวมทั้งเห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) อีกทั้งสนใจลงทุนกับบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลบวกต่อสังคม สนใจลงทุนในหุ้นต่างประเทศ รับความเสี่ยงได้สูง ที่มีความอดทนต่อการลงทุนเพียงพอ ควรจะถือกองนี้เป็นพอร์ตลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป ให้มองข้ามช็อตไปว่านี่คือ Mage Trend ที่ไม่ถอยหลังแล้ว เชื่อในการเลือกหุ้นของ Baillie Gifford ว่าเขามองขาดจริงๆ

 

“ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา การลงทุนก็เช่นกัน แต่ถ้าคุณไม่เริ่มวันนี้ การเปลี่ยนแปลงก็ไม่เกิด ผมว่านักลงทุนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบนี้จะเข้าใจว่า วันนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยน ความยั่งยืนสุดท้ายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ กล่าวทิ้งท้าย นี่เป็นปณิธานที่ KBank Private Banking มุ่งมั่นมาตลอดที่จะตอบโจทย์ความต้องการที่พิเศษของลูกค้า ไม่เพียงแต่ความมั่งคั่งด้านการเงินเท่านั้น ยังมุ่งสร้างความยั่งยืนกับธุรกิจและความสุขที่มั่นคงจากรุ่นสู่รุ่น และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ กองทุน K-CHANGE มุ่งหวังที่จะให้คุณเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลกผ่านการลงทุน

 

* สำหรับผู้ที่สนใจกองทุน K-CHANGE สามารถเริ่มลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอปฯ K-My Funds หรือธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

 

 

นำเสนอแนวคิดของ KBank Private Banking ในการคัดเลือกกองทุน K-CHANGE ซึ่งเป็นกองทุนรูปแบบคำนึงผลกระทบ (Impact Investing) ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ การศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคม  ทั้งนี้ กองทุน K-CHANGE มุ่งหวังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน (Positive Change and Positive Impact)

 

ภาพประกอบ: Dreamminem

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising