ดังที่ THE STANDARD ได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับแมลงในฐานะของเทรนด์อาหารแห่งอนาคตไปแล้วว่ามีประโยชน์หลายสถาน ทั้งเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารชั้นดี แถมยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย ทำให้เทรนด์ดังกล่าวเริ่มที่จะแพร่หลายไปในหลายประเทศ (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์อาหารแมลง อ่านบทความ: ‘Entomophagy’ เปิบแมลงกู้โลก และ เปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นแมลง เทรนด์อาหารล่าสุดของชาวเบลเยียม) ทำให้มีคนยุคใหม่จำนวนมากเริ่มที่จะเปิดใจหันมาบริโภคแมลงกันมากขึ้น (แต่เอาจริงๆ คนพื้นบ้านเราก็กินแมลงกันมาตั้งนานแล้ว และกินกันตั้ง 200 ชนิด)

     รวมถึงประเทศไทยของเราเองก็เพิ่งมีร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งยกระดับการกินแมลง ที่เพิ่งเปิดตัวไป ณ โครงการช่างชุ่ย หากจะบอกว่า Insects In The Backyard (อินเซ็กต์ อิน เดอะ แบ็คยาร์ด) คืออีกหนึ่งความตื่นเต้นของวงการอาหารไทยในตอนนี้ก็คงจะไม่ผิดนัก ร้านนี้เกิดจากความร่วมมือกันของโครงการช่างชุ่ย กับ คุณโจ๊ก-สมเกียรติ ไพโรจน์มหกิจ (เชฟและเจ้าของร้าน Hazel’s Ice Cream Parlor and Fine Drinks) และภรรยาคือคุณเรแกน ไพโรจน์มหากิจ (นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำงานด้านสภาวะโลกร้อน) ร่วมกันพัฒนาคอนเซปต์ของร้านขึ้นมา โดยมอบหมายให้ เชฟใหม่-ฐิติวัชร ตันตระการ เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์และดูแลร้าน

     จากการได้ลองเปิดประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งกินแมลงที่ร้านอาหารหัวก้าวหน้าแห่งนี้ เราค้นพบว่าการกินแมลงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เคยคิดเอาไว้ เอาเข้าจริงๆ มันดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ แถมที่สำคัญอีกอย่างคือราคาเป็นมิตรกำลังน่ารักอีกด้วยนะ!

 

 

The Vibe

     โดดเด่นด้วยกิมมิกของแมลงตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดประตูเข้าไปในร้านเลยด้วยซ้ำ เพราะมองไปทางด้านบนของร้านเราจะเห็นขาของแมลงโผล่ออกมา ยิ่งชวนให้ใจระทึกว่าอาหารไฟน์ไดนิ่งแมลงของที่นี่จะเป็นอย่างไร

     เมื่อเปิดบานประตูเข้าไปภายในร้าน ก็จะพบกับการตกแต่งสไตล์วินเทจตามแบบของช่างชุ่ยที่เน้นการมิกซ์แอนด์แมตช์ บรรยากาศดูขรึมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม เก้าอี้หนังสไตล์ยุโรปย้อนยุค โคมไฟแชนเดอเลียร์ เขาสัตว์ติดผนัง และสัตว์สตัฟฟ์ ความเคร่งขรึมทะมึนทั้งหมดถูกเบรกให้หมดไป กลายเป็นดูแปลกเซอร์เรียลแบบทีเล่นทีจริงด้วยงานประติมากรรมที่ห้อยลงมาจากเพดานซึ่งมาในรูปของต้นไม้กินแมลง

 

 

The Dishes

     เริ่มต้นกันด้วยจานเบาๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยโบราณอย่าง ปลาแห้งแตงโม สลัดแตงโมกับปลาทูน่าอบแห้งสไตล์กรีก โรยหน้าด้วยหนอนรถด่วนจากเชียงใหม่ (175 บาท) รสชาติของจานนี้โดยรวมออกหวานสดชื่น เด่นตรงที่รสสัมผัสอันหลากหลายของหนอนรถด่วนจากป่าไผ่ในจังหวัดเชียงใหม่กรอบเคี้ยวมัน เพิ่มรสชาติหนักแน่นขึ้นอีกชั้นด้วยปลาแห้งและไส้กรอกโชริโซ (Chorizo)

 

 

     จานต่อมาโดดเด่นด้วยกลิ่น เพราะนำเอาแมงดาไข่ตัวเมียมาปั่นรวมกับเนื้อปูแล้วนำมาสอดไส้ราวิโอลี ตัดรสด้วยซอสครีมขมิ้นสด (255 บาท) ใครที่ชอบกลิ่นของแมงดาน่าจะชอบรสชาตินวลๆ ของจานนี้ และกลิ่นของแมงดาบวกกับกลิ่นขมิ้นเบลนด์เป็นกลิ่นที่มีความซับซ้อนน่าค้นหาไปอีกแบบ ตามต่อมาด้วย ปลาเก๋าทะเลย่าง ราดซอสไวน์ขาวไข่มดแดง เสิร์ฟพร้อมซัลซ่าไข่มดแดง (265 บาท) จานนี้มีไฮไลต์อยู่ที่ซอสซึ่งทำจากไวน์ขาวและไข่มดแดง กับแม่เป้งทอดกรอบที่ท็อปอัพบนชิ้นปลา

 

 

     ใครที่คิดว่าที่นี่จะมีแต่อาหารแมลงก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะหากคุณเผอิญไม่กินแมลงแต่พ่วงมากับคุณเพื่อนนักกิน ทางร้าน Insects In The Backyard ก็ยังมีอีกหลายเมนูที่ไม่ได้มีแมลงเป็นส่วนผสม อย่างจานนี้ที่เราได้ลองคือ ลิ้นวัวย่างเกลือ (185 บาท) ที่ย่างมาเป็นอย่างดี กินตัดรสกับผักดองที่พอกัดเข้าไปภายในคำเดียวกันแล้วออกรสมาก จนคนรักเนื้อวัวอย่างเราคิดว่าสามารถกลับมาใหม่ได้อีกรอบเพื่อที่จะกินจานนี้เพียงจานเดียวได้เลย (ถ้าไม่กินลิ้นสามารถสั่งเนื้อส่วนไหล่แทนได้)

 

 

     ตบท้ายด้วยของหวานคือ ทีรามิสุ ครีมดักแด้ เลเยอร์กาแฟอาราบิก้า (195 บาท) ที่นำไขมันจากดักแด้ไปปั่นรวมกับครีม ออกมารสชาตินุ่มมันนวลไปอีกแบบ จนลืมนึกไปเลยด้วยซ้ำว่ามีส่วนผสมที่ทำจากแมลงอยู่ด้วยนะ นอกจากนี้ทางร้านยังมีอีกหลายเมนูจากแมลงที่น่าลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าเส้นสดที่ป่นแมลงผสมลงไปในแป้งด้วย หรือสำหรับคนที่ไม่กินแมลงก็อย่างที่บอกว่าไม่ต้องตกใจไป ทางร้านเขามีอีกหลายเมนูที่ไม่ใส่แมลงให้คุณได้เลือกอร่อย

     แต่ที่สำคัญและน่าสรรเสริญมากๆ คือ Insects In The Backyard เป็นร้านอาหารระดับไดน์นิ่งที่ไม่ได้ทำราคาให้ออกมาสูงจนน่าตกใจ เพราะราคาในเมนูสูงสุดที่เราเห็นคืออยู่ที่เพียงแค่ 360 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ส่วนสำคัญเป็นเพราะทางร้านบอกว่าอยากจะให้คนกินอาหารได้ลองเปิดใจรับประทานแมลงดู จึงตั้งราคาให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้

 

The Drinks

     ที่นี่เสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลาย ตั้งแต่ซอฟต์ดริงก์ต่างๆ เบียร์ลาว และคราฟต์เบียร์ไทยอย่าง Chalawan Pale Ale (190 บาท) และ Chatri IPA (190 บาท) รวมถึงคลาสสิกค็อกเทลหลากหลายเมนู อย่าง มาร์ตินี่, เนโกรนี, โอลด์ แฟชั่น ฯลฯ

 

 

     และดริงก์อื่นๆ ที่เป็นสูตรของทางร้านเอง อย่าง หมอลำพันช์ (Mhor-Lam Punch / 260  บาท)  แก้วสีแดงสวยที่มีส่วนผสมของ เอจ รัม, น้ำเชื่อมกลิ่นส้ม, น้ำมะนาว, น้ำสับปะรด, Rice Berry Beer Reduction ออนท็อปด้านบนด้วยทับทิม แก้วนี้คนชอบรสหวานน่าจะโอเค แต่ถ้าคุณไม่ชอบหวานอย่าได้สั่ง

 

 

     ไทย พิรินญ่า (Thai –  Pirinha / 260 บาท) เป็นอีกแก้วที่น่าลองสำหรับเรา รสชาติเปรี้ยวสดชื่นแต่ได้รสเหล้ารัม หอมกลิ่นของใบทำมัง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ให้กลิ่นคล้ายกับแมงดา ส่วนแก้วสุดท้ายคือ ไดกิรี่ (Daiquiri / 240 บาท) มีส่วนผสมของเหล้ารัม นำ้เชื่อมจากน้ำตาลออร์แกนิกกับน้ำมะนาว ซึ่งอันที่จริงค็อกเทลทั้งหมดดังกล่าวที่คุณเห็นในหน้านี้จะเสิร์ฟโดยไม่มีแมลง แต่ทางร้านทำเป็นพิเศษสำหรับ THE STANDARD ในมื้อที่เราไปเยือน โดยเพิ่มแมลงทางด้านบนให้ ซึ่งหากคุณสนใจอยากจะได้บ้างอาจจะต้องลองอ้อนขอจากทางร้านดู

 

What else you should know:

• ปัจจุบันแมลงที่ทางร้านใช้ปรุงอาหารมีอยู่ทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่ แมงสะดิ้ง, จิ้งหรีดขาว (ไข่), ดักแด้, รถด่วน, ตั๊กแตน, แมงดา, ไข่มดแดง และแม่เป้ง แต่ในอนาคตทางร้านมีโครงการที่จะนำแมลงชนิดอื่นอย่าง แมงแคง (ซึ่งเชฟใหม่บอกว่ามีความมันคล้ายกับชีสกามองแบรต์) และแมลงชนิดอื่นๆ มาใช้ในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ
• ชื่อของร้าน Insects In The Backyard สื่อเป็นนัยถึงแมลงที่มีอยู่ในสวนหลังบ้าน ซึ่งเรามักไม่ให้ความสำคัญ แต่สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารได้อย่างมากมายและเปี่ยมไปด้วยคุณค่า
• ก่อนที่จะมาทำที่ร้านนี้ เชฟใหม่-ฐิติวัชร ตันตระการ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาเลียน เคยทำงานที่ห้องอาหารของโรงแรมดุสิตธานี และห้องอาหาร Sirocco มาก่อน เชฟใหม่ใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนในการตระเวนไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อตามหาฟาร์มแมลงคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์มาเป็นวัตถุดิบของร้าน

 

Open:  16.00-23.00 น. ทุกวันยกเว้นวันจันทร์

Address: ตั้งอยู่ในโครงการช่างชุ่ย 462 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

Budget: เริ่มต้นที่ 165 บาท

Contact:  0 2035 7000

Website: www.insectsinthebackyard.com

Page: www.facebook.com/InsectsBkk

Map: 

 

Photo: วรัญญู อินทรกำแหง