×

ครบ 20 ปี ทำธุรกิจในไทย Huawei มั่น ยังแกร่งรอบด้าน เตรียมตั้งสถาบันฝึกบุคลากรในไทย

24.10.2019
  • LOADING...
Huawei

แม้หลายๆ คนในประเทศไทยจะรู้จัก ‘หัวเว่ย (Huawei)’ จากการทำธุรกิจสมาร์ทโฟนครั้งแรกเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว (ปี 2556 บุกตลาดสมาร์ทโฟนไทยครั้งแรกด้วย Ascend P6) แต่จริงๆ แล้วค่ายผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารจากจีน เริ่มดำเนินธุรกิจแบบ B2B ในไทยมาตั้งแต่ปี 2542 แล้วด้วยซ้ำ

 

เพราะฉะนั้น ถ้านับจนถึงปัจจุบันในปี 2562 นี้ ก็จะเท่ากับว่า หัวเว่ยทำธุรกิจในไทยมาครบ 20 ปีพอดี 

 

เอเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับสื่อมวลชนในวันนี้ (24 ตุลาคม) ว่าตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษของการทำธุรกิจในประเทศไทย หัวเว่ยได้สั่งสมประสบการณ์ เผชิญหน้ากับความท้าทายเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังได้มีส่วนช่วยพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้าน ICT ของประเทศมาโดยตลอดตั้งแต่ยุค 2G รวมถึงการเตรียมความพร้อมสู่ 5G ในอนาคต

 

ปัจจุบันหัวเว่ย ประเทศไทยมีจำนวนการว่าจ้างบุคลากรในไทยมากถึง 3,200 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้ 75% คือพนักงานที่เป็น ‘คนไทย’ ซึ่งในมุมมองการทำธุรกิจ ประเทศไทยถือเป็นฐานที่ตั้งมั่นที่สำคัญเป็นอย่างมากของหัวเว่ย เพราะนอกจากจะมีสำนักงานใหญ่ของประเทศตั้งอยู่ที่พระราม 9 แล้ว สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในอาเซียนก็ยังตั้งอยู่บนอาคาร GPF ย่านเพลินจิตอีกด้วย

 

โดยแผนการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยในไทยต่อจากนี้ เอเบลตั้งเป้าที่จะผลักดันการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้าน ICT ระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องแบบเต็มกำลัง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงการร่วมพัฒนาเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศได้อย่างมหาศาล

 

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ยังบอกอีกด้วยว่า ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ บริษัทเตรียมจะเปิดตัว ‘อคาเดมี’ สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งแรกของประเทศไทยโดยหัวเว่ย ซึ่งจะเน้นพัฒนาและให้ความรู้ที่จำเป็นด้าน ICT, แนวคิดในการดำเนินธุรกิจ และทักษะความรู้ด้านอื่นๆ ที่จำเป็นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร เพื่อส่งเสริมบุคลาการในประเทศให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

 

อคาเดมีของหัวเว่ยแห่งนี้ตั้งเป้าจะเปิดรับและพัฒนาบุคลากรใน 3 ส่วนหลักๆ ประกอบด้วย หน่วยงานและองค์กรต่างๆ (Business), พาร์ตเนอร์หรือผู้ให้บริการโอเปอเรเตอร์ในประเทศ (Operator) และกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา (Young Generation) แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดของโปรเจกต์ดังกล่าวเพิ่มเติม (หัวเว่ยระบุว่า จะมีคอร์สเรียนทางไกลบนแพลตฟอร์มคลาวด์ด้วย)

 

ส่วนในงาน Thailand Digital Big Bang 2019 ที่จะจัดขึ้นระหว่างที่ 28-30 ตุลาคมนี้ หัวเว่ยก็จะเข้าร่วมงานด้วย พร้อมนำโชว์เคสนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ทั้ง โดรน 5G ควบคุมระยะไกล, ร้านสะดวกซื้อ AI ไร้พนักงาน, VR Experience Zone ฯลฯ มาจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ที่ไบเทค บางนา

 

เมื่อถามถึงประเด็นความบาดหมางกรณีสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน เอเบลยอมรับว่า หัวเว่ยได้รับแรงกดดันจากข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอยู่พอสมควร แต่หากลองไปพลิกข้อมูลผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาก็จะพบว่า พวกเขามีรายได้รวมมากกว่า 610,800 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 24.4% 

สะท้อนให้เห็นว่า ทิศทางต่างๆ ของบริษัทยังดำเนินไปได้ด้วยดี และอนาคตต่อจากนี้เขาก็เชื่อว่า หัวเว่ยก็น่าจะกลับมาอยู่ในเส้นทางที่สดใสขึ้นกว่าเดิม

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising