×

Grab ชูวิสัยทัศน์แอปฯ สำหรับทุกวัน รอแบงก์ชาติอนุมัติลุย e-Wallet เล็งปล่อยเงินกู้ให้คนขับ

08.05.2018
  • LOADING...

Grab ผู้ให้บริการไรด์แชริ่งเปิดวิสัยทัศน์สู่การเป็นแอปพลิเคชันสำหรับทุกวันของผู้ใช้ (Everyday Application) มุ่งรวม 3 บริการครบจบในแอปฯ เดียว เปรยรอแบงก์ชาติอนุมัติลุยตลาดธุรกรรมเปิด e-Wallet และบริการปล่อยเงินกู้คนขับ เผยฟีดแบ็กหลังรวมกับ Uber จำนวนคนขับเพิ่มขึ้น 10-15% เชื่อไม่ผูกขาดตลาดเพราะผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลาย

 

วันนี้ (8 พ.ค.) Grab ประเทศไทย ได้เปิดแถลงการณ์ดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์การเป็น Everyday Application หรือแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันสำหรับทุกวันของผู้ใช้ โดยจะรวมทุกบริการในปัจจุบันที่มีใน 3 หมวดหมู่ให้ครบครันและใช้งานได้ง่ายมากขึ้นผ่านแอปพลิเคชันของ Grab เพียงแอปฯ เดียว ได้แก่

  1. Transport Solutions (GrabTaxi, GrabCar, GrabBike (Win), GrabXL, GrabRent, GrabRoddaeng)
  2. Delivery Solution (ส่งของทางมอเตอร์ไซค์ (GrabBike, GrabFood)
  3. Payment Financial Solution (GrabPay (ลิงก์กับบัตรเครดิต), Grab Rewards)

 

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย เผยว่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากฉลองการให้บริการผู้โดยสารในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครบหลัก 1 พันล้านครั้งตั้งแต่เปิดตัว บริษัทจึงได้ทำแบบสอบถามกับผู้ใช้ว่าต้องการเห็น Grab เป็นอย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า และพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่อยากให้บริการของ Grab กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ครบเบ็ดเสร็จในแอปฯ เดียว ด้วยเหตุนี้เอง Grab จึงมุ่งสู่การพัฒนาให้บริการแบบไร้รอยต่อพร้อมๆ ไปกับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ

 

“นี่คือที่มาของแรงบันดาลใจที่ทำให้เราปรับปรุงแอปพลิเคชันหรือรวมทุกบริการให้อยู่ในแอปฯ เพียงแอปฯ เดียว หรือ Daily Life Application ของผู้ใช้บริการทุกคน ทำให้แอปฯ ออนไลน์ของเราตอบสนองการใช้ชีวิตออฟไลน์ของผู้บริโภคได้ครบทุกด้านในแอปฯ เดียว (O2O Market) ตัวอย่างเช่น สมมติในอนาคต การเดินทางไปสถานที่ใดสถานที่หนึ่งอาจจะจำเป็นต้องต่อระบบขนส่งมวลชนหลายต่อ แต่ Grab อยากให้ในอนาคตผู้ใช้สามารถจองบริการบนแอปฯ แค่ครั้งเดียวก็สามารถเดินทางได้ต่อเนื่องเลย เช่น สมมติเรียกบริการมอเตอร์ไซค์ไปสถานีรถไฟฟ้า เลือกไปสถานีที่ต้องการ พอลงมาก็ต่อมอเตอร์ไซค์ไปถึงที่หมายได้เลยทันที ทำทุกอย่างนี้ด้วยการบุ๊ก (จองบริการ) แค่ครั้งเดียว Grab จะช่วยคิดวิธีที่ง่ายที่สุดจองบริการครั้งเดียวไปได้ทั้ง Chain

 

“การเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนต่างๆ เข้าด้วยกันคือเรื่องที่สำคัญ นั่นคือส่ิงที่เราคิดคร่าวๆ ว่าอยากให้เป็น เพราะว่ารัฐบาลในทุกประเทศแม้กระทั่งประเทศไทยควรจะให้ความสำคัญกับการสร้างโครงสร้างขั้นพื้นฐานการคมนาคมภายในประเทศ ทั้งสถานีขนส่งรถไฟ, สนามบิน, ท่าเรือ และสถานีรถไฟฟ้า เพื่อให้เชื่อมต่อเข้าถึงกัน ซึ่งเราจะพยายามสร้างบริการเพื่อแก้ Pain point การเดินทางของคนในสังคมวันนี้”

 

ส่วนการเปิดแพลตฟอร์มขยายไปบนบริการ Payment Financial Solution นั้น Grab บอกว่ากำลังรอให้ทางแบงก์ชาติดำเนินการอนุมัติออกใบอนุญาตให้อยู่ โดยปัจจุบัน Grab มี GrabPay (ยังต้องผูกกับบัตรเครดิต) และ GrabRewards แล้ว แต่ในอนาคตอยากเปิดให้บริการ Grab e-Wallet หรือกระเป๋าสตางค์ออนไลน์เป็นของตัวเอง และยังมีแพลนจะเปิด Better 365 บริการปล่อยเงินกู้สำหรับคนขับ Grab ในระบบอีกด้วย เนื่องจากการเข้าถึงธุรกรรมเงินกู้บนธนาคารยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่สำหรับใครหลายๆ คน

 

“วันนี้คนขับมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ส่วนใหญ่มักจะเลือกกู้เงินนอกระบบ หรือหากเป็นในระบบก็จะไม่ใช่ธนาคารและมีราคาสูง สร้างภาระการใช้ชีวิตของเขาเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่เราต้องการทำคือ ปกติถ้าพี่ๆ คนขับเหล่านี้จะขอกู้เงินจากธนาคารก็จะต้องมี Statement เงินเดือน ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะไม่มี ดังนั้นสิ่งที่เรามีในตอนนี้คือ เมื่อคุณมาขับรถบนแพลตฟอร์ม Grab เราจะรู้เลยว่า Cash flow และรายรับที่คุณได้แต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง และจากข้อมูลเหล่านั้นเราสามารถนำมาใส่ในระบบ Scoring ของเราเพื่อช่วยตัดสินใจในการเลือกปล่อยกู้เพื่อให้ชีวิตพาร์ตเนอร์คนขับของเราดีขึ้นได้ นี่คือหนึ่งในวิสัยทัศน์ที่เราอยากเปิดเป็นบริการให้กับคนขับของเรา”

 

ขณะที่ภาพรวมหลังเข้าควบรวมกิจการกับ Uber เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธรินทร์บอกว่า ในแง่การดำเนินการและการตอบรับเป็นไปด้วยดี เพราะพาร์ตเนอร์คนขับส่วนใหญ่ก็ใช้ทั้ง Grab และ Uber อยู่แล้ว เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง คนขับหลายคนก็ให้ฟีดแบ็กว่าคล่องตัวขึ้น เพราะไม่ต้องสลับใช้หลายๆ แอปฯ โดยมีสัดส่วนคนขับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ 10-15% ส่วนคำถามที่ว่าผูกขาดการให้บริการหรือไม่ ตนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากผู้บริโภคมีทางเลือกบริการอยู่มากมายในปัจจุบัน แต่ผู้ให้บริการเองก็ต้องพัฒนาและปรับปรุงระบบของตนให้ดีด้วย

 

พร้อมกันนี้ Grab ยังได้เปิดตัว GrabFood บริการส่งอาหารอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ใช้ ด้วยจำนวนร้านอาหารในระบบที่มีมากถึง 4,000 ร้าน และจำนวนคนขับส่งของที่มีอยู่มากมาย ผู้ใช้สามารถเลือกสั่งอาหารจากร้านในรัศมี 5 กิโลเมตรที่ตนอยู่ เพื่อให้ส่งอาหารได้รวดเร็ว และยังมีโปรโมชันต่างๆ ให้เลือกอีกมาก โดยจะประเดิมให้บริการในกรุงเทพฯ ก่อนมองถึงโอกาสความเป็นไปได้ขยายพื้นที่ให้บริการในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising