×

นายกฯ อิรัก รอดตายจากโดรนลอบสังหาร ขณะสถานการณ์ในกรุงแบกแดดตึงเครียด

โดย THE STANDARD TEAM
08.11.2021
  • LOADING...

มุสตาฟา อัล-คาดิมี นายกรัฐมนตรีอิรัก รอดชีวิตจากเหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังโดรนบรรทุกระเบิดพุ่งเป้าถล่มบ้านพักของเขาในกรุงแบกแดด 

 

“ขอบคุณพระเจ้า ผมสบายดี และอยู่ท่ามกลางประชาชนของผม” อัล-คาดิมี โพสต์ Twitter หลังเหตุการณ์โจมตี พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบและอดทนอดกลั้น รวมทั้งขอให้มีการเจรจาอย่างสันติและสร้างสรรค์ “เพื่อผลประโยชน์ของอิรักและอนาคตของอิรัก”

 

พล.อ. ซาอัด มาอัน โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า โดรน 3 ลำมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารในครั้งนี้ โดยกองกำลังความมั่นคงสามารถยิงโดรน 2 ลำตกลงก่อนที่จะกระทำการลอบสังหารได้สำเร็จ

 

ด้านกองทัพอิรักกล่าวว่า อัล-คาดิมี ไม่ได้รับอันตรายและสบายดี และกองกำลังความมั่นคงกำลังดำเนินมาตรการที่จำเป็นสืบเนื่องจากความพยายามที่ล้มเหลวดังกล่าว

 

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับผู้นำอิรักเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ อัล-คาดิมี กำลังกลับจากการตรวจการกองกำลังความมั่นคงที่ประตูด้านใต้ของ Green Zone ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการคุ้มกันหนาแน่นของกรุงแบกแดด และเป็นเขตที่พำนักของนายกรัฐมนตรี ตลอดจนอาคารที่ทำการของหน่วยงานรัฐบาลและการทูต 

 

โดยในขณะที่อัล-คาดิมี เพิ่งจะเข้าไปในบ้านพัก โดรนติดระเบิดก็พุ่งเป้าไปยังสถานที่นั้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ้านพักนายกรัฐมนตรีได้รับบาดเจ็บ 2-3 ราย และสร้างความเสียหายเล็กน้อย

 

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว “ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการก่อการร้าย” 

 

“เรากำลังติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับกองกำลังความมั่นคงอิรัก ซึ่งมีหน้าที่ค้ำจุนอธิปไตยและเอกราชของอิรัก และเราได้เสนอให้ความช่วยเหลือในขณะที่พวกเขาสอบสวนการโจมตีครั้งนี้” เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว

 

ด้านรัฐบาลเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน (KRG) ซึ่งเป็นเขตกึ่งปกครองตนเองทางตอนเหนือของอิรัก ออกแถลงการณ์ประณามความพยายามลอบสังหารที่ล้มเหลว ระบุว่าเป็น “การกระทำของผู้ก่อการร้าย” ซึ่งถือเป็น “ความเคลื่อนไหวที่อันตราย ซึ่งคุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพในประเทศ และเป็นเค้าลางถึงผลเลวร้ายที่จะตามมา”

 

ขณะที่ มอคตาดา อัล-ซาดร์ นักการศาสนานิกายชีอะห์ ผู้ทรงอิทธิพล และหัวหน้ากลุ่มเคลื่อนไหว Sadrist Movement เรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “การกระทำของผู้ก่อการร้ายที่ทำให้อิรักกลับสู่สภาพแห่งความโกลาหลที่ถูกควบคุมโดยกองกำลังนอกภาครัฐ เพื่อให้อิรักอยู่ภายใต้ความเจ็บปวดจากการจลาจล ความรุนแรง และการก่อการร้าย ตลอดจนอันตรายและการแทรกแซงจากภายนอก”

 

ทั้งนี้ อัล-ซาดร์ และพันธมิตร คว้าที่นั่งมาได้มากกว่า 70 ที่นั่งในการเลือกตั้งรัฐสภาของอิรักเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปี 2018 ที่ได้มา 54 ที่นั่ง

 

ทหารถูกส่งไปประจำการทั่วกรุงแบกแดดในวันอาทิตย์ ภายหลังความพยายามลอบสังหารที่ล้มเหลว โดยการโจมตีดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดที่ปกคลุมเมืองหลวงของอิรักอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว

 

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครหรือกลุ่มใดออกมารับว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามลอบสังหารในครั้งนี้

 

ภาพ: Murtadha Al-Sudani / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising