×

เจเน็ต เยลเลน ยอมรับ ‘เงินเฟ้อสหรัฐฯ’ ยังสูงเกินไป แต่มีสัญญาณชะลอตัว เชื่อ Fed กดตัวเลขลงเข้าเป้าได้สำเร็จ

28.02.2023
  • LOADING...
เจเน็ต เยลเลน

เจเน็ต เยลเลน ยันศึกเงินเฟ้อรวมยังไปได้สวย แม้เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป เทียบกับอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย แต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว พร้อมเชื่อ Fed จะกดเงินเฟ้อเข้าเป้าได้สำเร็จ

 

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทางสถานีโทรทัศน์ CNN เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในขณะนี้จะยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเกินไป เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายซึ่งอยู่ที่ 2% แต่แนวโน้ม Soft Landing ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นเช่นกัน 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


เยลเลนระบุว่า ความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการลดอัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่การรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งดูจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น และจนถึงขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของการต่อสู้เพื่อจัดการเงินเฟ้อยังคงเป็นไปด้วยดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่างๆ ที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ 

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังยอมรับว่า สหรัฐฯ อาจต้องรับแรงกระแทกจากความไม่แน่นอนกับระดับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงเกินไป แต่โดยทั่วไปหากพิจารณาจากปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อได้ส่งสัญญาณปรับตัวลดลงแล้ว และในมุมมองของเยลเลนเห็นว่า Fed มุ่งมั่นที่จะดำเนินกระบวนการลดระดับเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับปกติต่อไป ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าในที่สุด Fed จะบรรลุผลสำเร็จกับเป้าหมายลดอัตราเงินเฟ้อ 

 

ขณะนี้เยลเลนอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งเป็นการเดินทางโดยที่ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งเยลเลนมีกำหนดการพบปะกับรัฐบาลยูเครน ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนของสหรัฐฯ รวมถึงการประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ และการเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพของการคว่ำบาตรต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย

 

ขณะเดียวกัน เยลเลนยังใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังใช้มาตรการพิเศษเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถใช้จ่ายไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายนแล้ว ก่อนยืนยันว่าปัญหาเงินเฟ้อและระดับหนี้ของสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในลำดับสูงสุด 

 

อย่างไรก็ตาม บทสัมภาษณ์ดังกล่าวแย้งกับรายงานของ National Association for Business Economics (NABE) หรือสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ ที่สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ 48 คนทั่วสหรัฐฯ พบว่า ประมาณ 58% ของนักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้ คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับที่กล่าวไว้ในการสำรวจของ NABE เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนหน้า 

 

โดย 1 ใน 4 ของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงจากการสำรวจก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่เริ่มเห็นโอกาสของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเริ่มขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า 

 

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 1 ใน 3 ที่ตอบแบบสำรวจคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเริ่มขึ้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะที่ 1 ใน 5 คิดว่าจะเริ่มในไตรมาส 3 ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน

 

ความล่าช้าในการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของนักเศรษฐศาสตร์ มีขึ้นท่ามกลางรายงานข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งทนทานดีหลังจากที่ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปถึง 8 ครั้ง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ 

 

โดยหนึ่งในปัจจัยที่สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืออัตราการจ้างงาน ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บรรดานายจ้างมีการเพิ่มงานมากกว่าครึ่งล้านตำแหน่ง และอัตราการว่างงานปรับตัวอยู่ที่ 3.4% ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1969

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising