ไบเดนเดินทางถึงกรุงเบลฟาสต์ ประกาศหนุนสันติภาพในไอร์แลนด์เหนือ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงไอร์แลนด์เหนือแล้วเมื่อช่วงคืนวานนี้ (11 เมษายน) ก่อนที่จะเปิดฉากทริปเยือนไอร์แลนด์เหนือและสาธารณรัฐไอร์แลนด์เป็นเวลา 4 วัน เพื่อตอกย้ำถึงการสนับสนุนสันติภาพในดินแดนแห่งนี้ โดยไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีเชื้อสายไอริชด้วย

ค่ำคืนวานนี้ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เดินทางไปต้อนรับไบเดนที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบลฟาสต์ โดยไบเดนจะใช้เวลาอยู่ในไอร์แลนด์เหนือประมาณครึ่งวัน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังไอร์แลนด์อีก 3 วัน เพื่อเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอร์แลนด์

สำหรับในวันนี้ (12 เมษายน) ไบเดนและซูนัคจะร่วมประชุมกันในช่วงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น รวมถึงจะเข้าพบปะกับผู้นำของพรรคการเมืองหลัก 5 พรรคของไอร์แลนด์เหนือ ก่อนที่จะเปิดการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยอัลสเตอร์ ในกรุงเบลฟาสต์ และหลังจากนั้นไบเดนจะเดินทางต่อไปยังไอร์แลนด์ ซึ่งจะมีการเยี่ยมชมบ้านเกิดของบรรพบุรุษเขาด้วย โดยปู่ทวดของไบเดนเกิดในเขตปกครองมาโย ก่อนที่จะย้ายไปตั้งรกรากในสหรัฐฯ ทำให้ไบเดนมีญาติห่างๆ อยู่ในดินแดนแห่งนี้

ในช่วงก่อนที่ไบเดนจะขึ้นเครื่องบิน Air Force One มายังไอร์แลนด์นั้น ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาต้องการที่จะปกป้องข้อตกลงสันติภาพ Good Friday Agreement ที่จะมีอายุครบ 25 ปีในสัปดาห์นี้ โดยในอดีตไอร์แลนด์เหนือเคยมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกลุ่มที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร กับอีกกลุ่มที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของไอร์แลนด์ จนเกิดเป็นสงครามกลางเมือง ก่อนที่จะยุติลงได้ด้วยการจัดทำข้อตกลงดังกล่าวเมื่อปี 1998

ขณะเดียวกันไบเดนกล่าวว่า เขาต้องการที่จะแสดงการสนับสนุนข้อตกลงหลัง Brexit ของซูนัคในภูมิภาคนี้ หรือ Windsor Framework ซึ่งเป็นกรอบแผนงานที่สหภาพยุโรปและอังกฤษได้บรรลุร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาททางการค้าหลัง Brexit ในไอร์แลนด์เหนือ

อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนของไบเดนในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเปราะบาง เนื่องจากไอร์แลนด์เหนือกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยพรรคเดโมแครต ยูเนียนนิสต์ ปาร์ตี้ (DUP) ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในรัฐบาลผสมของไอร์แลนด์เหนือ เพราะไม่พอใจเรื่องการทำข้อตกลงการค้าหลัง Brexit โดยทางพรรคกล่าวว่า การเยือนของไบเดนไม่สามารถหยุดยั้งการเดินหน้าประท้วงเรื่องข้อตกลงดังกล่าวได้ ทำให้หลายฝ่ายจับตาท่าทีของไบเดน ซึ่งจะต้องดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางบวกกับทุกฝ่าย

ภาพ: Jim Watson / AFP

อ้างอิง: