×

Grave of the Fireflies ‘แม้ชีวิตนี้ขอดูแค่ครั้งเดียว’ แต่จะเป็นครั้งเดียวที่รักและจดจำไม่ลืมเลือน

15.06.2020
  • LOADING...

“เป็นแอนิเมชันที่ดีและยอดเยี่ยม แต่ชีวิตนี้ขอดูแค่ครั้งเดียว” 

 

เรามักจะอ่านเจอหรือได้ยินคนบอกเช่นนี้อยู่เสมอ เมื่อพูดถึง สุสานหิ่งห้อย (Grave of the Fireflies) ใครไม่เคยดูก็พาลคิดว่า นี่มันแอนิเมชันแบบไหนกันเล่า ถึงทำให้ใครต่อใครรู้สึกแบบนั้น และเชื่อว่า คงมีหลายคนแน่ๆ ที่ลงท้ายเลือกจะไม่ดูมัน เพียงเพราะหวั่นเกรงต่อเสียงเล่าขานต่างๆ นานาถึงเรื่องราวเศร้าสลด

 

ทั้งที่แม้มันจะเป็นแอนิเมชันที่ ‘อาจจะดูครั้งเดียวในชีวิต’ จริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแอนิเมชันที่ควรค่าต่อการได้ดู ได้รัก เติบโต และจดจำในหลากหลายแง่มุม

 

 

*บทความเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของแอนิเมชัน 

 

เนื้อหาของ Grave of the Fireflies นั้นบอกเล่าถึงด้านมืดของสงคราม ผ่านชะตากรรมอันเลวร้ายของสองพี่น้อง เซตะ วัย 14 ปี และเซ็ตซึโกะ วัย 4 ปี ที่ต้องเผชิญกับด้านมืดของสงครามอย่างเดียงสาจวบจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ขณะเดียวกันมันเผยแง่มุมมืดหม่นและทึมเทาของมนุษย์ที่ต้องเอาตัวรอดในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต 

 

และสิ่งที่ผู้ชมจะได้เจอแน่ๆ คือประสบการณ์ที่ได้ร่วมซึมซับ เอาใจช่วย ก่อนที่สุดท้ายแล้วเราจะพบกับความสิ้นหวัง สั่นสะเทือน ชนิดที่ยากจะเก็บน้ำตาไว้ได้ 

 

Grave of the Fireflies กำกับโดย อิซาโอะ ทาคาฮาตะ หนึ่งในแอนิเมเตอร์ชั้นเยี่ยม และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ (ร่วมกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ และ โทชิโอะ ซูซูกิ)  โดยดัดแปลงมาจากนวนิยายกึ่งชีวประวัติของ โนซากะ อากิยูกิ นักประพันธ์ชาวญี่ปุ่น เรื่อง Hotaru no Haka ที่เคยสูญเสียน้องสาวไปในช่วงสงครามด้วยโรคขาดสารอาหาร และเมื่อคิดจะหยิบนวนิยายชิ้นนี้ขึ้นมาสร้าง ทาคาฮาตะก็สร้างมันอย่างเคารพต้นฉบับ โดยเปลี่ยนแปลงเฉพาะเรื่องราวในฉากเปิดเรื่อง 

 

ทาคาฮาตะเคยให้สัมภาษณ์ถึงฉากเปิดเรื่องของ Grave of the Fireflies เมื่อเซตะกำลังจะตาย และวิญญาณของเขากำลังได้พบกับเซ็ตสึโกะ น้องสาวที่ตายไปแล้วก่อนหน้า 

 

“ถ้าผู้ชมรู้ตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่องว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองคนจะต้องตาย พวกเขาจะพร้อมสำหรับการดูหนังมากกว่า ผมจึงพยายามลดความเจ็บปวดของผู้ชมโดยการเปิดเผยทุกอย่างตั้งแต่ต้นเรื่อง” นอกจากนั้นเขายังเปิดเผยอีกว่า 

 

“หนังเรื่องนี้ให้โอกาสผมได้ไปเรียนรู้ความรู้สึกในแบบใหม่ๆ ของแอนิเมชัน โดยการบันทึกภาพของโลกใบนี้ผ่านเด็กสองคนที่อาศัยอยู่บนโลก และผมอยากจะถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นสิ่งที่มนุษย์นั้นทำ เมื่อพวกเขาถูกต้อนจนจนมุม”

 

 

ตลอดชีวิตการเป็นแอนิเมเตอร์ ทาคาฮาตะสร้างผลงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจไว้มากมายกว่า 20 เรื่อง โดยเฉพาะผลงานโดดเด่นในช่วงหลังจากก่อตั้งสตูดิโอจิบลิอย่าง Grave of the Fireflies (1988), Only Yesterday (1991), Pom Poko (1994), My Neighbors the Yamadas (1999) และผลงานสุดท้ายที่ได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วโลกอย่าง The Tale of the Princess Kaguya (2013) 

 

ล่าสุด Grave of the Fireflies ก็เพิ่งจะครบรอบ 32 ปี ของการออกฉายไปเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา (เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1988) และแม้ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ จะเสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2018 ด้วยวัย 82 ปี แต่ก็เชื่อแน่ว่า ผลงานของเขาจะยังถูกยกย่องและจดจำในฐานะหนึ่งแอนิเมชันที่ทรงคุณค่า อีกทั้งยังได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถถ่ายทอดความโหดร้ายของสงครามได้อย่างลึกซึ้งและสมจริงสมจังที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์แอนิเมชัน 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

FYI
  • Grave of the Fireflies คว้า 2 รางวัลจากงานมหกรรมภาพยนตร์นานาชาติสำหรับเด็กที่ชิคาโก ในปี 1994 
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง อิซาโอะ ทาคาฮาตะ และ ฮายาโอะ มิยาซากิ แอนิเมเตอร์ชื่อดังก้องโลก เจ้าของผลงานอย่าง My Neighbor Totoro (1988), Kiki’s Delivery Service (1989), Porco Rosso (1992), Princess Mononoke (1997) และ Spirited Away (2002) ฯลฯ นั้นลึกซึ้งทั้งในแง่ความเป็นเพื่อนรัก เพื่อนร่วมงาน คู่แข่งขันในการสร้างผลงานแอนิเมชันที่ยอดเยี่ยม และสำคัญที่สุดคือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ที่สร้างผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันอันเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
  • ทั้งคู่เจอกันและร่วมงานกันครั้งแรกที่ Toei Animation ในปี 1963 ก่อนที่ต่อมาจะจับมือกันก่อตั้งสตูดิโอจิบลิขึ้นในปี 1985 
  • มากไปกว่านั้น ความจริงแล้ว Grave of the Fireflies นั้นเข้าฉายที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในวันที่ 16 เมษายน 1988 โดยเป็นวันเดียวกับการเข้าฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน My Neighbor Totoro ซึ่งถือเป็นผลงานการเขียนบทและกำกับเรื่องที่ 2 ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ กับสตูดิโอจิบลิ 
  • ผลงานของทั้งคู่นั้นมีแนวทางการสร้างงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Grave of the Fireflies นั้นเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่มีเนื้อหาจริงจัง เผยถึงความชั่วร้ายของสงครามได้อย่างโศกสลด ขณะที่ My Neighbor Totoro ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นั้นอบอวลไปด้วยความอบอุ่น สดใส เต็มไปด้วยจินตนาการ หากแต่สิ่งที่ ‘เพื่อน’ ผู้สร้างสรรค์ผลงานมีคือ บาดแผลความทรงจำวัยเด็กเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ติดตัวมาเหมือนๆ กัน 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising