การตัดสินใจที่เด็ดขาดของ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์! ลิเวอร์พูลจะไม่มี จินี ไวจ์นัลดุม ร่วมทางอีกต่อไป

อนาคตของ จอร์จินิโอ หรือ ‘จินี’ ไวจ์นัลดุม ดูเหมือนจะมีบทสรุปที่ชัดเจนแล้ว!

ที่ผ่านมาเรื่องอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์ของมิดฟิลด์อเนกประสงค์เป็นหนึ่งในมหากาพย์ขนาดย่อมที่คาราคาซังมาเป็นระยะเวลายาวร่วมปีแล้ว

จะอยู่หรือไป ไม่มีใครที่ออกมาพูดให้ชัดสักคน ทั้งๆ ที่เวลาล่วงเลยมาถึงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายแล้วที่ดาวเตะชาวดัตช์เหลือสัญญากับลิเวอร์พูล

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีรายงานข่าวทั้ง 2 กระแส ด้านหนึ่งก็เชื่อว่าไวจ์นัลดุมจะไปจากสโมสรหลังหมดสัญญา เนื่องจากไม่ได้รับข้อเสนอที่ดีพอที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของเขาที่มีต่อทีม ทั้งๆ ที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมจะเรียกใช้งานก่อนคนอื่นเสมอ

สิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลลังเลคืออายุของไวจ์นัลดุมที่มาถึง ‘หลักสาม’ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับวงการฟุตบอลสมัยใหม่ที่สโมสรในระดับท็อปจะพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสัญญาระยะยาวให้แก่นักเตะที่อายุ 30 ปีขึ้นไป

แต่เพราะไวจ์นัลดุมเป็นตัวหลักในแดนกลางของทีมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่เพื่อนร่วมทีมต่างผลัดกันล้มหมอนนอนเสื่อ กองกลางชาวดัตช์เป็นคนเดียวในทีมที่ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และยังลงเล่นต่อเนื่องทุกนัดจนควรได้รับรางวัล Iron Man เป็นกรณีพิเศษ

ความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเขาทำให้มีข่าวว่าคล็อปป์พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเกลี้ยกล่อมสโมสรให้ต่อสัญญากับไวจ์นัลดุม – หนึ่งใน 4 กัปตันของทีมรองจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และเจมส์ มิลเนอร์

สำหรับตัวของไวจ์นัลดุมเอง ด้วยความรักและผูกพันกับสโมสร ทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้จะผ่านพ้นวันที่ 1 มกราคมที่มีสิทธิ์มีเสียงในการเจรจากับสโมสรอื่นโดยไม่ต้องขออนุญาตจากต้นสังกัดแล้ว ก็ยังไม่มีการประกาศการตัดสินใจออกมา

ว่ากันว่าส่วนหนึ่งเพราะเขาเองก็ยังไม่มั่นใจในอนาคตกับทีมที่ให้ความสนใจทั้งบาร์เซโลนา หรืออินเตอร์ มิลาน

อีกส่วนก็เพราะเขายังเหลือที่เอาไว้ ‘เผื่อใจ’ ที่จะหาทางตกลงกับลิเวอร์พูลให้ได้ ก็จะเป็นทางออกที่สวยงามสำหรับทั้งสองฝ่าย

แต่ปัญหาก็ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น คือการที่ลิเวอร์พูล ‘ลังเล’ ที่จะทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายไวจ์นัลดุม ที่ต้องการค่าเหนื่อยสูงกว่าที่ได้รับอยู่เดิม 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

อย่างไรก็ดีล่าสุดตามรายงานจาก Liverpool Echo สื่อท้องถิ่นที่เชื่อถือได้สูงมีการรายงานว่า ตอนนี้ ‘จุดยืน’ ของลิเวอร์พูลต่อกรณีสัญญาของไวจ์นัลดุมนั้นชัดเจน

พวกเขาจะไม่เพิ่มเงินให้ตามข้อเรียกร้อง และนั่นหมายถึงหากจินีไม่ยอมรับข้อเสนอของสโมสร เขาก็จะเหลือเวลาอยู่กับสโมสรถึงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น

แน่นอนว่าจุดยืนของนักเตะเองก็ชัดเจนว่าเขา ‘รับไม่ได้’ กับข้อเสนอของสโมสรเหมือนกัน

คนที่ตัดสินใจในเรื่องนี้คือ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการสโมสรที่ได้รับการยกย่องอย่างมากว่าเป็นสุดยอดนักเจรจาแห่งยุคใหม่ที่ปิดดีลดีๆ ให้เห็นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

เอ็ดเวิร์ดส์ได้รับมอบหมายจากกลุ่มเจ้าของสโมสร FSG ในการตัดสินใจเรื่องยากๆ นี้ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประเมินอย่างถ้วนถี่ รวมถึงการรับฟังความเห็นของผู้จัดการทีมอย่างคล็อปป์ด้วย เพียงแต่เมื่อมาถึงจุดนี้ผู้อำนวยการคนเก่งไม่ต้องการจะนำลิเวอร์พูลเผชิญความเสี่ยงในแบบเดียวกับที่อาร์เซนอลเจอในกรณีของ เมซุต โอซิล ที่กลายเป็น ‘หายนะ’ ของทีม

ทั้งนี้ แม้สัญญาใหม่ของไวจ์นัลดุม คงไม่ถึงขั้นที่โอซิลได้รับจากอาร์เซนอลในระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่การต่อสัญญายาวกับนักเตะที่อายุมากนั้น ไม่มีอะไรที่สามารถรับประกันได้ว่านักเตะคนนั้นจะยังรักษาความมุ่งมั่นในการเล่น และรักษามาตรฐานในการเล่นเอาไว้ได้ในระดับเดิมอีก

ดังนั้น ถึงไวจ์นัลดุมจะเป็นคีย์แมนในฤดูกาล และเป็นคน ‘ปิดทองหลังพระ’ ด้วยการเล่นที่เข้มแข็ง การอุดช่องว่างในทีม ความสามารถในการครองบอลที่ช่วยให้ทีมครองเกมได้ และเป็นฐานของทีมให้เพื่อนๆ ได้ความโดดเด่นไปแทน แต่เอ็ดเวิร์ดส์ตัดสินใจแล้วว่าเขามีค่าเท่ากับที่สโมรประเมิน

ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น

ดังนั้น เมื่อจุดยืนแตกต่างกันก็เดินทางร่วมกันต่อไม่ได้ และต่อให้การหานักเตะเพื่อทดแทนคนสำคัญระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่เพราะทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป เอ็ดเวิร์ดส์และลิเวอร์พูลก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปข้างหน้าต่อ

สำหรับเอ็ดเวิร์ดส์ นี่เป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว แต่ไม่ได้ยากเกินไป

อย่างน้อยครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยเสีย ฟิลิปป์ คูตินโญ นักเตะหมายเลขหนึ่งของทีมไป แต่นั่นทำให้ได้ ฟาน ไดจ์ค และ อลิสซง ที่กลายเป็นส่วนสำคัญทำให้ทีมคว้าได้ทั้งแชมป์ยุโรปและแชมป์ลีกที่รอคอยมายาวนานกว่า 30 ปีได้สำเร็จ

สำหรับไวจ์นัลดุม เมื่อถึงเวลาที่เขาจากทีมไป เดอะ ค็อป จะรู้ว่าการจะหานักเตะที่ทุ่มเทเพื่อทีมมากขนาดนี้ โดยที่แทบไม่เคยปริปากบ่นอะไรเลยเป็นเรื่องที่ยากเหลือแสน

และเขาคู่ควรที่จะได้รับการยกย่องในฐานะ ‘ตำนาน’ คนหนึ่งแห่งแอนฟิลด์

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: