เรารู้ว่าคุณก็เคยรินไวน์ใส่แก้วกาแฟใกล้มือ กระทั่งแก้วพลาสติก มานั่งจิบหน้าทีวีหรือจิบที่บ้านเพื่อน กระทั่งส่ายเอวคึกคักอยู่บ้านคนเดียวมาก่อน แต่เราจะทำแบบนั้นโดยไม่เจอสายตาครหานอกบ้านไม่ได้น่ะสิ… และมารยาทบอกอะไรได้หลายๆ อย่าง โดยเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จักดีพอ ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสื่อสารกับสังคม บ่งบอกถึงสถานะและตัวตนของเราว่า “เฮ้ย เราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น!” ดังนั้นเพื่อความชัวร์และเพื่อรักษาภาพลักษณ์ (ที่คาดว่ายังคงดีอยู่) ของเราเอาไว้ ขอแนะนำมารยาทการจิบไวน์ที่รู้ไว้ใช่ว่า ให้คุณพกติดตัวไปด้วยเสมอเผื่อได้ไปชนแก้วไวน์กับใคร
ไม่ว่าจะเดตแรกใต้แสงเทียน งานดินเนอร์กับลูกค้า หรือวงไวน์กับก๊วนเพื่อนนอกบ้าน รับรองว่าเวิร์ก
จับก้านแก้ว
คุณเป็นคนนั้นหรือเปล่าที่คว้าแก้วมุมไหนก็ถือไว้อย่างนั้น โดยไม่สนว่าฝ่ามือจะสัมผัสแก้วไวน์มากน้อยเพียงใด? ตามมารยาทแล้วตราบใดที่คุณไม่ทำแก้วแตกก็ถือว่าโอเคปลอดภัยก็จริง แต่หากจะเสริมจริตให้ดู ‘เป็น’ เสียหน่อย จำได้ไหมที่เราบอกว่าไวน์นั้นอร่อยกว่าเมื่อเสิร์ฟเย็นๆ ดังนั้นทางที่ดีควรจับก้านแก้วไวน์แทน เนื่องจากแก้วไวน์ถูกออกแบบมาให้แยกด้ามจับห่างจากบริเวณที่ใส่ไวน์ เพื่อกันอุณหภูมิความอุ่นจากมือของคุณไปถึงไวน์นั่นเอง ฉะนั้นไม่ว่าคุณกำลังจะละเลียดไวน์ขาว ไวน์แดง หรือโรเซ กระทั่งแชมเปญ จงใช้นิ้ว (จะนิ้วชี้ นิ้วโป้ง นิ้วกลาง หรือนิ้วก้อยเด้งออกมาก็ไม่ว่า) จับขาแก้วไว้เสมอ
ลองดมดูสิเออ
เมื่อจับถูกวิธีแล้ว อย่าลืมใช้ทักษะการชิมไวน์เบื้องต้น 4 ขั้นตอนที่แนะนำโดยกูรูด้านไวน์และซอมเมอลิเยร์ที่จะเพิ่มความอร่อยได้อรรถรสให้กับการจิบไวน์ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่แม้จะเป็นที่รู้กันในหมู่กูรูไวน์ แต่เชื่อเถอะว่าจะเปิดประสบการณ์ลองลิ้มชิมไวน์ของคุณให้ก้าวไกลกว่าเก่า ตอกย้ำว่า ‘ใครๆ ก็ดื่มไวน์เป็นได้’ ขอแค่มีไวน์สักแก้วกับสมองของคุณก็เพียงพอ และนี่คือวิธีที่ว่า
- ดูไวน์ (Look) สังเกตสีและลักษณะเนื้อไวน์เมื่อสะท้อนกับแสง พิจารณาดูว่าไวน์ขาวที่เห็นนั้นเป็นสีเหลือง สีทอง สีส้ม หรือสีอำพัน หรือมีความขุ่นมากน้อยเพียงใด
- ดม (Smell) ลองจำแนกกลิ่นที่คุณได้รับ ด้วยการหายใจผ่านจมูกในแก้วไวน์ พิจารณาว่ามีกลิ่นแปลกหรือผิดปกติหรือไม่ หรือคุณได้กลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพร อัลมอนด์ ไปจนกลิ่นผลไม้
- ชิม (Taste) ยกแก้วขึ้นมาจิบ ลองจำแนกรสที่ค่อยๆ ซึมซาบไปทั่วปากและลิ้นส่วนต่างๆ ลองดูสิว่าคุณรับรู้รสหวาน เปรี้ยว หรือขม ณ จุดใด ขณะจิบลองหายใจเพื่อรับกลิ่นเข้าไปพร้อมกันด้วยเพื่อเพิ่มมิติของอรรถรส บางทีกลิ่นที่ได้อาจเปลี่ยนไปจากการดมครั้งแรก
- พินิจพิเคราะห์ (Think/Conclude) พิจารณาถึงสิ่งที่ได้รับหลังจากมอง ดม และชิม คุณอาจนึกถึงอากาศบริสุทธิ์สดชื่นในออสเตรเลีย การยืนอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้อันหอมหวาน หรือเครื่องเทศนับร้อยราวกับอยู่ในตลาดเครื่องเทศ วิธีนี้ช่วยให้คุณจดจำเอกลักษณ์ของไวน์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้นในระยะยาวอีกด้วย
ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร? ศึกษานี่คือ 4 วิธีดื่มไวน์ฉบับมือใหม่หัดจิบที่เข้าใจง่ายที่สุดได้ที่นี่
เปิดจุกระดับนินจา
การเปิดฝาไวน์ให้เสียงดังสนั่นหวั่นไหวอาจเป็นเรื่องสนุกในงานปาร์ตี้สละโสด แต่หากอยู่ในงานสังคมรายล้อมไปด้วยคนที่ไม่สนิทนัก จะดีกว่าหากคุณค่อยๆ เปิดโดยให้มีเสียงดังน้อยที่สุด จะขอยืมวิชานินจาในตัวมาใช้เราก็ไม่ว่า
อ่านเรื่อง 5 วิธีเปิดขวดไวน์แบบไม่ต้องง้อที่เปิด เพื่อไวน์เราทำได้ ได้ที่นี่
จิบที่เดิม
มารยาทเบื้องต้นของการจิบเครื่องดื่มแทบทุกชนิด (ที่อาจจะยากสักนิดโดยเฉพาะสำหรับสตรีทาลิปสติก…) โดยพยายามจดจำตำแหน่งที่คุณวางริมฝีปากลงบนแก้วไวน์เอาไว้ เพื่อที่การจิบครั้งต่อไปจะได้ไม่วนไปรอบแก้ว เพราะจะทำให้ประกายของแก้วลดลง จนแก้วแลดูสกปรก รับรองว่าลองทำแล้วคุณจะเข้าใจ แถมยังนำไปใช้ได้กับการจิบกาแฟ จิบชาในงานสังคมครั้งหน้าอีกด้วย
จับฐานขวด
เช่นเดียวกับการจับก้านแก้ว พยายามเลี่ยงถ่ายทอดความอุ่นของร่างกายไปสู่เนื้อไวน์ให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะปากขวดที่ควรเลี่ยงที่สุด ดังนั้นหากคุณรับหน้าที่รินไวน์ให้ซีอีโอคราวหน้า แนะให้จับฐานขวดเอาไว้ และหมุนขวดไปข้างๆ ขณะจะหยุดริน เพื่อให้น้ำไวน์ที่กำลังจะออกมาหมุนไปข้างๆ ภายในขวดแทน วิธีนี้ช่วยเลี่ยงไม่ให้ไวน์หยดหรือไหลออกจากนอกขวดจนเลอะเทอะได้
อ่านเรื่องรินใส่แก้ว เทใส่ขวด ปิดฝาอย่างไร นี่คือวิธีการเสิร์ฟไวน์ควรรู้สำหรับนักจิบไวน์ 101 ที่นี่
รินให้เป็น
ลืมความโลภในการเทเครื่องดื่มทีละเยอะๆ คุณไม่ได้กำลังดื่มน้ำเปล่านะ และไวน์เป็นน้ำชนิดที่ ‘ต้องการอากาศหายใจ’ ดังนั้นมิต้องรินจนมิดเพราะขี้เกียจไปเติมใหม่ เพราะนอกจากจะหกเปรอะเปื้อน (เสื้อสีขาวที่น่าสงสารตัวนั้น…) แล้วยังดูไม่เป็นมือโปรอีกด้วย ทางที่ชัวร์ที่สุดคือรินไม่ถึงครึ่งแก้ว หรือราวๆ ⅓ ของแก้วไว้ก่อนเป็นปลอดภัย
อ่านเรื่องไวน์แดงรินแก้วไหน ไวน์ขาวรินเท่าไร เรื่องง่ายๆ ของ ‘แก้วไวน์’ ที่ควรรู้ประดับตัว ได้ที่นี่
สังเกตรอบตัว
เรื่องจิ๋วๆ อันเป็นรายละเอียดในมารยาทการดื่มที่ผู้เขียนสังเกตอีกอย่าง คือความช่างสังเกตว่าไวน์ในแก้วของคู่ดื่มของคุณพร่องถึงไหนแล้ว สิ่งนี้นอกจากจะทำให้คุณตามเพื่อนๆ ทันในปริมาณการดื่ม (โดยเฉพาะเมื่อคุณมาทีหลัง) หรือเมื่อทุกคนดื่มหมดพร้อมเรียกจ่ายเงิน แต่แก้วของคุณยังไม่พร่องเพราะเมาท์ออกรสจนลืมจิบ นอกจากนั้นวิธีนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้เสนอตัวรินไวน์ให้ผู้อื่น อันเป็นความน่ารักเอาใจใส่ที่ควรแสดงออกอีกด้วย (+1 แต้มให้กริฟฟินดอร์)
คิดถึงผู้อื่นก่อน
ดังที่กล่าวข้างต้นว่าการรินไวน์ให้ผู้อื่นเป็นเรื่องน่าเอ็นดู แต่หากคุณเองประสงค์รินไวน์ให้ตัวเองเช่นกัน หนทางที่ดีที่สุดคือรินให้ผู้อื่นก่อน นี่เป็นมารยาท 101 ในทุกการดื่ม! อันแสดงถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียด บ่งบอกว่า (แม้คุณจะคิดถึงตัวเองก่อน) มากน้อยเพียงใด แต่คุณก็ใส่ใจในความต้องการของผู้อื่นไม่เบาเลย นี่เป็นสมบัติผู้ดีชัดๆ (เอ้า…เอาไปอีก +5 แต้ม!)
ชนให้ถูกองศา
การได้ชนแก้วจนแตกอาจเป็นเรื่องเฮฮาในหมู่เพื่อนสมัยเรียน แต่อาจดูไม่คูลเท่าใดนักต่อหน้าประชาชีในงานสังคมทางการ หรือคู่ค้าทางธุรกิจ ดังนั้นโปรดจำไว้ว่าการชนแก้วที่ถูกต้องและปลอดภัยนั้น ควรหันด้านข้างของแก้วเพื่อชนเบาๆ วิธีนี้สามารถเลี่ยงการทำแก้วแตกได้ และที่สำคัญอย่าลืมมองตาคู่ดื่มขณะชนด้วย มิเช่นนั้นชาวเยอรมันและฝรั่งเศสอาจบอกว่าคุณจะถูกสาปให้มีเซ็กซ์ห่วยๆ ไปอีก 7 ปีก็ได้!
เอ้า เชียร์ส!
อ่านเรื่อง 6 สิ่งที่คนชิมไวน์ควรเลี่ยงพูดเพื่อความคูลเป็นไหนๆ ได้ที่นี่
ภาพประกอบ: Pichamon Wannasan