×

‘เงินเฟ้อ’ ลามไปถึงวงการช็อกโกแลตและถุงยางอนามัย เมื่อ KitKat และ Durex ออกมาเตือนถึงราคาขายที่อาจ ‘ปรับตัวเพิ่มขึ้น’

18.02.2022
  • LOADING...
‘เงินเฟ้อ’ ลามไปถึงวงการช็อกโกแลตและถุงยางอนามัย เมื่อ KitKat และ Durex ออกมาเตือนถึงราคาขายที่อาจ ‘ปรับตัวเพิ่มขึ้น’

ผลงาน ‘เงินเฟ้อ’ ที่เพิ่มสูงขึ้นจนตอนนี้ได้ลุกลามไปถึงวงการช็อกโกแลตและถุงยางอนามัย เมื่อ KitKat และ Durex ออกมาเตือนถึงราคาขายที่อาจ ‘ปรับตัวเพิ่มขึ้น’ 

 

Nestlé ผู้ผลิต KitKat และ Nescafe ได้เตือนว่าจะขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Reckitt Benckiser บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่เบื้องหลัง Durex และ Dettol ได้ออกมาพูดถึงในทิศทางเดียวกัน

 

ค่าใช้จ่ายของ Reckitt เพิ่มขึ้น 11% ในปี 2021 แต่ Laxman Narasimhan ประธานบริหารของ Reckitt กล่าวว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าราคาจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีวิธีบรรเทาและจัดการราคา ซึ่ง “เราใส่ใจเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์ของเรา”

 

ต้นทุนของ Reckitt เพิ่มขึ้นในทุกส่วน ตั้งแต่น้ำมันดิบและพลาสติก ไปจนถึงค่าขนส่งและค่าแรง แต่ผู้อยู่เบื้องหลัง Durex ก็ย้ำว่าได้มีการดูดซับส่วนสำคัญของต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นผ่านประสิทธิภาพและการซื้อที่ดีขึ้น โดยจะส่งต่อต้นทุนดังกล่าวไปยังผู้บริโภคให้น้อยที่สุด 

 

ในขณะเดียวกัน Nestlé กล่าวว่าได้ขึ้นราคาแล้ว 3.1% ในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อชดเชยต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดย Nestlé ย้ำว่าเงินเฟ้อได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในทุกส่วน

 

BBC รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีที่ 5.5% และธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่าค่าครองชีพจะสูงถึง 7% ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่ตั้งไว้มาก ค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน เมื่อมีการกำหนดราคาพลังงานใหม่ที่สูงขึ้น

 

Danni Hewson นักวิเคราะห์ทางการเงินของ AJ Bell กล่าวว่าเจ้าของแบรนด์ใหญ่กำลังเผชิญกับ ‘บททดสอบที่สำคัญ เนื่องจากแรงกดดันต่อค่าครองชีพ’

 

“ผู้บริโภคอาจไม่สามารถรักษาราคาที่เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะซื้อแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและมีราคาแพงน้อยกว่า และ/หรือแลกกับตัวเลือกที่ถูกกว่า ซึ่งบริษัทแบรนด์ใหญ่ๆ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะต้องลดราคาเพื่อรักษาปริมาณการขายเอาไว้”

 

Nestlé เปิดเผยว่ายอดขายรวมเพิ่มขึ้น 3.3% ในปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 38.2% โดยยอดขายได้แรงหนุนจากความต้องการกาแฟ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง และอาหารเพื่อสุขภาพ ที่แข็งแกร่งในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

 

ส่วน Reckitt กล่าวว่ายอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยและสุขภาพได้เพิ่มขึ้น โดยยอดขายกลุ่มสุขอนามัยทำผลงานได้ดีที่สุดด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1.6% ถุงยางอนามัย Durex และน้ำมันหล่อลื่น KY ต่างมียอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Unilever ออกมาเผยว่าจะขึ้นราคาอีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 3.5 พันล้านยูโร ในปี 2022 เพียงปีเดียว

 

ขณะเดียวกัน Heineken ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ออกมาเตือนว่าจะขึ้นราคาเบียร์เนื่องจากผลกระทบของเงินเฟ้อ อันมีผลทำให้ส่วนผสมและต้นทุนด้านพลังงานพุ่งสูงขึ้น เช่น ราคาข้าวบาร์เลย์เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และราคาอะลูมิเนียมที่คาดว่าจะพิ่มขึ้นประมาณ 50%

 

“การขึ้นราคาและอัตราเงินเฟ้อแบบนี้ ผมคิดว่าเราไม่ได้เห็นมาหลายชั่วอายุคนแล้ว” Dolf van den Brink ผู้บริหารระดับสูงของ Heineken กล่าว พร้อมเสริมว่า การขึ้นราคาอาจนำไปสู่ ​​‘การบริโภคเบียร์ที่ลดลง’ เนื่องจากนักดื่มลดการใช้จ่ายเนื่องจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising