ความเชื่อเรื่องโชคลาภและการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิตทุกๆ ด้านนั้น อยู่ในสายเลือดของผู้คนมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะคนไทย
ประกอบกับความกล้าลงมือทำของ บุ๊ค-หัสวีร์ วิรัลสิริภักดิ์ และ เคน-นันท์ธร พรกุลวัฒน์ ที่ต้องการออกแบบเครื่องประดับเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้คนทุกวัย ทั้งคู่จึงร่วมกันปลุกปั้นแบรนด์ Harmenstone ด้วยความตั้งใจว่า จะนำเอาศรัทธาและความเลื่อมใสกับความเป็นแฟชั่นนำสมัย ให้มาอยู่รวมในเครื่องประดับเรียบหรู ซึ่งยกย่องตัวตนของผู้สวมใส่ได้อย่างครบถ้วนและลงตัว
จากวันแรกจนถึงวันนี้ ตลอดอายุ 5 ปีเต็มของแบรนด์ Harmenstone ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทั้งสองคือเจ้าของธุรกิจวัยหนุ่มที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ Harmenstone ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างประเทศอย่างล้นหลาม จนขึ้นแท่นเป็นธุรกิจความเชื่อที่น่าจับตามองที่สุด
ร่วมทำความรู้จัก Harmenstone กับสองผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ ที่จะมาเล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางอาชีพของตัวเอง จากวิศวกร สู่เจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ พร้อมเผยเบื้องหลังการทำงานและการสร้างธุรกิจให้เป็นที่จดจำ รวมถึงก้าวต่อไปในอนาคตที่จะทำให้ Harmenstone เติบโตไม่หยุดนิ่ง
ความชอบ ความเชื่อ และความปรารถนาให้ชีวิตของทุกคนดีและมีพลัง
“พวกเราชอบเครื่องประดับหินอยู่ก่อนแล้ว แต่รู้สึกว่าเครื่องประดับหินที่มีอยู่ตอนนั้นยังขาดความใหม่ แล้วเราก็อยากได้เครื่องประดับที่ดูโมเดิร์น สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ทุกโอกาส ซึ่งยังไม่มีใครทำ เลยคุยกันว่าอยากทำแบรนด์เครื่องประดับที่เป็นมากกว่าเครื่องประดับธรรมดา เพราะเราอยากให้คนที่ใส่รู้สึกว่าได้รับพลัง เสริมความมั่นใจ และมีชีวิตที่ดี เป็นคุณค่าที่หาไม่ได้จากแบรนด์เครื่องประดับหินทั่วไป Harmenstone จึงก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 เป็นต้นมา
“ส่วนเหตุผลที่ตั้งชื่อว่า Harmenstone ก็มาจากการรวมคำระหว่าง Harmony กับ Stone เพื่อสื่อถึงการผสมผสานกันของความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขในชีวิต ซึ่งเราตั้งใจส่งต่อ Harmony เหล่านี้ผ่าน Stone หรือหินธรรมชาติที่เราคัดสรรมาแล้วให้ลูกค้าโดยตรง”
หลังจากบุ๊คเริ่มเท้าความถึงก้าวแรกของแบรนด์ ซึ่งเกิดจากความชอบและความสนใจร่วมกันของตนและเคน เคนจึงกล่าวเสริมว่า “เมื่อเรารู้โจทย์แล้วว่าอยากทำอะไร ให้ใคร และเพื่ออะไร ก็กลายมาเป็นหัวใจหลัก หรือ 3 Key Points ของแบรนด์ Harmenstone นั่นคือ เครื่องประดับ ศรัทธา และสมัยใหม่”
“แต่แค่อัญมณีหินที่มาจากแหล่งธรรมชาติ แม้จะมีความหมายเฉพาะตัวก็ยังไม่ถือเป็นจุดเด่นที่จะทำให้คนหันมาสนใจใส่เครื่องประดับได้มากพอ สิ่งที่แบรนด์ของเราทำต่อมาคือ รีดีไซน์ขนาดหินให้หลากหลาย มีทั้งเม็ดใหญ่และเม็ดเล็ก แล้วเพิ่มชาร์ม หรือจี้ที่ทำด้วยวัสดุเงินแท้ ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 สี คือ สีทอง เงิน โรสโกลด์ และแบล็กโรเดียม เราจึงมั่นใจว่าเครื่องประดับข้อมือของ Harmenstone ดูทันสมัย และเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนจริงๆ”
เรียกได้ว่าการถือกำเนิดขึ้นของแบรนด์ Harmenstone ไม่ใช่เป็นแค่ Game Changer ในธุรกิจความเชื่อ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนภาพจำให้เครื่องประดับหินนำโชคดูโมเดิร์นขึ้นมาก และยังเป็น Trendsetter หรือผู้สร้างเทรนด์และกระแสนิยมครั้งใหญ่ในกลุ่มลูกค้าสายมูเตลู ซึ่งทั้งหมดเป็นผลลัพธ์ของการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลตามหลักวิศวกรรมที่ทั้งคู่จบการศึกษามา
จุดพบกันระหว่างหลักการของวิศวกรรมและความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
วิศวกรรมกับมูเตลู เหมือนสองสิ่งที่ไม่น่าจะข้องเกี่ยวกันได้ แต่บุ๊คและเคนนั้นคิดต่าง เพราะพวกเขารู้จักประยุกต์ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เข้ากับการก่อร่างสร้างแบรนด์และการทำธุรกิจ Harmenstone จึงเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยวิธีคิดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
“เราทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ พอมาทำธุรกิจรวมกัน โดยเฉพาะเวลาวางแผนการทำงานจึงเข้าใจตรงกันว่า จะทำอะไรก็ตามต้องมีหลักการและเหตุผลรองรับเสมอ ซึ่งเป็นวิธีคิดพื้นฐานของการเรียนวิศวะ ต่อให้เป็นเรื่องมูเตลูก็ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คือเราต้องศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้”
“ก่อนออกแบบองค์เทพทุกครั้ง เราก็ต้องศึกษาตั้งแต่ประวัติความเป็นมาและความหมายของแต่ละปาง รวมไปถึงแสวงหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพิธีปลุกเสกและเบิกเนตร ซึ่งต้องเป็นวัดหรือศาสนสถานเฉพาะแห่งที่ผู้คนบูชาและมีศรัทธาเท่านั้น” เคนอธิบายถึงวิธีคิดของแบรนด์
อันที่จริง Harmenstone คือธุรกิจความเชื่อต้นแบบที่ให้ความสำคัญกับขั้นตอน R&D หรือ Research & Development ซึ่งก็คือการหาข้อมูลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า กว่าแบรนด์จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่สักชิ้น ต้องทุ่มเทเวลาให้กับการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถูกต้องตามหลักความเชื่อต่างๆ
“หลักๆ คือเรื่องมายด์เซ็ตที่เราได้จากการเรียนวิศวะ แล้วนำมาปรับใช้ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจจนถึงการให้บริการลูกค้า เราศึกษากันเยอะมาก จนมีคลังข้อมูลมากพอที่จะทำความเข้าใจความต้องการรอบด้าน ทั้งทิศทางของตลาด ความสนใจของลูกค้า และช่วยคาดการณ์เทรนด์การบูชาองค์เทพและหินมงคลได้” บุ๊คขยายความ
มีชิ้นเดียวในโลก เพิ่มความพิเศษให้เครื่องประดับหินด้วย Customization
Harmenstone ยังเป็นแบรนด์แรกที่ทำ Customization ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกอัญมณีหินและชาร์มตามราศีเกิดและด้านที่ต้องการเน้นได้ด้วยตัวเอง
“อยากเสริมด้านไหน เรามีพนักงานคอยให้คำแนะนำตามหลักความเชื่อและโหราศาสตร์ ลูกค้าเลือกได้ทั้งหินมงคลและชาร์มที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับราศีเกิด เพราะเราอยากให้ลูกค้าได้รับสิ่งมงคลที่พร้อมทำให้ชีวิตดีขึ้น เป็นที่มาของแท็กไลน์ ‘Empower Your Life’ ของแบรนด์ หมายความว่า นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแล้ว ยังช่วยเสริมพลังชีวิต เป็นพลังจากศรัทธาและความเลื่อมใสของผู้บูชา” เคนชี้ให้เห็นจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์ Harmenstone มีจุดแข็ง
“Customization ยิ่งเพิ่มความพิเศษและคุณค่าให้เครื่องประดับ ลูกค้าจะได้สินค้าที่มีลักษณะเฉพาะบุคคล เป็นเครื่องประดับที่มีชิ้นเดียวในโลก ตรงตามหลักโหราศาสตร์ ทั้งวันเกิด ราศี และความเชื่อที่ผู้สวมใส่ยึดถือ
“ลูกค้าเลือกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่หิน ซึ่งแบ่งระดับความหายากออกเป็น 5 ระดับ แล้วหินของเราก็มาจากแหล่งขุดค้นแร่หินธรรมชาติที่ดีที่สุดในแต่ละประเทศทั่วโลก ทำให้ได้หินลวดลายสวยงามและมีเรื่องราวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ชาร์มและองค์เทพก็มีให้บูชาตามความสนใจ ทั้งองค์เจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์ ช่วยเรื่องความก้าวหน้าในชีวิตและขจัดโรคภัยไข้เจ็บ, องค์เทพเจ้าปี่เซียะ ช่วยกักเก็บทรัพย์, องค์พระพิฆเนศวร ช่วยเรื่องความสำเร็จและสมบูรณ์พูนสุข และองค์ท้าวเวสสุวรรณ ช่วยเรื่องธุรกิจและการค้าขาย ซึ่งที่ผ่านมา แบรนด์ Harmenstone ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งทางสาขาหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ จะ Customize ให้ตัวเองก็ได้ หรือเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้คนพิเศษก็สร้างความประทับใจให้ผู้รับ” บุ๊คเล่าให้เห็นภาพกว้างของ Customization
บริการครบครัน พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาไปตลอดการบูชา
คอลเล็กชันเทพเจ้ามงคลคือฮีโร่โปรดักต์ของแบรนด์ Harmenstone โดยเฉพาะเทพเจ้าปี่เซียะมงคล ที่เปิดตัวครั้งแรกต้อนรับเทศกาลตรุษจีน เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 จนถึงปัจจุบันยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าอยู่ตลอด
“อย่างที่บอกว่าแต่ละองค์เทพเป็นสัญลักษณ์ของความมงคลในแต่ละด้าน ขั้นตอนที่เราพิถีพิถันกันมากคือการปลุกเสกและเบิกเนตร องค์พระพิฆเนศวร เรานำไปทำพิธีที่พิฆเนศวรเทวาลัย จังหวัดเชียงใหม่, องค์เทพปี่เซียะมงคล ผ่านพิธีการปลุกเสกที่วัดทิพยวารีวิหาร หรือวัดกัมโล่วยี่ ซึ่งมีอายุมากกว่า 240 ปี วัดพี่น้องของวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อขอพรศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้สักการบูชา เปิดบารมีรับโชคลาภ รับความสำเร็จในหน้าที่การงานและในชีวิตตลอดไป ส่วนองค์เจ้าแม่กวนอิม เป็นเทพที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ พร้อมดลบันดาลและอวยพรให้คำขอของผู้ที่นับถือศรัทธาเป็นไปดังหวัง จึงมีความโดดเด่นและเหมาะกับผู้ที่ปรารถนาการงาน การเงิน และความรักความเมตตา ผ่านพิธีบวงสรวงจากวัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ หนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งเกาะฮ่องกง และองค์ท้าวเวสสุวรรณ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกโดยวัดรังษีสุทธาวาส จังหวัดศรีราชา” บุ๊คอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับองค์เทพ
ที่สำคัญ ก่อนจัดส่งอัญมณีหินให้ถึงมือลูกค้า แบรนด์ Harmenstone รับรองผลการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เพื่อรับประกันว่าเป็นอัญมณีแท้จากธรรมชาติ ส่วนชาร์มและองค์เทพนั้นขึ้นรูปด้วยเงินแท้ (93.5% Silver) โดยช่างมากประสบการณ์กว่า 40 ปี สิ่งมงคลทุกองค์ประกอบต้องผ่านขั้นตอนคลีนซิ่งเพื่อขจัดพลังลบก่อนเสมอ
“เพราะเราตั้งใจส่งความเป็นสิริมงคลให้ถึงคุณลูกค้า เพื่อส่งต่อชีวิตที่ดี แม้แต่สร้อยข้อมือมหาโชครวยพันล้าน บนตัวเรือนจะสลักยันต์มหาโชครวยพันล้าน ปลุกเสกที่วัดเขาตะแบก จังหวัดจันทบุรี ลูกค้ามั่นใจได้เลยว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากแบรนด์ Harmenstone ตลอดอายุการใช้งาน หากใส่ไปเรื่อยๆ แล้วหลวม เอ็นยืดหรือขาด ร้านเรายินดีปรับให้เข้ากับข้อมือ ส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย และใช้เวลาไม่นาน แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น จะเปลี่ยนที่สาขาหรือส่งไปรษณีย์ก็ได้
“ส่วนวัสดุเงินแท้ เราจะอธิบายวิธีการสวมใส่และการดูแลให้ลูกค้าทุกครั้ง หากใช้งานไปนานๆ แล้วลอก ก็นำมาชุบใหม่ได้เหมือนกัน ถ้ามีปัญหาใดๆ ทักมาถามได้ตลอดเวลาทั้งทางไลน์และเพจ เราพร้อมให้คำปรึกษา” เคนเน้นย้ำถึงความสำคัญของบริการหลังการขายที่แบรนด์ Harmenstone ตั้งใจดูแลของชิ้นสำคัญของลูกค้าทุกคน
ก้าวต่อไปที่มั่นคงและเปี่ยมศรัทธาของ Harmenstone
ด้วยความที่แบรนด์ Harmenstone ตั้งใจทำผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ลูกค้าที่เข้ามาบูชาต่างพอใจในสินค้าและการบริการ ซึ่งทั้งคู่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่เป็นผู้ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้ลูกค้า
“ผลตอบรับที่ได้จากลูกค้าส่วนใหญ่คือ ได้งาน ถูกหวย ได้แฟน สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผลิตภัณฑ์ของเราช่วยทำให้ลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการหรือปรารถนา แล้วลูกค้าจะมาแชร์ประสบการณ์หลังนำองค์เทพของเราไปบูชา แม้แต่ลูกค้าต่างประเทศก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมีความเชื่อความศรัทธาคล้ายคลึงกันกับคนไทย เช่น ลูกค้าจากสิงคโปร์ คนจีน คนไต้หวัน คนฮ่องกง เขามาเที่ยวไทยแล้วบูชาผลิตภัณฑ์ของเรา พอชีวิตเขาดีขึ้น มีโชค ก็บอกปากต่อปาก ทำให้คนมาบูชาตามๆ กัน
“เราภูมิใจในความสำเร็จของแบรนด์ เพราะพวกเราตั้งใจทำทุกขั้นตอนจริงๆ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนสวมใส่ได้ เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้จริง แต่เราก็ยังรู้สึกว่าในธุรกิจความเชื่อยังมีเรื่องที่ต้องศึกษาและเรียนรู้อีกเยอะ ทั้งในมุมของธุรกิจและมุมของการออกแบบเครื่องประดับ และมุมของความเชื่อความศรัทธา จุดนี้ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองและทีมต่อไป เพื่อทำให้บริษัทเติบโตไม่หยุดนิ่ง สู่การเป็นผู้นำธุรกิจความเชื่อของประเทศ” เคนกล่าว
นอกจากช่องทางออนไลน์ ปัจจุบันแบรนด์ Harmenstone มีหน้าร้าน 2 สาขา ได้แก่ สาขาไอคอนสยาม ชั้น 1 และสยามเซ็นเตอร์ ชั้น M ในอนาคตมีแผนขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งทั้งบุ๊คและเคนกำลังศึกษาปัจจัยต่างๆ ประกอบ เพราะพวกเขาอยากเพิ่มช่องทางการเข้าถึงที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเป็นอันดับแรก
“เหมือนเวลาจะทำอะไรก็ตาม เราจะคิดถึงลูกค้าก่อนเสมอ เพราะธุรกิจของเราคือการให้บริการ อย่างล่าสุดเราออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Harmenstone คือแบรนด์ Karava ด้วยคอนเซ็ปต์ คารวะองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเติมเต็มพลังแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะออกแบบองค์เทพบูชาตั้งโต๊ะให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ องค์เทพแรกที่เราสร้างคือ องค์พระพิฆเนศวร ปางประทานพร ขนาดประมาณ 18 เซนติเมตร เปิดให้บูชาเป็นรอบ ผ่านพิธีเบิกเนตรที่วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นวัดที่มีองค์พระพิฆเนศวร ปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
“ผลตอบรับดีมากๆ เพราะเราเปิดให้บูชาเป็นรอบๆ สร้างจำนวนจำกัด เราวางแผนสร้างองค์เทพอื่นๆ ให้ลูกค้าได้บูชา ซึ่งต้องรอติดตาม” บุ๊คกล่าวปิดท้าย