แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ประกาศแผนการก่อตั้งกองทุน ‘GrabForGood’ ด้วยเงินตั้งต้นรวม 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,647 ล้านบาท (มีทั้งเงินสดและส่วนที่เป็นหุ้นของบริษัท) เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของพาร์ตเนอร์คนขับ พาร์ตเนอร์ร้านค้าบนแพลตฟอร์มในอาเซียน
โดยมีการเปิดเผยอีกด้วยว่า เงินช่วยเหลือ 20 ล้านดอลลาร์ จากกองทุนในช่วงแรกนี้จะถูกนำไปใช้กับการ ‘จัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19’ อำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้กับพาร์ตเนอร์คนขับที่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉพาะ ‘กลุ่มที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ’
(เกณฑ์ของ Grab คือ ต้องเป็นพาร์ตเนอร์คนขับ หรือพาร์ตเนอร์ผู้จัดส่งอาหารที่ให้บริการบนแพลตฟอร์ม Grab อย่างน้อย 3 เดือนก่อนการดำเนินการจัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และเป็นผู้ที่มีความประพฤติดีตามหลักปฏิบัติและจรรยาบรรณคนขับ จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรแกรมการฉีดวัคซีนกับ Grab)
สำหรับเงินตัดตั้งกองทุนมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยเงินทั้งหมด 3 ส่วนหลัก ได้แก่
- เงินสดจำนวน 50 ล้านดอลลาร์
- หุ้นของบริษัท ซึ่งมีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
- เงินสมทบจากผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์ม 25 ล้านดอลลาร์ (แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง, ฮุยหลิงตัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท และหมิงหม่า ประธานบริษัท)
แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Grab กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนในครั้งนี้ว่า “ตั้งแต่วันแรกที่บริษัทได้ก่อตั้งขึ้น Grab ยึดมั่นพันธกิจในการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด การจัดตั้งกองทุน GrabForGood ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นที่ Grab ต้องการสานต่อเจตนารมณ์ในการยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพาร์ตเนอร์ของเรา รวมถึงสังคมในวงกว้าง
“ในช่วงเริ่มต้น กองทุน GrabForGood นี้จะถูกนำมาใช้กับโครงการเร่งด่วนอย่างการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่ยังขาดแคลน และด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการมีส่วนในการพัฒนาและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับประเทศที่ Grab ดำเนินธุรกิจอยู่ เราจึงวางแผนที่จะดำเนินโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยสร้างรากฐานทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ผู้คนในสังคมเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาผ่านกองทุนนี้ด้วย”
ขณะที่ในระยะยาวนั้น กองทุน GrabForGood จะมุ่งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมด้านการศึกษา การทำประกัน การให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มคนหรือชุมชนที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงิน การสนับสนุนผู้พิการ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
