ญี่ปุ่นยัน จะไม่ใช้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถืออยู่เป็นเครื่องมือต่อรอง ภาษีนำเข้า

วันนี้ (13 เมษายน) หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรครัฐบาลกล่าวว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น เช่น ช่วยกระตุ้นความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินทำให้ค่าครองชีพของครัวเรือนสูงขึ้น

ก่อนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อิสึโนริ โอโนเดระ ประธานสภาวิจัยนโยบายของพรรคเสรีประชาธิปไตยยังกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นไม่ควรขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถือครองอยู่ ซึ่งเป็นพันธบัตรที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้ภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บ

“ในฐานะพันธมิตรของสหรัฐฯ รัฐบาลไม่ควรคิดที่จะใช้การถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ” โอโนเดระกล่าวในรายการของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ NHK โดยปฏิเสธข้อเสนอแนะของสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านที่ให้โตเกียวใช้การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จำนวนมากเป็นเครื่องมือเจรจาในการเจรจาการค้าทวิภาคี

ญี่ปุ่นต้องทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น เช่น โดยการช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าได้ผลักดันให้ค่าครองชีพของครัวเรือนสูงขึ้น หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรครัฐบาลกล่าวเมื่อวันอาทิตย์

“ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น” โอโนเดระกล่าว “เพื่อทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องทำให้บริษัทญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น”

การเจรจาการค้าทวิภาคีในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มว่าจะรวมถึงหัวข้อที่ละเอียดอ่อนอย่างนโยบายสกุลเงิน โดยเจ้าหน้าที่บางคนเตรียมใจไว้เป็นการส่วนตัวแล้วว่า ทางสหรัฐฯ จะเรียกร้องให้ญี่ปุ่นค้ำหนุนค่าเงินเยน

แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ก็อาจตกอยู่ภายใต้การโจมตีเช่นกัน

ทั้งนี้ แหล่งข่าววงในที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาภาษีให้ข้อมูลกับ Reuters ว่า ริวเซอิ อากาซาวะ (Ryosei Akazawa) หัวหน้าผู้แทนการค้าของโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจ จะพบกับสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (17 เม.ย.)

ภาษีทรัมป์ป่วนค่าเงินเยนและการคลัง

ในอดีต ญี่ปุ่นพยายามป้องกันไม่ให้ค่าเงินแข็งค่ามากเกินไป เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมาก ทางฝั่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เงินเยนก็ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงเพื่อซื้อเงินเยนในปี 2565 และอีกครั้งในปีที่แล้ว เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเกือบ 160 เยน สกุลเงินของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ จากการเทขายดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในวันศุกร์ที่ 142.895 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน

10 วันทำการนับตั้งแต่ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าต่อผู้ผลิตรถยนต์ถือเป็นช่วงที่ตึงเครียดที่สุดนับตั้งแต่เกิดความตื่นตระหนกจากโรคระบาดในปี 2020 โดยราคาหุ้น พันธบัตร น้ำมัน ทองคำ และดอลลาร์ผันผวนอย่างรุนแรง

การขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลักในตลาดโลก ถือเป็นการขายที่หนักที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แรงขายครั้งใหญ่ที่กระทบต่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐในเอเชียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระตุ้นให้ตลาดคาดเดากันว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่เทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

โดยการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทรัมป์ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้า “แบบตอบแทน” เป็นเวลา 90 วัน โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ น่าจะมีบทบาทสำคัญ

ทั้งนี้ จากข้อมูลกระทรวงการคลัง ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 1.079 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ตามมาด้วยจีนที่ถือครอง 760.8 พันล้านดอลลาร์

ภาพ: Takashi Aoyama / Getty Images, Kagenmi / Getty Images

อ้างอิง: