×

ไบเดน แสดงจุดยืนต่อประเด็นการลอบสังหารคาช็อกกี ขณะพบมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียครั้งแรก

16.07.2022
  • LOADING...
ไบเดน

วานนี้ (15 กรกฎาคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนพระราชวังอัลซัลมาน ในเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าพบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยผู้นำสหรัฐฯ เผย ได้แสดงจุดยืนต่อประเด็นการลอบสังหาร จามาล คาช็อกกี ในการพบเจอกันครั้งแรกในฐานะผู้นำประเทศ

 

โดยประเด็นของคาช็อกกี นักข่าวสายวิพากษ์ราชวงศ์ชาวซาอุ ที่ถูกลอบสังหารในสถานกงสุลซาอุในเมืองอิสตันบูล ตุรกี เมื่อปี 2018 เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียตกต่ำลง เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่าการลอบสังหารในครั้งนี้อาจเกี่ยวโยงกับเจ้าชายบิน ซัลมาน

 

ตั้งแต่ที่มีข่าวว่าผู้นำสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ก็เริ่มปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์และทวงถามความยุติธรรมในกรณีของการลอบสังหารคาช็อกกีไม่น้อย สิ่งนี้ผลักดันให้ไบเดนจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงจุดยืนของตนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น โดยตนย้ำชัดว่าเหตุการณ์ลอบสังหารคาช็อกกีเมื่อปี 2018 มีความสำคัญต่อตนเองและสหรัฐฯ อย่างมาก 

 

“ผมได้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกันชน การเพิกเฉยต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนถือเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเราเป็นและสิ่งที่ผมเป็น ผมยืนหยัดเพื่อคุณค่าที่เรายึดถือเหล่านี้มาโดยตลอด”

 

โดยไบเดนอ้างว่า มกุฎราชกุมารระบุว่า ตนไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตดังกล่าว และยังคงปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารในครั้งนั้นแต่อย่างใด ซึ่งภาพที่ทั้งคู่พบกันได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะจาก ฮาติช เซนกิซ คู่หมั้นของคาช็อกกีที่เธอได้ทวีตภาพดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “นี่หรือคือความรับผิดชอบที่คุณให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้กับเขา เลือดของเหยื่อรายต่อไปอยู่ในมือคุณแล้ว”

 

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ ตัดสินใจเดินทางเยือนตะวันออกกลางและหันมาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศพี่ใหญ่ในย่านนี้อย่างซาอุดีอาระเบีย เป็นผลพวงมาจากไฟของสงคราม อีกทั้งการทำให้ซาอุดีอาระเบียยินยอมเพิ่มปริมาณน้ำมันในตลาดโลก จะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกเป็นจำนวนมาก

 

ภาพ: Royal Court of Saudi Arabia / Handout / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising