ฮ่องกงและพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนได้สั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจหลายแห่ง รวมถึงยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยววานนี้ (1 กันยายน) ขณะที่ไต้ฝุ่นเซาลาได้เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กับชายฝั่ง โดยอิทธิพลจากพายุทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนัก ขณะที่ทางการระบุว่า นี่อาจเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปีที่พัดเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้
เซาลามีสถานะเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันได้อ่อนกำลังลงเป็นไต้ฝุ่นแล้ว อย่างไรก็ตาม เซาลายังคงมีความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับ 4 โดยมีความเร็วลมสูงถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้สร้างความเสียหายให้กับหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้
หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) เปิดเผยว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนัก กระแสลมแรง และทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง อีกทั้งยังได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยพายุระดับ T10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หรือเทียบเท่ากับเมื่อปี 2018 ที่มีการประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นมังคุด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนในมาเก๊า และสร้างความเสียหายอย่างมากในฮ่องกง
ล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนจากไต้ฝุ่นในฮ่องกง ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายสิบแห่ง เพื่อเปิดให้ประชาชนสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้ชั่วคราว อีกทั้งยังมีรายงานว่า มีน้ำท่วมเกิดขึ้นแล้วใน 7 จุด แต่ยังไม่มีรายงานดินถล่ม
ด้านประชาชนในดินแดนแห่งนี้ต่างเร่งเตรียมตัวรับมือกับไต้ฝุ่นที่จะเคลื่อนตัวเข้ามา โดยหลายคนได้แห่กันไปซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆ เพื่อกักตุนอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ขณะที่เริ่มมีกระแสลมพัดแรงในช่วงบ่ายวานนี้ โดยพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะเข้ามาใกล้เมืองมากที่สุดและพัดเข้าสู่มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ในช่วงเช้าวันนี้ (2 กันยายน)
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วม (Joint Typhoon Warning Center) ระบุว่า ศูนย์กลางของพายุน่าจะยังคงอยู่นอกชายฝั่ง ไม่ได้เคลื่อนตัวเข้ามาพัดผ่านแผ่นดิน และจะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้ดินแดนแห่งนี้ จนมีระดับความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับ 2
ภาพ: Vernon Yuen / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
