×

จิรัฏฐ์ตั้งกระทู้ถาม 3 ประเด็นกองทัพ น้ำมันหาย-เรือดำน้ำ-กู้เรือหลวงสุโขทัย สุทินตอบครบไม่มีปล่อยปละละเลย ตรวจสอบทุกกระบวนการมิชอบ

โดย THE STANDARD TEAM
28.09.2023
  • LOADING...

วันนี้ (28 กันยายน) ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้สดด้วยวาจาถาม สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ

 

ในประเด็นแรก จิรัฏฐ์ได้ถามถึงกรณีน้ำมันและกระสุนหายไปจากมณฑลทหารบกที่ 18 (มทบ.18) จังหวัดสระบุรี โดยระบุว่า ปัญหาของหายจากกองทัพไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อข้อมูลหลุดออกมาครั้งหนึ่งก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ที่ทำให้ตนกังวลคือ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนออกมาหลังจากนั้นเลย

 

เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าการที่น้ำมันหายไปกว่า 2 แสนลิตร ไม่ใช่การหายไปเฉยๆ แน่นอนอยู่แล้ว ต้องมีผู้ที่รับผิดชอบ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นระดับผู้บังคับบัญชาเท่านั้นที่สามารถทำให้หายได้จำนวนมากขนาดนี้ แต่ตนก็ต้องผิดหวังกับคำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ออกมาเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่า ต้องชื่นชมที่กองทัพกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ 

 

จิรัฏฐ์กล่าวต่อไปว่า ที่ตนไม่สบายใจเพราะไม่มีการปราม น้ำมันหายไปตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2565 เพิ่งจะตั้งกรรมการเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 เท่ากับว่า 8 เดือนเพิ่งจะรู้ว่าน้ำมันหายไป 2 แสนลิตร เอกสารบอกจะส่งผลการตรวจสอบให้ ผบ.ทบ. ในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ผ่านไปอีก 4 เดือนมาจนถึงวันนี้ รัฐมนตรียังบอกว่าสอบสวนไม่ทราบความคืบหน้าอีกอย่างนั้นหรือ และยังบอกว่าเขาทำดีอยู่แล้ว 

 

“รัฐมนตรีต้องทำได้มากกว่าแค่การออกมาปกป้องกองทัพ สามารถกำหนดมาตรการได้ว่าต้องเสร็จภายในกี่วัน จึงขอถามว่าในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านคิดจะทำอะไรนอกจากการชื่นชมบ้าง และมีมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างไร” จิรัฏฐ์กล่าว

 

ขณะที่สุทินได้ลุกขึ้นตอบกระทู้ โดยระบุว่า ในคำให้สัมภาษณ์ของตนที่ว่าเป็นการตรวจสอบภายในที่กองทัพทำดีอยู่แล้วก็จริง แต่ตนก็ย้ำว่า สุดท้ายก็ต้องดูต่อไป ถ้าไม่ลงโทษกันหรือจบแค่นี้ก็มาว่ากัน ซึ่งหมายความว่าเราก็ต้องลงโทษเอง ไม่ได้ปล่อยปละละเลย กรณีที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการตรวจสอบของกองทัพที่ทำเป็นปกติ เป็นขั้นตอนจากการตรวจสอบภายใน ตรวจแล้วใช้ชุดจเรทหารลงไปตรวจอีก เมื่อตรวจแล้วก็ได้ผลอย่างที่ทราบว่ามีความสูญหายไป 2 แสนกว่าลิตร

 

สุทินยังกล่าวต่อไปว่า การตรวจสอบนี้ถือว่าไม่ล่าช้าแล้วเมื่อเทียบกับการตรวจสอบที่หลายหน่วยงานรัฐเคยดำเนินการมา และจะเห็นการลงโทษภายในไม่นานนี้แน่นอน ขอให้ติดตามต่อไปว่าเมื่อตรวจสอบถึงขั้นนั้นแล้ว ตนจะปกป้องหรือลงโทษผู้กระทำผิดหรือไม่ 

 

ต่อมาจิรัฏฐ์ได้ถามถึงความคืบหน้าในการเจรจาจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ซึ่งเกิดปัญหาเครื่องยนต์จีนไม่เป็นไปตามสัญญา โดยระบุว่า เรื่องนี้ตนเฝ้ารอคำตอบมาตั้งแต่ที่รัฐมนตรีได้ดำรงตำแหน่งแล้ว ท่านยืนยันว่ามีคำตอบในใจแล้วว่าจะเอาอย่างไร เมื่อไม่นานนี้นายกรัฐมนตรีก็พูดในสภาอีกว่า จะไปเจรจากับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แต่ก็ไม่ทราบว่าได้รับคำตอบมาอย่างไรบ้าง 

 

นี่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ผบ.ทร. ก็เพิ่งลงนามอนุมัติเครื่องยนต์จีนก่อนเกษียณแค่ไม่กี่สัปดาห์ ประชาชนอยากได้คำตอบเพราะประเทศไทยกำลังจะได้เรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นลำแรกของโลก และที่นายกรัฐมนตรีจะไปเจรจากับจีน จะไปเจรจาว่าอย่างไร จะยกเลิกสัญญาขอค่าชดเชย หรือไปเจรจาแล้วยังได้เครื่องยนต์จีนอยู่เหมือนเดิม เรื่องของเครื่องยนต์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผิดพลาดอาจมีคนตายได้

 

จิรัฏฐ์อภิปรายต่อไปว่า นอกจากนี้ ข้อตกลงนี้ไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีที่สุดเพราะไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรเลย ระบบสื่อสารก็เป็นคนละระบบกับระบบนาโต้ที่ประเทศไทยใช้อยู่ ความลึกอ่าวไทยเฉลี่ย 45 เมตร เรือของจีนมีระดับความลึกที่ปลอดภัยถึง 60 เมตร ยังมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้มาก เช่น เรือดำน้ำที่อินโดนีเซียซื้อจากเกาหลีใต้ มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกิดขึ้น ย้อนไปเมื่อเกาหลีใต้ซื้อเรือดำน้ำจากฝรั่งเศส ก็ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส ในอนาคตอินโดนีเซียก็อาจจะผลิตเรือดำน้ำของตัวเองได้จากการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี 

 

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ควรจะทำคือการทวงเงินคืน ในเมื่อเป็นการผิดสัญญาก็ยกเลิกได้ นำเงินที่จ่ายไปแล้วกลับมาซื้ออย่างอื่นหรือทำอย่างอื่น กรณีนี้จีนผิดสัญญาเต็มๆ คำถามคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีแนวทางอย่างไรกันแน่ และผลของการเจรจากับเยอรมนีของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร

 

สุทินคำถามดังกล่าวว่า กรณีนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอน เริ่มต้นจากคนที่อยากใช้และคนจัดซื้อจัดจ้าง เบื้องต้นเรื่องอยู่ที่กองทัพเรือ เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรก็จะเสนอมาที่กระทรวงกลาโหม ถ้าเห็นชอบหรือไม่อย่างไรก็จะไปจบที่คณะรัฐมนตรี แต่จากข่าวคราวทั้งหมดทุกอย่างยังคงเป็นขั้นตอนแรกที่กองทัพเรือเท่านั้น ยังมาไม่ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเรื่องนี้มาถึงตนก็จะตัดสินใจอีกครั้งแน่นอน

 

ทั้งนี้ ตนได้ทราบล่าสุดว่า ทางกองทัพเรือมีข้อสรุปแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ จะรายงานมาที่ตนอีกครั้ง ซึ่งตนก็รออยู่ ยังมาไม่ถึง จะไปด่วนสรุปว่าจะยกเลิกหรือเดินหน้าต่อก็คงไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องมาถึงเมื่อไรจะรีบศึกษาและตัดสินใจอีกครั้ง

 

ส่วนการเจรจาของนายกรัฐมนตรีกับนายกเยอรมนีเป็นเพียงมาตรการเสริม หากเป็นภาวะปกติจะไปคุยแทนผู้ขายก็คงจะทำไม่ได้ แต่นี่คือภาวะที่ไม่ปกติ เรากำลังจะเสียประโยชน์ ดังนั้น เพื่อการปกป้องประโยชน์ของประเทศ ทางใดที่ทำได้ก็อยากจะทำ แต่ผลของการเจรจาเป็นอย่างไรนั้นตนยังไม่ได้รับทราบ

 

จิรัฏฐ์ยังได้ถามต่อไปในคำถามที่ 3 ถึงกรณีการกู้เรือหลวงสุโขทัย โดยระบุว่า จากข้อมูลที่ออกมาในขณะนี้ เชื่อได้ว่ากองทัพเรือไม่ได้อยากกู้จริงๆ เพราะตั้งเงื่อนไข TOR ที่เกินความเหมาะสมไปมาก เช่น ต้องมีประสบการณ์ 10 ปี ในการทำงานที่ความลึก 50 เมตร ทั้งโลกมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นที่ทำได้ บริษัทที่เสนอราคาเข้ามามีบริษัทหนึ่งที่เป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัทที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว แต่อยู่ดีๆ ก็เกิดการล้มการประมูลและยังไม่เปิดใหม่มาจนถึงวันนี้ โดยอ้างว่าเอกสารไม่ครบ ทั้งที่ความสำคัญคือเทคนิคกับราคา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะไม่อยากให้มีการกู้เรือเกิดขึ้นจริง และเป็นการดึงเรื่องให้เข้าหน้ามรสุมหรือไม่ จึงอยากถามว่าเรื่องนี้ทางรัฐมนตรีได้เข้าไปติดตามอย่างไรหรือไม่

 

ในส่วนของสุทินระบุว่า ทั้งเรื่องของเรือดำน้ำและเรือหลวงสุโขทัยเกิดขึ้นในรัฐบาลก่อน ตนที่เพิ่งรับตำแหน่งได้สองสัปดาห์ก็ได้พยายามสืบสาวเรื่องราวเพื่อแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เรื่องของการหาผู้กู้เป็นขั้นตอนของกองทัพเรือที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่วันนี้ตนก็ได้ให้ฝ่ายจเรลงไปสอดส่องดูแลแล้ว ถ้าเกิดความไม่ชอบมาพากลเดี๋ยวกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการเอง อยากให้ทั้งสภาและตนได้ช่วยตรวจสอบกันต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising