ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) รับสนใจแพ็กส่งเสริม EV จากรัฐบาล หลังยอดขายในไทยพุ่งขึ้น 40,000 คัน เตรียมเพิ่มผู้แทนจำหน่าย 40 แห่งทั่วประเทศ พร้อมสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าชาวไทยเข้าถึงรถยนต์ฮุนไดมากขึ้น เผยอยู่ระหว่างศึกษากลุ่มพลังงานไฟฟ้า ทั้งไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด และ EV ซึ่งขอรอเวลาที่เหมาะสม
ซังวู จอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงบทบาทของฮุนไดในประเทศไทยภายหลังทีมผู้บริหารเกาหลีใต้เข้ามาดำเนินธุรกิจแทนผู้จำหน่ายเดิมอย่างโซจิทสึ ว่าฮุนไดได้สำรวจตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 10 ปี อีกทั้งโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซียสร้างแล้วเสร็จ และประเทศไทยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับอินโดนีเซีย FTA (Free Trade Area) ทำให้สามารถนำรถยนต์รุ่น Creta และ Stargazer เข้ามาจำหน่ายได้
“ประเทศไทยเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งไลฟ์สไตล์ของชาวไทยยังมีความหลากหลาย และตลาดในประเทศไทยกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์และรถอเนกประสงค์ยังมีอัตราการเติบโตมาก ซึ่งฮุนไดอยากแนะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ในประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้มากขึ้น”
ขณะที่ตลาดรถยนต์ EV ฮุนไดมองว่าปัจจุบันประเทศไทยมีความน่าสนใจ เพราะมียอดขายรวมกว่า 40,000 คัน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่มากที่สุด และคาดว่าปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 70,000-80,000 คัน ขณะเดียวกันฮุนไดยังได้ศึกษากลุ่มพลังงานไฟฟ้า ทั้งไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด และ BEV รวมถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแนะนำประเทศไทย ส่วนมาตรการสนับสนุนส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลประเทศไทยมีความสนใจและศึกษาอย่างรอบด้าน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวหากตอบรับเข้าร่วมจะต้องมีโรงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ต้องเจราจากับภาครัฐเพิ่มเติม
นอกจากนั้นในปีนี้ฮุนไดจะเพิ่มผู้จำหน่ายทั่วประเทศเป็น 40 แห่ง เพื่อเน้นสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าชาวไทยให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ตั้งเป้ายอดขายในระยะสั้นไว้ 10,000 คันภายในสิ้นปีนี้ โดยได้วางกลยุทธ์การแนะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดอยู่ 3 รุ่น คือ รถตู้อเนกประสงค์ Hyundai Staria, รถอเนกประสงค์ MPV Hyundai Stargazer และรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ขนาดเล็กอย่าง Hyundai Creta