×

ย้อนรอยการเคลื่อนไหวของ ‘ทองคำ’ รับ QE Tapering ในปี 2013

03.09.2021
  • LOADING...
gold

แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed มีบทบาทสำคัญต่อราคาทองคำอย่างมาก เพราะจากสถิติในอดีต เห็นได้ชัดว่าในช่วงที่ Fed ผ่อนคลายนโยบายการเงินทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ดังเช่นที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2009-2011 และช่วงปี 2020 ขณะที่ในช่วงที่ Fed ยุติการผ่อนคลายนโยบายการเงินและกลับมาคุมเข้มนโยบายการเงินก็ส่งผลกดดันราคาทองคำเช่นกัน ดังที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2013-2018 ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งดอลลาร์สหรัฐกับทองคำเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม  

 

ปีนี้เองดูเหมือนจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อทางด้านนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจะมองข้ามไม่ได้ วันนี้ YLG จึงขอพาท่านผู้อ่านย้อนกลับไปในปี 2013 เพื่อไล่เรียงไทม์ไลน์ของการดำเนินการลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของ Fed พร้อมการตอบรับของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้นักลงทุนได้นำเอาสถิติไปใช้เป็นแนวทางการลงทุนในอนาคต

 

gold

 

 

  • ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2013 เมื่อ เบน เบอร์นันเก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กล่าวในการแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสว่า Fed อาจลดวงเงินของโครงการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงจนแตะระดับต่ำสุดของปี 2013 ที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2013 โดยปรับตัวลดลงถึง 195 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากราคาปิดของวันก่อนหน้าที่เบอร์นันเกเริ่มกล่าวถึงการลด QE ครั้งแรก

 

  • ก่อนที่ราคาทองคำจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม 2013 ก่อนที่จะแตะระดับสูงสุดในวันที่ 28 สิงหาคม 2013 ที่ 1,433 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดถึง 253 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

  • อย่างไรก็ดี ราคาทองคำค่อยๆ ปรับตัวลดลงนับแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งในเดือนธันวาคม เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ Fed รู้สึกมั่นใจในการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 18 ธันวาคมปี 2013 Fed มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลด QE ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และโดยการลด QE เริ่มต้นดำเนินการจริงในเดือนมกราคม 2014 จนกระทั่งมาตรการ QE ยุติลงในเดือนตุลาคม 2014

 

  • นั่นทำให้ราคาทองคำปิดตลาดในปี 2013 ที่ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าราคาทองคำมีการปิดปรับตัวลดลงราว 165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากราคาปิดของวันที่ Fed เริ่มส่งสัญญาณลดวงเงิน QE ครั้งแรก และปิดตลาดในปี 2013 ด้วยการปรับตัวลดลงมากถึง 469.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ -28% อย่างไรก็ดี ในปีดังกล่าวที่ราคาปรับตัวลดลงไม่ใช่จากประเด็น Fed เรื่องเดียว โดยราคาทองคำปรับตัวลงแรงในช่วงเดือนเมษายน 2013 จากข่าวที่รัฐบาลไซปรัสเทขายทองคำในคลังสำรองเพื่อระดมทุนให้ได้ 400 ล้านยูโร เพื่อให้บรรลุเงื่อนไขขอรับเงินกู้จากนานาชาติมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร จนก่อให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจะเทขายทองคำเช่นเดียวกับไซปรัส 

 

ดังนั้นหากอ้างอิงจากสถิติ พบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ ดังนี้

 

  1. ราคาทองคำจะตอบสนองในเชิงลบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ Fed มากที่สุดในช่วงก่อนที่ Fed จะดำเนินการลด QE จริง 
  2. ราคาทองคำยังปรับตัวลงต่อในช่วงที่ Fed เริ่มลด QE ครั้งแรกไปจนถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก แต่การตอบสนองเชิงลบไม่มากเท่าระยะแรก และราคามีการปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในเดือนที่ Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก  
  3. ราคาทองคำเริ่มยกฐานขึ้นนับตั้งแต่ Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2015

ดังนั้นหาก Fed มีการประกาศดำเนินการลด QE ภายในสิ้นปีนี้ และหาก History repeats itself อาจมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงจากข่าวดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี Past performance do not determine future performance ที่สำคัญคือ ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวตามนโยบายการเงินของ Fed เพียงปัจจัยเดียว ขณะที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงมากเท่าใด และจะสามารถต้านต่อปัจจัยกดดันนี้ได้หรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบ นักลงทุนทองคำจึงต้องเตรียมพร้อมวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising