รายงานจาก 5 สถาบันเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีเตือนว่า เยอรมนีอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หากแหล่งซัพพลายก๊าซธรรมชาติรัสเซียถูกตัดกะทันหัน
สเตฟาน คูธส์ ผู้อำนวยการวิจัยแห่ง Kiel Institute for the World Economy หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่า การตัดก๊าซรัสเซียจะผลักเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง
รายงานเตือนว่า เยอรมนีจะสูญเสียผลผลิตทางเศรษฐกิจ 2.2 แสนล้านยูโร (ประมาณ 2.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสองปีข้างหน้า หากเกิดกรณีการขาดแหล่งพลังงานดังกล่าว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีจะขยายตัวเพียง 1.9% ในปี 2022 ก่อนจะหดตัวลง 2.2% ในปี 2023 แต่หากการส่งก๊าซยังดำเนินต่อเนื่อง เศรษฐกิจเยอรมนีจะโต 2.7% ในปีนี้
ทั้งนี้ ผลจากการที่รัสเซียโจมตีเมืองบูชาของยูเครนอย่างโหดร้าย รวมถึงการปิดล้อมกรุงเคียฟก่อนหน้านี้ ได้กดดันให้เยอรมนีต้องตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโกตามแนวทางสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งรวมถึงการตัดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียด้วย
โดยก่อนหน้านี้ผู้นำ EU ได้เห็นพ้องที่จะลดการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย โดยแหล่งข่าวเผยกับ CNN ว่า สหภาพยุโรปจะแบนถ่านหินรัสเซียภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 6 ต่อรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่ EU ยังเรียกร้องให้ออกมาตรการเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียด้วย
อย่างไรก็ตาม การแบนก๊าซในระยะเวลาอันใกล้จะส่งผลกระทบต่อเยอรมนี เนื่องจากเยอรมนีพึ่งพาก๊าซรัสเซียราว 46% ของก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในปี 2020 ซึ่งใช้กับการเพิ่มความอบอุ่นในครัวเรือน ผลิตกระแสไฟฟ้า และจ่ายพลังงานแก่โรงงานต่างๆ
ส่วน EU นั้นกำลังอยู่ในขั้นลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียราว 66% ในปีนี้ และตั้งเป้าตัดการพึ่งพาพลังงานรัสเซียทั้งหมดภายในปี 2027
ภาพ: Daniel Reinhardt / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง: