ทองคำทะลุ ‘2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์’ ครั้งแรกรอบ 1 ปี นักลงทุนผวาวิกฤตแบงก์ลาม

วันนี้ (20 มีนาคม) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทะลุราคา 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วงระหว่างวัน ก่อนจะย่อลงตัวมาซื้อขายกันที่ระดับ 1,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสาเหตุหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองคำมาจากความกังวลต่อวิกฤตภาคธนาคารในสหรัฐอเมริกาและยุโรปว่าอาจจะลุกลามต่อ แม้ว่าบางส่วนจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐแล้วก็ตาม โดยนักลงทุนยังวิตกต่อวิกฤตต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับมาตรการสภาพคล่องฉุกเฉินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆ

อีกทั้งนักลงทุนยังแห่เข้าถือครองทองคำ เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงใกล้การประชุมของ Fed ซึ่งจะประชุมระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคมนี้

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Fed ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆ ประกาศมาตรการใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคการธนาคาร เพื่อยับยั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการล่มสลายของภาคธนาคารหลายรายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจาก Credit Suisse สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ถูกเทกโอเวอร์โดย UBS Group สถาบันการเงินคู่แข่งร่วมสัญชาติ ภายใต้ข้อตกลงที่อำนวยความสะดวกโดยหน่วยงานกำกับดูแล

ความผันผวนในภาคการธนาคารทำให้นักลงทุนเกิดความตื่นกลัวว่าวิกฤตจะใหญ่โตกว่าที่คาดคิดไว้ และอาจลามส่วนอื่นๆ ของระบบเศรษฐกิจ หนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และผลักดันให้ราคาทองคำเข้าใกล้ 2,000 ดอลลาร์

นอกจากทองคำแล้ว โลหะมีค่าอื่นๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยราคา Silver Futures ขยับขึ้น 0.3% สู่ระดับ 22.525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคา Platinum Futures หรือทองคำขาว พุ่งขึ้น 0.2% สู่ระดับ 979.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของโลหะอุตสาหกรรมนั้น ราคาทองแดงพุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น รับข่าวดี กรณีการเติมสภาพคล่องสู่ระบบเศรษฐกิจที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำน้อยลงในปีนี้ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทองแดงพุ่งขึ้น 0.9% เป็น 3.9370 ดอลลาร์ต่อปอนด์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง: