×

รวยขึ้นชั่วโมงละ 491 ล้านบาท! มหาเศรษฐีระดับโลก เช่น เจฟฟ์ เบโซส์ และ อีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 56 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่เกิดโควิด นำไปสู่วิกฤตความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้น

16.01.2024
  • LOADING...
มหาเศรษฐี

ตามรายงานของ Oxfam พบว่า มหาเศรษฐีระดับโลกรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเกิดโรคระบาด โดยมหาเศรษฐี 5 คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมีมูลค่าสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 8.69 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 30.5 ล้านล้านบาท

 

Oxfam วิเคราะห์รายชื่อมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์จาก Forbes ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน และเปรียบเทียบกับรายชื่อในเดือนมีนาคม 2020 พบว่ามหาเศรษฐี 5 คนที่ร่ำรวยที่สุด มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 114% ระหว่างเดือนมีนาคม 2020 ถึงพฤศจิกายน 2023 และความมั่งคั่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นจาก 4.05 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 8.69 แสนล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2020-2023 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้รับเงินเพิ่ม 14 ล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง

 

แอ็บบี้ แม็กซ์แมน ประธานและ CEO ของ Oxfam America กล่าวว่า “รายงานใหม่ของ Oxfam พบว่า การรวมตัวของทรัพย์สินมหาศาลอยู่ที่กลุ่มบุคคลส่วนน้อยที่ร่ำรวยที่สุด ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ชาย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2020”

 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า 1% ของคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมีสัดส่วนการถือครองทรัพย์สินทางการเงินทั่วโลกถึง 43% โดยในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชีย และยุโรป สัดส่วนนี้สูงขึ้น โดยกลุ่มคนร่ำรวยถือครองทรัพย์สินถึง 47% หรือมากกว่า

 

แม็กซ์แมนยังเสริมว่า “แม้ว่าสหรัฐอเมริกาเป็นที่ตั้งของประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก รวมถึง อีลอน มัสก์ และ เจฟฟ์ เบโซส์ ซึ่งชื่อของพวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยอย่างมหาศาล แต่สหรัฐอเมริกายังเป็นที่อยู่ของประชาชนหลายสิบล้านคนที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทุกวัน เนื่องจากค่าแรงที่ต่ำ ระบบภาษีที่ไม่ยุติธรรม และบริการสาธารณะที่ไม่เพียงพอ”

 

Oxfam ยังวิจารณ์ผลกระทบของความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีต่อเศรษฐกิจโลกและประชาธิปไตย โดย อมิตาภ บีฮาร์, ผู้อำนวยการบริหารชั่วคราวของ Oxfam International กล่าวว่า “ไม่ควรมีบริษัทหรือบุคคลใดมีอำนาจเหนือเศรษฐกิจและชีวิตของเรามากขนาดนี้”

 

นอกจากมหาเศรษฐีแล้ว ช่องว่างระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานก็ขยายตัวออกไปอย่างมากในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ระหว่างปี 1978-2022 ค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนพนักงานทั่วไปที่เพิ่มขึ้นเพียง 15.3% ตามรายงานของ Economic Policy Institute

 

“สหรัฐอเมริกาเผชิญกับวิกฤตความเหลื่อมล้ำอย่างลึกซึ้ง ซึ่งถูกซ้ำเติมโดยอำนาจการผูกขาดที่ขยายตัวออกไปหลายทศวรรษ และทำให้คนอเมริกันหลายสิบล้านคนถูกปล้นสิทธิและความมั่นคงของพวกเขาอย่างโหดร้าย” ผู้อำนวยการด้านนโยบายเศรษฐกิจและความยุติธรรมทางเชื้อชาติของ Oxfam อเมริกา กล่าวกับ MarketWatch

 

เฉพาะมหาเศรษฐีของสหรัฐฯ ร่ำรวยขึ้นกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 56 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้น 46% ส่วนบุคคล 3 คนที่ร่ำรวยที่สุด ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนอย่าง อีลอน มัสก์, เจฟฟ์ เบโซส์ และแลร์รี เอลลิสัน มีเพิ่มทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 84%

 

ในทางตรงกันข้ามค่าเฉลี่ยทรัพย์สินของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นเพียง 37% เป็น 192,900 ดอลลาร์ ระหว่างปี 2019-2022 ปีล่าสุดที่มีข้อมูล ข้อมูลนี้ได้มาจากการสำรวจเรื่องการเงินของผู้บริโภคของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

วุฒิสมาชิก เบอร์นี แซนเดอร์ส เสนอกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีที่เขาเรียกว่า ‘ทรัพย์สินที่มีมากเกินไป’ แซนเดอร์สเขียนในคำนำรายงานของ Oxfam เกี่ยวกับความปรารถนาของเขาที่จะจัดการกับช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างคนรวยกับชนชั้นแรงงานและคนยากจน

 

“ในสหรัฐอเมริกา มีคนสามคนที่มีทรัพย์สินมากกว่าคนครึ่งหนึ่งของสังคม ในขณะที่มากกว่า 60% ของแรงงานต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน” แซนเดอร์สกล่าว “ถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในผลผลิตของแรงงานและการระเบิดของเทคโนโลยี ค่าจ้างรายสัปดาห์จริงของคนงานอเมริกันเฉลี่ยในปัจจุบันน้อยกว่าที่เคยเป็นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว”

 

ในขณะเดียวกัน “มหาเศรษฐีกลายเป็นคนรวยขึ้น ชนชั้นแรงงานต้องดิ้นรน และคนยากจนต้องอยู่อย่างท้อแท้ นั่นคือสถานการณ์ที่น่าเศร้าของเศรษฐกิจโลก” เขากล่าวเสริม

 

“ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอำนาจขององค์กรและการผูกขาดที่เพิ่มขึ้นนั้นเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง” องค์กรกล่าวเสริม “ผลกำไรของบริษัทขนาดใหญ่กลับถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น โดยที่คนงานและประชาชนทั่วไปต้องเสียค่าใช้จ่าย”

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising