×

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ไอคอนสยาม ทุ่มงบ 500 ล้านบาท อัดบิ๊กอีเวนต์ 20 งานรวด รับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน! เน้นกินมากกว่าช้อปปิ้งสินค้าลักชัวรีแบรนด์

09.10.2023
  • LOADING...

เส้นทางการดำเนินธุรกิจของ ‘ไอคอนสยาม’ ห้างหรูระดับเวิลด์คลาส ย่างก้าวสู่ปีที่ 5 หลังจากลงทุนนับแสนล้านบาท สร้างเดสทิเนชันริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากนี้จะเน้นทำสิ่งใหม่ รับนักท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก พร้อมทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดอีเวนต์ ชู Soft Power ดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ 

 

“ในช่วงที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ เปิดให้บริการไอคอนสยาม ช่วงนั้นลูกค้าหลักๆ คือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ลูกค้าคนไทยถือว่าน้อยมาก แต่เมื่อโควิดระบาดเราได้เห็นโอกาสใหม่ๆ และเริ่มทำการตลาดเพื่อดึงลูกค้าคนไทยมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าเทียบกับต่างชาติก็มีสัดส่วนเท่าๆ กัน” สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าว

 

เช่นเดียวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในครึ่งปีหลังของปี 2566 นักท่องเที่ยวกลับมาดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, อินเดีย และเกาหลีใต้ โดยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้อยู่เหนือความคาดหมายมาก เพราะในอดีตแทบจะไม่มีเข้ามาเดินในห้างเลย 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักไอคอนสยาม มาจากการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้รายการต่างๆ เข้ามาถ่ายทำรายการ โดยประเมินว่าในช่วงไตรมาส 4 ที่นับเป็นช่วงไฮซีซันของนักท่องเที่ยว บรรยากาศการจับจ่ายจะคึกคักมากขึ้น 

 

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคได้เปลี่ยนมาเน้นจับจ่ายในเรื่องของอาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งถือว่าแตกต่างจากช่วงก่อนเกิดโควิด ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเน้นใช้จ่ายกับสินค้าลักชัวรีแบรนด์มากกว่า 

 

ดังนั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่เหลือของปี ไอคอนสยามจึงทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดอีเวนต์และแคมเปญใหม่ๆ กว่า 20 อีเวนต์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ชู Soft Power นำจุดแข็งของสินค้าไทย มาทำการตลาดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายให้กับไอคอนสยามและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบ

 

พร้อมจับมือพันธมิตรจาก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ในรูปแบบ World Collaboration ตลอด 5 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 

 

นอกจากนี้ ยังได้เริ่มนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาประมาณ 20-30 แบรนด์ ทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่ม และแฟชั่นลักชัวรี เข้ามาเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค และเมื่อไม่นานมานี้ ได้เปิดโซนใหม่ ICONVILLE ในพื้นที่ชั้น 5 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัว พบว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี

 

เมื่อพูดถึงความท้าทายเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ 6 สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวต่อไปว่า จากนี้เราต้องทำเรื่องใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เริ่มตั้งแต่การพยายามจัดกิจกรรมสร้าง Engagement ให้เข้าถึงและตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะ Gen Z และ Gen Millennial ภายใต้โจทย์ให้ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกเข้าถึงศูนย์การค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ไอคอนสยามอาจกลับมาพิจารณาปรับปรุงไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่บนชั้น 8 เพื่อรองรับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว รวมถึงการเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในย่านชุมชน

 

ด้านปัจจัยความท้าทาย ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เบื้องต้นเรามองว่าอาจยังไม่กระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะหากมีผลกระทบเราจะต้องเริ่มเห็นแล้ว ซึ่งต้องรอประเมินในระยะยาวอีกครั้ง 

 

ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการของไอคอนสยามเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 25% และในไตรมาสสุดท้ายของปี มั่นใจว่าจะดึงดูดผู้มาใช้บริการได้เพิ่มขึ้น 70%

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising